วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 22:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2015, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.พ. 2007, 20:39
โพสต์: 190


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อเจ้าจักเห็น จงเห็นฉับพลัน หากเริ่มต้นคิดหนทางปิดตัน
เมื่อดวงตา(ใน)ไม่เคยหลับไหล ความฝันทั้งหมดก็พลันหายไป

นิพพาน มิใช่ผู้รู้ เหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย ไม่มีที่หมายรู้เอาได้
เพราะเหตุว่าไม่มีตัวเราในความรู้สึกที่ไปเป็นผู้หมายรู้ในสิ่งใด
นิพพานจึงปรากฏต่อหน้าต่อตา
ถ้ายังหมายรู้เอาได้ในสิ่งใด สิ่งนั้นมิใช่นิพพาน
เป็นแต่เพียงสภาวะอารมณ์ความรู้สึกคิดนึกปรุงแต่งเท่านั้น
ยังมีเราเป็นผู้หมายรู้อยู่ได้ แม้อารมณ์จะละเอียดหยาบแค่ไหนก็ยังมีเราเป็นผู้หมายรู้อยู่ได้
นิพพานจึงอยู่เหนือการคาดคะเน เหนือการคาดหมาย เหนือการคาดคิดคำนึงถึง

นิพพาน ไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ยาก เพราะนิพพานอยู่นอกเหนือความมีความเป็น
ถ้ามีถ้าเป็นในสิ่งใดๆ ก็ต้องมีง่ายมียากตามมา นิพพาน ไม่ได้มี ไม่ได้เป็น อะไรกับอะไร

.....................................................
เมื่อเจ้าจักเห็น จงเห็นฉับพลัน พอตั้งต้นคิด หนทางปิดตัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 05:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 10:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


พระองค์ครั้งเมื่อตรัสรู้ใหม่น้อมติตเกือบไม่สอนสัตว์โลกเพราะเห็นว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 11:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
พระองค์ครั้งเมื่อตรัสรู้ใหม่น้อมติตเกือบไม่สอนสัตว์โลกเพราะเห็นว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึง

พระองค์บำเพียรมา 4 อสงไขยอีกแสนกัปป์ ไม่เคยย่อท้อพระทัยแม้แต่น้อย
เมื่อตรัสรู้แล้วจะมีความย่อท้อที่จะสอนสัตว์ที่รู้ได้ยากนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ในความคิดของพระองค์นั้น ก็เพื่อที่จะให้ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่
เป็นที่สักการะของคนในยุคนั้น มาอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม ก็เพื่อจะ
ลดมานะ ทิฏฐิของคนในยุคนั้นให้เห็นว่าขนาดท้าวมหาพรหมยังเห็นความสำคัญ
ธรรมะของพระองค์ที่ใหญ่ยิ่งกว่า

จึงได้ทำนิมิตเครื่องหมายต่อท้าวมหาพรหม มาอาราธนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 11:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
bigtoo เขียน:
พระองค์ครั้งเมื่อตรัสรู้ใหม่น้อมติตเกือบไม่สอนสัตว์โลกเพราะเห็นว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึง

พระองค์บำเพียรมา 4 อสงไขยอีกแสนกัปป์ ไม่เคยย่อท้อพระทัยแม้แต่น้อย
เมื่อตรัสรู้แล้วจะมีความย่อท้อที่จะสอนสัตว์ที่รู้ได้ยากนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ในความคิดของพระองค์นั้น ก็เพื่อที่จะให้ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่
เป็นที่สักการะของคนในยุคนั้น มาอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม ก็เพื่อจะ
ลดมานะ ทิฏฐิของคนในยุคนั้นให้เห็นว่าขนาดท้าวมหาพรหมยังเห็นความสำคัญ
ธรรมะของพระองค์ที่ใหญ่ยิ่งกว่า

จึงได้ทำนิมิตเครื่องหมายต่อท้าวมหาพรหม มาอาราธนา
ไปน่าน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 11:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.พ. 2013, 19:24
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ธรรมมา เขียน:
bigtoo เขียน:
พระองค์ครั้งเมื่อตรัสรู้ใหม่น้อมติตเกือบไม่สอนสัตว์โลกเพราะเห็นว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึง

พระองค์บำเพียรมา 4 อสงไขยอีกแสนกัปป์ ไม่เคยย่อท้อพระทัยแม้แต่น้อย
เมื่อตรัสรู้แล้วจะมีความย่อท้อที่จะสอนสัตว์ที่รู้ได้ยากนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ในความคิดของพระองค์นั้น ก็เพื่อที่จะให้ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่
เป็นที่สักการะของคนในยุคนั้น มาอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม ก็เพื่อจะ
ลดมานะ ทิฏฐิของคนในยุคนั้นให้เห็นว่าขนาดท้าวมหาพรหมยังเห็นความสำคัญ
ธรรมะของพระองค์ที่ใหญ่ยิ่งกว่า

จึงได้ทำนิมิตเครื่องหมายต่อท้าวมหาพรหม มาอาราธนา
ไปน่าน

พระองค์เป็นผู้ตรัสรู้เอง รู้ธรรมแจ้งโลก
เรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องให้ท้าวมหาพรหมมาสอนมาเตือนด้วย

ถ้าพระองค์มีความย่อท้อที่จะไม่แสดงธรรมนั้นจริง
พระองค์ก็ยังละนิวรณ์ธรรมที่เป็น ถีนะมิทธะไม่ได้จริงไหม?
มันจะไปขัดกับคำสอนที่ว่าพระองค์ได้ละกิเลสไปหมดแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมมา เขียน:
bigtoo เขียน:
ธรรมมา เขียน:
bigtoo เขียน:
พระองค์ครั้งเมื่อตรัสรู้ใหม่น้อมติตเกือบไม่สอนสัตว์โลกเพราะเห็นว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึง

พระองค์บำเพียรมา 4 อสงไขยอีกแสนกัปป์ ไม่เคยย่อท้อพระทัยแม้แต่น้อย
เมื่อตรัสรู้แล้วจะมีความย่อท้อที่จะสอนสัตว์ที่รู้ได้ยากนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ในความคิดของพระองค์นั้น ก็เพื่อที่จะให้ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่
เป็นที่สักการะของคนในยุคนั้น มาอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม ก็เพื่อจะ
ลดมานะ ทิฏฐิของคนในยุคนั้นให้เห็นว่าขนาดท้าวมหาพรหมยังเห็นความสำคัญ
ธรรมะของพระองค์ที่ใหญ่ยิ่งกว่า

จึงได้ทำนิมิตเครื่องหมายต่อท้าวมหาพรหม มาอาราธนา
ไปน่าน

พระองค์เป็นผู้ตรัสรู้เอง รู้ธรรมแจ้งโลก
เรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องให้ท้าวมหาพรหมมาสอนมาเตือนด้วย

ถ้าพระองค์มีความย่อท้อที่จะไม่แสดงธรรมนั้นจริง
พระองค์ก็ยังละนิวรณ์ธรรมที่เป็น ถีนะมิทธะไม่ได้จริงไหม?
มันจะไปขัดกับคำสอนที่ว่าพระองค์ได้ละกิเลสไปหมดแล้ว
ก็แค่พระงค์ทรงเห็นว่ามันยากก็แค่นั้น

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 12:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้นที่ไม่สอนใคร
พุทธวิสัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระญาณหยั่งทราบวาระจิตเวไนยสัตว์
ขณะกำลังพิจารณาย้อนหลังสิ่งที่รูยากนั้น
ท่านท้าวมหาพรหมเกรงพระพุทธเจ้าไม่สอน
ก็เลยกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงธรรมไงล่ะ
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2015, 14:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หนวดเต่า เขียน:
เมื่อเจ้าจักเห็น จงเห็นฉับพลัน หากเริ่มต้นคิดหนทางปิดตัน
เมื่อดวงตา(ใน)ไม่เคยหลับไหล ความฝันทั้งหมดก็พลันหายไป

นิพพาน มิใช่ผู้รู้ เหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย ไม่มีที่หมายรู้เอาได้
เพราะเหตุว่าไม่มีตัวเราในความรู้สึกที่ไปเป็นผู้หมายรู้ในสิ่งใด
นิพพานจึงปรากฏต่อหน้าต่อตา
ถ้ายังหมายรู้เอาได้ในสิ่งใด สิ่งนั้นมิใช่นิพพาน
เป็นแต่เพียงสภาวะอารมณ์ความรู้สึกคิดนึกปรุงแต่งเท่านั้น
ยังมีเราเป็นผู้หมายรู้อยู่ได้ แม้อารมณ์จะละเอียดหยาบแค่ไหนก็ยังมีเราเป็นผู้หมายรู้อยู่ได้
นิพพานจึงอยู่เหนือการคาดคะเน เหนือการคาดหมาย เหนือการคาดคิดคำนึงถึง

นิพพาน ไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ยาก เพราะนิพพานอยู่นอกเหนือความมีความเป็น
ถ้ามีถ้าเป็นในสิ่งใดๆ ก็ต้องมีง่ายมียากตามมา นิพพาน ไม่ได้มี ไม่ได้เป็น อะไรกับอะไร

นิพพาน คือนิพพาน
ยากหรือง่าย คือการเข้าถึง การเรียนรู้ที่จะเข้าถึง

นำนิพพาน กับการเข้าถึงมาปนกันแสดงความเห็น ย่อมเป็นความสับสนของความรู้ความคิด

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร