วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 03:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 56 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2015, 19:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


(ต่อ)

Quote Tipitaka:
[๗๖๐] ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ เป็นไฉน?
ธรรมเหล่าใด วิปปยุตจากนิวรณธรรมเหล่านั้น คือ กุศลธรรม อัพยากตธรรม ประเภท
ที่ยังมีอาสวะ ซึ่งเป็นกามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร ได้แก่ รูปขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์.

ธรรมวิปปยุตจากนิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ เป็นไฉน?
มรรคและผลของมรรคที่เป็นโลกุตตระ และอสังขตธาตุ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
วิปปยุตจากนิวรณ์ และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2015, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: ...

บางครั้งตำราอาจจะดูยืดยาว
แต่นี่เป็น คำอธิบายที่สะท้อน "ทัศนะ" ของนักวิปัสสนา

นักวิปัสสนาจะตีแตกว่า สิ่งนั้น ๆ มีลักษณะเช่นไร เป็นสิ่งใด
ปรากฎได้ด้วยปัจจัยใด อาศัยอะไรปรากฎ อย่างไร และไม่ปรากฎอย่างไร

ลองปฏิบัติแล้วสังเกตการปรากฎ และการดับไปของนิวรณ์
และสังเกตการไม่ปรากฎของนิวรณ์ .... :b1:

ผลของการเฝ้าเพียรพิจารณา ที่ได้ก็จะเป็นดังพระสูตรนั่นล่ะ...

ซึ่งเอกอนก็เห็นว่า พระสูตรนี้งาม
เพราะเป็นการกล่าวถึง นิวรณ์ ตาม step ปัจจยการ เลย

ซึ่งถ้าหากว่านักวิปัสสนาผู้ใดได้พิจารณา ก็จะเห็นตามนั้น... :b8:

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2015, 21:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่า

ทำไม สมาธิจึงดับนิวรณ์ ดับด้วยปัจจัยใด อย่างไร แล้วเป็นไง

ก็ตามนี้ http://www.nkgen.com/374.htm

นับว่าอธิบายได้ดี เพราะเป็นการอธิบายโดยอาศัย ปฏิจจสมุปบันธรรม

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2015, 05:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่า

ทำไม สมาธิจึงดับนิวรณ์ ดับด้วยปัจจัยใด อย่างไร แล้วเป็นไง

ก็ตามนี้ http://www.nkgen.com/374.htm

นับว่าอธิบายได้ดี เพราะเป็นการอธิบายโดยอาศัย ปฏิจจสมุปบันธรรม

:b1: :b1: :b1:

:b8:
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณเอก้อน ที่ยกลิ้งค์นี้มาแบ่งปันสู่กันอ่าน มันช่วยดับวิจิกิจฉาความสงสัยในเรื่องนิวรณ์5 ได้เกือบหมดสิ้น อยากให้ กบ กับ วลัยพรได้อ่านลิ้งค์นี้จังเลยจะได้หมดสงสัยในคำที่ว่า

"นิวรณ์ 5 ถูกกดทับ ข่ม บังได้ด้วย สมถะภาวนา

นิวรณ์ 5 ถูกขุดถอนออกได้ด้วยวิปัสสนาภาวนา"


http://www.nkgen.com/374.htm

:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2015, 06:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รีบเชียว...

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2015, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การอบรมจิต เพื่อความก้าวหน้าของปัญญา

หากยังหมกมุ่นครุ่นคิด ถึงความสุขความยินดีในรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัส อันน่ายินดีในกามรส กามคุณ
หนักมากที่สุดคือ บ้าเซ็กส์ ไหนเลยจะอบรมจิตได้
หยุดเสีย ... ก็ยั้งใจมาอบรมจิตได้ ..... หยุดนิวรณ์ข้อนี้ได้ คือละกามฉันท์แล้วหันหน้าสู่ธรรม

หากยังคุมแค้นคุมคิด อาฆาตมาดร้าย คิดข่มเหงเบียดเบียน ไหนเลยจะอบรมจิตได้
หยุดเสีย ยั้งใจมาอบรมจิต ก็เป็นอันหยุดนิวรณ์ข้อนี้ นี่ละพยาบาท แล้วหันหน้าสู่ธรรม

หากมีความง่วงเหงาหาวนอน ร่างกายเหนื่อยล้าจนไม่อาจกำหนดธรรมได้ สติไม่อาจตั้งขึ้นได้
ร่างกายไม่พร้อมจิตใจไม่พร้อม ก็ต้องดูสาเหตุ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือป่วยเจ็บใด ทำให้มีอาการอย่างนั้น
ก็เร่งแก้ไขเสีย แต่หากจิตหดหู่ก็ต้องหาอุบายแก้ไข เพื่อให้จิตมีกำลังอบรมต่อไป
นิวรณ์เรื่องความหดหู่ง่วงเหงาหาวนอน ก็เพียงนี้

ฟุ้งไปนู่นๆนี่ๆ อันก่อความสะเทือนจิตสะเทือนใจไม่ให้สติตั้งขึ้นมาได้
นี่คืออุทธัจจะกุกกุจะนิวรณ์ ต้องเขียนติดกัน อย่าแยกกันในชั้นนิวรณ์
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายจะคอยชำระแก้ไขให้ถูกทางเพื่อให้จิตสามารถอบรมต่อไปได้อย่างดี

วิจิกิจฉา นี่ตัวนี้ เกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธา
เพราะการศรัทธาในคำสอน ตัวบุคคลอาจจะขัดแย้งกับความคิดความเห็นที่เคยทราบเคยรู้มา
และคอยตั้งข้อสงสัยจนทำให้ไม่อาจพัฒนาอบรมจิตตามพุทธประสงค์ได้
มีแต่ตั้งศรัทธาให้มั่นอย่าลังเลสงสัยเลย เมื่อจะมีพระรัตนตรัยเป็นสรณะแล้วก็จงปฏิบัติไปก่อน ปัญญาจะบอกเองว่าผลที่เกิดขึ้นภายหลังนั้นถูกหรือผิด

นิวรณ์ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายมากมาย และไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว5 ตัว
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเลยครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2015, 05:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
อ้างคำพูด:
นิวรณ์ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายมากมาย และไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว5 ตัว
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเลยครับ

คุณเช่นนั้นคิดว่านิวรณ์เป็นเรื่องง่ายๆหรือครับ ถ้าง่ายผู้คนก็เข้าฌาณทรงฌาณกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วนะครับ
:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2015, 15:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
อ้างคำพูด:
นิวรณ์ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายมากมาย และไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว5 ตัว
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเลยครับ

คุณเช่นนั้นคิดว่านิวรณ์เป็นเรื่องง่ายๆหรือครับ ถ้าง่ายผู้คนก็เข้าฌาณทรงฌาณกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วนะครับ
:b13: :b13:

ครับ ง่ายมาก

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2015, 17:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อ้างคำพูด:
นิวรณ์ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายมากมาย และไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว5 ตัว
อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเลยครับ

คุณเช่นนั้นคิดว่านิวรณ์เป็นเรื่องง่ายๆหรือครับ ถ้าง่ายผู้คนก็เข้าฌาณทรงฌาณกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วนะครับ
:b13: :b13:

ครับ ง่ายมาก

:b12:
แสดงว่าทุกวันนี้คุณเช่นนั้นทรงฌาณ 4 อยู่ได้ตลอดเวลาละกระมังครับ
สาธุอนุโมทนาที่มีคนทำเช่นนี้ได้จริงๆ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2015, 05:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมนั่งอ่านนั่งพิมพ์อยู่นี้...กามไม่ปรากฎ...โกรธไม่มี...ง่วงก็ไม่ง่วง...ไม่คิดโน้นนี้ให้ฟุ้งซ่าน..ไม่ได้สงสัยอะไรเฉย ๆ...อโสกะครับ....ผมต้องอยู่ในฌาน 4 ด้วยเหรอ???

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2015, 06:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ผมนั่งอ่านนั่งพิมพ์อยู่นี้...กามไม่ปรากฎ...โกรธไม่มี...ง่วงก็ไม่ง่วง...ไม่คิดโน้นนี้ให้ฟุ้งซ่าน..ไม่ได้สงสัยอะไรเฉย ๆ...อโสกะครับ....ผมต้องอยู่ในฌาน 4 ด้วยเหรอ???

:b32: :b32: :b32:

:b13:
ย่างที่กบเป็นนี่ท่านเรียกว่า "อยู่ปกติ" ไม่ใช่อยู่ในฌาณ

ที่อยู่ปกติได้นี้เพราะศีลรักษาธรรมคุ้มครอง แต่จะปกติได้ดีแค่ไหนนั้นจะพิสูจน์ได้เมื่อมีผัสสะของทวารทั้ง 6 เกิดขึ้น

พระอริยเจ้าท่านมีประสิทธิภาพในการอยู่ปกติได้ดีมากจนถึงดีที่สุดตามลำดับชั้นของท่าน

การที่กามไม่ปรากฎ...โกรธไม่มี...ง่วงก็ไม่ง่วง...ไม่คิดโน้นนี้ให้ฟุ้งซ่าน..ไม่ได้สงสัยอะไรเฉย ๆ มันเป็นเพียงการหลบหรือสงบไปชั่วคราวของกิเลสนิวรณ์ทั้งหลายตามธรรมชาติธรรมดาของมนุษย์เท่านั้นอย่าพึ่งลำพองใจหรือประมาท
มีคำกลอนบทหนึ่งว่า

เป็นของง่าย ยิ้มได้ ไม่ต้องฝืน
ยามชีพชื่น ดั่งบรรเลงเพลงสวรรค์
แต่คนที่เขาชม นิยมกัน
ย่อมใจมั่น ยิ้มได้ เมื่อภัยมา

กรณีทรงฌาณอยู่ตลอดเวลาในระดับต่างๆนั้นเวลามีผัสสะเกิดขึ้นจะไม่มีปฏิริยาโต้ตอบออกมาจากภายในกายและจิตใดๆเลย มันสูงกว่าการอยูปกติของปุถุชนเยอะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้ทรงฌาณตนนั้น หรือพระอริยเจ้าองค์นั้นๆ


onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2015, 06:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


การที่กามไม่ปรากฎ...โกรธไม่มี...ง่วงก็ไม่ง่วง...ไม่คิดโน้นนี้ให้ฟุ้งซ่าน..ไม่ได้สงสัยอะไรเฉย ๆ มันเป็นเพียงการหลบหรือสงบไปชั่วคราวของกิเลสนิวรณ์ทั้งหลายตามธรรมชาติธรรมดาของมนุษย์เท่านั้น อย่าพึ่งลำพองใจหรือประมาท

onion

:b32: :b32:
ผมไม่ได้ดีใจหรือลำพอง..ว่าตัวเองดีอะไร...สักนิด...

แค่อยากจะบอกว่า..ที่อโสกะว่ากระแหนะกระแหน่คนอื่นว่า..ไม่มีนิวรณ์ได้แสดงว่าเข้าฌาน 4 ได้ตลอดเวลา..นั้น..มันผิดธรรม..นะคราบ... :b9: :b9:

asoka เขียน:
แสดงว่าทุกวันนี้คุณเช่นนั้นทรงฌาณ 4 อยู่ได้ตลอดเวลาละกระมังครับ
สาธุอนุโมทนาที่มีคนทำเช่นนี้ได้จริงๆ

:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2015, 08:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

กรณีทรงฌาณอยู่ตลอดเวลาในระดับต่างๆนั้นเวลามีผัสสะเกิดขึ้นจะไม่มีปฏิริยาโต้ตอบออกมาจากภายในกายและจิตใดๆเลย มันสูงกว่าการอยูปกติของปุถุชนเยอะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้ทรงฌาณตนนั้น หรือพระอริยเจ้าองค์นั้นๆ

onion


:b1: ...เมื่อปี 2010 ท่านเช่นนั้นเป็นคนหนึ่งที่เอกอนรู้ว่า
ท่านรู้เรื่องราวและวิธีในการทรงฌาณ 2 ได้ในการใช้ชีวิตปกติ
...

ถ้าท่านอโศกะสงสัยในเรื่องเหล่านี้ ก็ลองถามท่านเช่นนั้นดี ๆ
ท่านเช่นนั้นจะได้บอกกล่าวเล่าวิธีให้ฟังก็ได้

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2015, 14:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:

กรณีทรงฌาณอยู่ตลอดเวลาในระดับต่างๆนั้นเวลามีผัสสะเกิดขึ้นจะไม่มีปฏิริยาโต้ตอบออกมาจากภายในกายและจิตใดๆเลย มันสูงกว่าการอยูปกติของปุถุชนเยอะ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้ทรงฌาณตนนั้น หรือพระอริยเจ้าองค์นั้นๆ

onion


:b1: ...เมื่อปี 2010 ท่านเช่นนั้นเป็นคนหนึ่งที่เอกอนรู้ว่า
ท่านรู้เรื่องราวและวิธีในการทรงฌาณ 2 ได้ในการใช้ชีวิตปกติ
...

ถ้าท่านอโศกะสงสัยในเรื่องเหล่านี้ ก็ลองถามท่านเช่นนั้นดี ๆ
ท่านเช่นนั้นจะได้บอกกล่าวเล่าวิธีให้ฟังก็ได้

:b1: :b1: :b1:

:b12:
ผมไม่สงสัยในเรื่องที่ว่า

สมถะหรือสมาธิ ข่ม กลบบังนิวรณ์ธรรมไว้ชั่วคราว

วิปัสสนาภาวนา ขุดถอนเอานิวรณ์ออกจากใจได้สิ้นไม่งอกเงยขึ้นมาอีกได้


ถ้าจะถามก็จะเพียงถามว่าที่อโศกะสรุปอย่างนี้ใช่หรือไม่ เป็นสัจจธรรมหรือไม่? เท่านั้นเอง
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2015, 18:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

อ้างคำพูด:
:b1: ...เมื่อปี 2010 ท่านเช่นนั้นเป็นคนหนึ่งที่เอกอนรู้ว่า
ท่านรู้เรื่องราวและวิธีในการทรงฌาณ 2 ได้ในการใช้ชีวิตปกติ
...

ถ้าท่านอโศกะสงสัยในเรื่องเหล่านี้ ก็ลองถามท่านเช่นนั้นดี ๆ
ท่านเช่นนั้นจะได้บอกกล่าวเล่าวิธีให้ฟังก็ได้

:b1: :b1: :b1:

:b12:
ผมไม่สงสัยในเรื่องที่ว่า

สมถะหรือสมาธิ ข่ม กลบบังนิวรณ์ธรรมไว้ชั่วคราว

วิปัสสนาภาวนา ขุดถอนเอานิวรณ์ออกจากใจได้สิ้นไม่งอกเงยขึ้นมาอีกได้


ถ้าจะถามก็จะเพียงถามว่าที่อโศกะสรุปอย่างนี้ใช่หรือไม่ เป็นสัจจธรรมหรือไม่? เท่านั้นเอง
s006


สัจจะธรรม ไม่ได้อยู่ที่ว่า วิปัสสนาภาวนาขุดถอนนิวรณ์

สัจจะธรรม อยู่ที่ "นิวรณ์" เอง ที่เป็นสิ่งมีการปรากฎเกิด และมีการปรากฎดับ
เมื่อมีปัจจัยก็ปรากฎ เมื่อไม่มีปัจจัยก็ดับ

:b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 56 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร