ก็มีนะ เครื่องเก่าที่ติดตั้งมาแต่สร้างบ้านใหม่ ๆ เมื่อ 30 กว่าปีก่อน

แต่ไม่ได้ใช้หรอก...ถึงแม้มันจะยังใช้ได้ก็ตาม ...

ธรรมดา อากาศหนาว น้ำจะเย็น ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ

ถ้าเราเป็นอยู่แบบธรรมชาติได้ ก็เป็นเรื่องปกตินะ

จะไปนั่งคิดปรับแต่งอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไมล่ะ

ถ้าแค่อากาศเย็นแค่นี้เรายังทำใจเสาะ หลบ เลี่ยง โนน่นี่นั่น มันก็ ...

อะไรที่ยอมรับได้ ก็เรียนรู้ที่จะยอมรับ

ถ้าฝึกนิสัยให้รู้จัก เรียนรู้ และยอมรับเรื่องง่าย ๆ ได้

การเรียนรู้ และยอมรับในเรื่องอื่น ๆ มันก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ

อากาศเย็น อยากหลบหนาว ก็แค่อย่าไปตามใจตัวเองให้มันมากนัก

ซึ่งสุดท้าย จริง ๆ แม้น้ำจะเย็นมาก แต่เมื่อมันถูกตัว มันก็ไม่ได้หนาวเย็นไปกว่าใจที่มันคิดว่าหนาวหรอก

ก็ใจมันคิดว่าน้ำถูกตัวแล้วมันจะหนาว

เอกอนก็บอกแล้วไง ว่า มันชา

เอกอนพิสูจน์แล้ว ... ความจริงที่มันปรากฏ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด

ก็แค่นั่นล่ะ ...

อากาศร้อน...เอกอนก็รับได้นะ...

เข้าห้องซาวน่า. ก็สบายดี...สามารถหลับได้

ก็ไม่ได้โหยหาห้องแอร์...ร้อนยังไงก็รับสภาพได้

ก็ฝึกใจน่ะ...

ถ้าฝึกได้...มันก็สงบได้ของมันเอง

ใจที่สงบ...มันก็สงบ...มันก็คือใจที่สงบ

เราก็รู้ว่ามันสงบ...แค่นั้น

ความ สงบ ที่ปรากฎก็เพราะใจมันสงบ...ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา

เราแค่รู้...เท่านั้น

ทางสายกลางเป็นทางสายเดียวที่ตรงทางคือความเข้าใจความจริงที่กำลังมีในชีวิตประจำวัน
ให้รู้และเข้าใจจิตตามเป็นจริง ณ ปัจจุบันขณะว่าจิตตนมีความประพฤติเป็นไปในกุศลหรืออกุศล
ถ้าไม่ฟังความจริงของสิ่งที่มีจริงก็มีชีวิตอยู่ไปวันๆแบบคนหลงตามเงาของจิตหลงไปตามสมมุติโลก
http://www.youtube.com/watch?v=04D8wXXIDXM

ฟังดูแปลกๆ แปร่งๆดีนะครับ

ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แต่มี เรา ไปรู้

ไม่เห็นแปลกเลย เราแค่รู้ กับ เราเข้าไปเป็น

ลักษณะอาการ มันก็ต่างกัน ...

เราแค่รู้ นั่นคือ การที่ผู้รู้ เข้าใจถึงกระบวนปรากฎแห่งอารมณ์ การเสพอารมณ์ และ การรู้อารมณ์ของจิต

ส่วนเราเข้าไปเป็น นั่นคือ เราเป็นสิ่งรู้และสิ่งที่ถูกรู้ โดยไม่สามารถแยกแยะอะไร ๆ ได้เลยน่ะ...

จริง ๆ จะใช้คำว่า "ธาตุรู้" เข้ามาแทนคำว่า "เรา" ในนัยยะที่เอกอนพยายามจะสื่อก็ได้

แต่พอดีเห็นว่าเป็นการเข้ามาคุยเล่น ๆ สบาย ๆ กับ อโศกะ เท่านั้น
เอกอนก็เลยไม่หยิบคำที่ออกไปทางวิชาการที่ลึก ๆ มาใช้ก็แค่นั้นแหละ
ไม่ได้คิดที่จะโยงเข้าไปหาวิชาการให้เป็นเรื่องเป็นราว

ว่าแต่ สรุป อโศกะจะเอาวิชาการ หรือ ไม่เอากันล่ะนี่

หรือว่าแล้วแต่จะพลิกไป...พลิกมา



5 ทุ่มแล้ว ได้เวลาที่จะต้องไปอาบน้ำอีกแล้ว...

...

แต่จริง ๆ การอาบน้ำที่มีความเย็นจัด ๆ ถ้าร่างกายไม่พร้อมพอ
ก็เป็นอันตราย...อาจถึงตายได้อย่างที่ อ๊บซ์ ว่า...

เพราะ ความเย็นจัด ๆ จะส่งผลทำให้หลอดเลือดหดตัวได้
อาจทำให้เลือดไม่สูบฉีด จนถึงขั้นมีเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่พอ
เกิดภาวะช็อก กล้ามเนื้อตาย หรือกระทั่งหัวใจวาย
เพราะเลือดไปเลี้ยงไม่ทันก็เป็นได้
โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
...
หันมาออกกำลังกายให้เยอะ ๆ หน่อยนะ
สุขภาพร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น...

เอกอนพูดเรื่องสุขภาพ

เมื่อวานไปวิ่ง10กิโลเมตรครับ

53นาที

วิ่งแล้วรู้สึกดีมากครับ

และยังพิจารณาธรรมะในระหว่างวิ่งได้ด้วย

สมรรถภาพร่างกายคุณ student แข็งแรงมาก

จิตใจก็เริ่มที่จะแข็งแกร่งครับคุณเอกอน

ไม่เหี่ยวเฉาเหมือนสมัยวัยรุ่น

ก็คำพูดที่ถูกต้องก็มีอยู่แต่เอก้อนไม่บอกเสียแต่แรกจึงเลยต้องมีความกังขา
มันไม่ใช่วิชาการอะไร มันเป็นสัจธรรมที่ต้องพูดอย่างนั้น

อย่าใช้คำว่าธาตุรู้เลยจะพางงมากไป

ใช้คำว่า "ผู้รู้" หรือตัวรู้ อันเป็นธรรมชาติของจิตเลยดีกว่า

จิตมีธรรมชาติรู้อารมณ์โดยไม่ต้องมีเรา หรือ กูเข้าไปเกี่ยวข้องบงการ เขาหากเป็นของเขาเช่นนั้นเอง

มันเป็นเช่นนั้นเอง

ตถตา

การปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาหรือการเจริญมรรค 8 ก็มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักเพื่อเอาสติ ปัญญาไปแยกความเห็นผิดว่าเป็น กู เป็น เรา ออกจากจิตเดิมแท้ เพื่อปล่อยให้จิตเดิมแท้ได้ทำงานตามธรรมชาติของเขาอย่างมีอิสระเสรี

ดีใจด้วย ...

อ่านดูก็พอจะมองเห็นว่า ท่าทางคุณ student ช่วงนี้จะมีสภาพจิตใจที่แข็งแรงดีจริง ๆ

ตอนนี้ ท่าทางโลกของคุณจะเป็นสีที่สดใส

อย่าลืมเอาความสดใสไปฝากภรรยาด้วยทุกวันนะ...คุณทั้งคู่ต้องมีความสุข

ดีใจกับคนสดใสด้วย..

จากคนสีเทา..เทา..

ไม่เทาแล้วครับ ขนาดนี้

ผมว่าคุณกบเป็นพลังสำคัญของพุทธศาสนาคนหนึ่งทีเดียว