วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 18:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32:

เมื่อมี..มา
ก็มี....ไป..

มาดูบรรยากาสกินเจ..ดีกว่า.....ก่อนอำลากันไป..

ปีหน้าพบกันใหม่..

รูปภาพ

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
ประวัติของเทศกาลกินเจ
เทศกาลกินเจ หรือ กินเจ หรือที่ที่คนไทยนิยมเรียกว่า "ประเพณีถือศีลกินผัก" เป็นประเพณีโบราณที่รับมาจากลัทธิเต๋า ความหมายของการ "กินเจ" คือ การไม่เบียดเบียนสัตว์หรือสิ่งมีชัวิต ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง การถือศีลอย่างญวนและจีนที่ไม่กินของสดคาว แต่บริโภคอาหารประเภทผักที่ไม่มีของสดของคาวผสม ซึ่งมาจากรากศัพท์คำภาษาจีนที่ว่า "เจียฉ่าย" หมายถึง การกินอาหารผัก อาหารที่มาจากพืชผักธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ และงดเว้นน้ำนมสด นมข้นด้วย เพราะถือว่าเป็นของสดของคาว อีกด้วย



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไขคำถาม ธงเจ ทำไมต้องสีเหลือง

ในช่วงเทสกาลกินเจ เราจะเห็น ธงเจ ประดับประดาร้านค้าอาหารต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย โดยธงเจ มีลักษณะเป็นธงรูปสามเหลี่ยม มีพื้นธงเป็นสีเหลือง ซึ่งธงสีเหลืองอนุญาตให้ใช้ได้เพียงคน 2 กลุ่มเท่านั้น ได้แก่ กลุ่มกษัตริย์ รางวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังที่เราเคยเห็นยันต์ปราบผีสมัยก่อนที่ใช้พื้นเป็นสีเหลือง ซึ่งมีความหมายว่า เป็นสิ่งที่ยึดเหนียว ทั้งนี้บนธงจะมีการเขียนตัวอักษรสีแดงว่า "ไจ" หรือ "เจ" ซึ่งมีความหมายว่าของไม่คาว เพื่อแสดงให้บุคคลทั่วไปสามารถรู้ได้ว่าอาหารสิ่งนี้ ไม่มีของคาวผสมอยู่ และชาวจีนเชื่อว่า สีแดงเป็นสีมงคล จึงใช้สีแดง มาประดับบนธงเจ เพื่อความเป็นสิริมงคลเพิ่มเติมนั่นเอง



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


อ้างคำพูด:
กินเจ เพื่ออะไรกันนะ
จากปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่นิยมกินเจ ในช่วงเทศกาลกันมากขึ้น ทั้งนี้มีทั้งมีจิตมุ่งมั่น ตั้งใจ จะร่วมถือศีล ละเว้นเนื้อสัตว์ แต่บ้างส่วนก็กินเจ เพราะต้องการตามกระแส โดยลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาลกินเจไป โดยจุดประสงค์หลักของการกินเจ มีดังนี้
1.กินเพื่อรักษาสุขภาพ อาหารเจ เป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ และเน้นกินผักมากขึ้น ซึ่งผักเหล่านี้เองที่จะช่วยขับสารพิษในร่างกาย ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้
2.กินด้วยจิตใจเมตตา เนื่องจากทุก ๆ วัน อาหารที่เรากินประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้ที่มีจิตใจดีงามจึงไม่สามารถกินเนื้อของสัตว์เหล่านั้นได้
3.กินเพื่อระเว้นกรรม การกินเจ คือการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ก็คือเพื่อที่จะไม่ให้มีการฆ่าสัตว์ มาเป็นอาหาร รวมไปถึงไม่ข้องเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย เนื้อสัตว์ ตลอดเทศกาลกินเจ เพราะการซื้อ ก็เสมือนการจ้างฆ่าเช่นกัน




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ความแตกต่างระหว่าง "เจ" กับ "มังสวิรัต"

บางคนเคยสงสัยว่า อาหารเจ กับ อาหารมังสวิรัติ คืออาหารกลุ่มเดียวกันหรือไม่ โดยแท้จริงแล้ว อาหารมังสวรัติ เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ประกอบเช่นเดียวกัน แต่มังสวิรัติสามารถทานผักได้ทุกชนิด แต่อาหารเจ จะต้องเว้นผักฉุน ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ กระเทียม หัวหอม (ทุกชนิด) หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน) กุยช่าย และใบยาสูบ รวมไปถึงของเสพติดทุกชนิด และจะต้องประพฤติศีลร่วมด้วย ขณะที่มังสวิรัติคือการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เพียงเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โปรตีนเกษตรทอดกรอบเจ..

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เต้าหู้ทอดสอดใส้เจ

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 21:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กาน่าฉ่าย..เมนูสุดยอดของปีนี้..

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2015, 22:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อันนี้ชื่อไรก็ไม่รู้..ดูน่าทาน..มาก

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2015, 00:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2015, 05:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=31254

ลูกโป่ง เขียน:
รูปภาพ

.................

สีเลนะ สุคะติงยันต
ศีลเป็นเหตุให้เกิดความสุข เพราะเราให้ความไม่มีภัย
ไม่มีเวร แก่ผู้อื่นและตนเอง


สีเลนะ โภคะสัมปะทา
ผู้มีศีลอันงดงามแล้ว กิตติศัพท์ย่อมขจรขจายไปไกล
ย่อมเป็นที่น่าเชื่อถือ และน่าคบหาแก่คนทั้งหลาย อันเป็นเหตุ
ให้เกิดโภคทรัพย์


สีเลนะ นิพพุติงยัน ติ ศีลอันเป็นทรัพย์ภายในตกน้ำ
ไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ใครเอาไปไม่ได้
คือ อริยทรัพย์อันเป็นไปเพื่อพระนิพพาน


ตัสมา สีลัง วิโสธะเย...
นี่คือความวิเศษของศีล ที่รักษาไว้ดีแล้ว...


ศีลที่รักษาดีแล้ว อานิสงส์คือเป็นผู้ไม่มีความกังวล เพราะสำคัญที่เจตนา
ดังนั้นเมื่อเรามีความเข้าใจในการรักษา ศีล...เห็นประโยชน์
เราจึงมีความพอใจมีเจตนาที่บริสุทธิ์ในการรักษาศีล
ดังนั้นผู้ที่รักษาศีลดีแล้ว จึงเป็นผู้ไม่กังวล
ศีลจึงเป็นเหตุให้เกิดสมาธิ สมาธิก็เป็นเหตุให้เกิดปัญญา...


ที่มา...ศีลนำความสุขมาให้
พระอาจารย์สุรพจน์ สทฺธาธิโก


:b48: :b8: :b48:


ผู้มีเมตตาประจำจิต...มีศีลประจำใจ..ไปไหนมาไหนอยู่ที่ไหน..ก็สบายใจ..ไม่กลัวว่าใครจะใส่ร้าย...ไม่กลัวสัตว์หรือใครมาทำร้าย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2015, 05:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ศีลจะบริบูรณ์ก็ด้วยพรหมวิหาร 4 เมตตา...กรุณา..มุทิตา..อุเบกขา

อาจจะกล่าวได้เลยว่า....ศีล..เริ่มที่..ความเมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 08:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เจจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของเจ
เรื่องของเราก็ทำใจให้ปราศจากทุกข์
ที่จิตไปยึดติดในรูปแสงสีเสียงกลิ่นรสสัมผัส
ให้สละความติดข้องต้องการและละอกุศลก่อน
กุศลจึงจะเกิดได้และต้องเป็นไปโดยความไม่มีเรา
:b16:
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


มีมามีไป แล้วเมื่อไหร่จะพ้น. ก็หลงกันไป. ทำไมไม่กินเนื้อสัตว์10วันกินผักสัก11เดือนกว่าๆ. ถ้ามันดีจริง. หรือไม่ก็กินมันตลอดเลย. อิอิ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 13 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร