วันเวลาปัจจุบัน 27 ส.ค. 2025, 04:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 178 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 05 ก.พ. 2016, 23:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
:b27:
ที่คุณเอก้อนสรุปและถามมานี่แหละคือ ปัจเวกขณะญาณ มันเป็นญาณสูงสุดของการเกิดธรรมหรือบรรลุธรรมโดยสมบูรณ์
onion
เคยชิมกันมาบ้างหรือยังล่ะครับ คุณเอก้อน คุณกบ และทุกๆท่านทีติดตามอ่านกระทู้

ถ้ายังไม่เคย ต้องเคยให้ไดเสียนะครับชาตินี้ จึงจะไม่เสียทีที่ได้โอกาสมาเกิดเป็นคน

:b8:


อโศกะก็เป็นคนที่ตั้งคำถามได้แปลกดีเน๊อะ
ใช้คำพูดได้วกวนจนเอกอนคิดว่าเอกอนไม่ได้เป็นคนตอบมันออกมาเอง... :b6: :b32:

:b1:

มันเป็นสภาวะธรรมดา ธรรมดานะ ไม่ใช่ของสูงอะไร
ไม่เชื่อไปถามคนที่เขาเคยสิ่ ...
ไปถามคนที่เขาเคยน่ะ เขาจะตอบได้ว่ามันเป็นสภาวะธรรม ธรรมดา ๆ นี่ล่ะ

... :b13: :b13: :b13: ...

:b12: :b12:
คนไม่เคยได้รับผลจึงไม่เห็นคุณค่าของธรรม ประมาทว่าธรรมนั้นต่ำต้อยน้อยค่า
:b7:


เปล่า...มันก็แค่ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ในสิ่งเหล่านั้น( ในอารมณ์เหล่านั้น)...

ซึ่งคนที่ได้ผ่านอารมณ์ธรรมเหล่านั้นมาแล้ว
และยังมัวมานั่งอาลัยในอารมณ์เดิม ๆ มีด้วยหรือ

มันเป็นธรรม...ธรรมดา
มันเป็นธรรมดาของธรรมที่มีปรากฏเกิดและมีปรากฏดับ
ถ้าไม่หลงในสิ่งที่ปรากฏว่าวิเศษก็จะเห็นเป็นธรรมดา

วางจิตให้เป็นกลางต่ออารมณ์...ได้มั๊ยล่ะ

:b1:

s004
อาลัยอาวรณ์ในอดีตอารมณ์ กับความเห็นคุณค่าแห่งธรรมนั้นมันคนละเรื่องกันเลยนะครับคุณเอก้อน
:b11:
นั่งเฉยๆให้ได้ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 1-3 ครั้งหรือแล้วแต่เหตุปัจจัยจะอำนวยให้ ถ้าทำได้นี่แสดงว่าคนผู้นั้นมีจิตเป็นกลางต่ออารมณ์ได้ดีไหมครับคุณเอก้อน
s006 Kiss


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.พ. 2016, 23:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b20:
อ้างคำพูด:

..............มีเรื่องราวที่ยาวกว่านี้ และ..........

คือถ้า ปัจจเวกขณญาณ เป็นมาโดยลำดับข้างต้น

ปัญญาอันรู้ชัด ... ย่อมรู้ชัดในธรรมที่ปรากฎ

ซึ่งการปฏิบัติธรรม มันต่างจากเวทีประกวดนางสาวไทย
ที่ว่าผู้ประกวดจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่ง
เมื่อได้แหน่งก็ลิงโลดเอร็ดอร่อยกับอารมณ์ของการเป็นผู้ชนะที่ไปถึงเป้าหมายระดับนั้นระดับนี้
เพราะมันเป็นการก้าวไปสู่ตัวตนทางโลกที่...ชาวโลกยกย่อง

ส่วนการก้าวไปสู่สัจจะธรรม
การเข้าถึงอารมณ์บางอย่างทางธรรม มันสวนทางกันกับทัศนะแบบโลก ๆ
เพราะ กิเลสที่อารมณ์ทางโลกมี แต่ทางธรรมกิเลศเหล่านั้นที่เคยมีมันได้ค่อย ๆ เบาบางลง
คือ...เมื่อท่านจะเข้าถึงอารมณ์อัน สงบ สันติ ระงับ อิ่มเอิบ
แต่...ทว่าธรรมที่ส่งท่านมาเป็นการค่อย ๆ สลัดกิเลสฯ ทิฐิมานะ ฯลฯ ต่าง ๆ ลงไป
ดังนั้น แม้จะเป็นธรรมอันเลิศ ท่านก็จะรับรู้อารมณ์อยู่
แต่ท่านก็ไม่มีตัวตนที่จะเข้าไปหมายได้ยินดีปรีดา ลิงโลดใจอะไรไปกับธรรมมากนัก

คนเรามักคุ้นเคยว่า เมื่อผู้ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติได้ตามเป้าแต่ละเป้า
จิตจะต้องมีอาการลิงโลดเหมือนอย่างประกวดนางสาวไทย ...

ซึ่งจิตของผู้ที่เข้าสู่วิถีสลัดคืนสู่สามัญ เมื่อเข้าถึงสภาวะ ไอ้ตัวที่เคยลิงโลด
มันได้ค่อย ๆ ตายลงไป จะเอาอะไรมาหมายมั่น
ธรรมอันประเสริฐ ก็คือ ธรรมอันเป็นสามัญ

...

ดังนั้น อารมณ์ธรรมบางอย่างที่ผู้หนึ่งมองว่าสูง
แต่อีกผู้หนึ่งจะมองว่าเป็น ธรรมดา ... ก็เป็นเรื่องธรรมดา

...

:b13:

คือ มันเป็นการก้าวไปถึงเป้าหมายเหมือนกัน
แต่ความสำเร็จหนึ่ง มีตัวตนรองรับ
แต่อีกความสำเร็จหนึ่ง ตัวตนที่มารองรับค่อย ๆ เบาบางลง

huh

โอ้โฮ!! คัดลอกตำรามาแปะเสียยาวยืด ก็คงใช่ ในทัศนะหนึ่งของอรรถกถาจารย์ท่านหนึ่ง อนุโมทนา

แต่อันที่เป็นประสบการณ์จริงของคุณเอก้อน เขียนออกมาด้วยทัศนะของคุณเอก้อนล่ะมีไหมครับ เอามาเขียนเล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ อาจจะดูง่ายอ่านง่ายเข้าใจง่ายยิ่งกว่านี้นะครับ
smiley


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.พ. 2016, 06:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

................
นั่งเฉยๆให้ได้ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 1-3 ครั้งหรือแล้วแต่เหตุปัจจัยจะอำนวยให้ ถ้าทำได้นี่แสดงว่าคนผู้นั้นมีจิตเป็นกลางต่ออารมณ์ได้ดีไหมครับคุณเอก้อน
s006 Kiss


ทำให้รู้สึกว่า..หากสมัยพุทธกาล...อาจจะมีบ้างที่ ฤาษีมาท้าดวลการนั่งนาน...ก็คงเป็นอย่างนี้..

:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.พ. 2016, 08:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

s004
อาลัยอาวรณ์ในอดีตอารมณ์ กับความเห็นคุณค่าแห่งธรรมนั้นมันคนละเรื่องกันเลยนะครับคุณเอก้อน
:b11:
นั่งเฉยๆให้ได้ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 1-3 ครั้งหรือแล้วแต่เหตุปัจจัยจะอำนวยให้ ถ้าทำได้นี่แสดงว่าคนผู้นั้นมีจิตเป็นกลางต่ออารมณ์ได้ดีไหมครับคุณเอก้อน
s006 Kiss


ความอาลัยในอารมณ์มักจะปรากฎอยู่กับพวกที่คิดว่าตนนั้น 20-25%
เพราะยังใหม่ต่อสิ่งที่ปรากฎและยังไม่ชิน

และยังเดินจิตที่จะไปต่อไม่ถูก
ก็เลยทำในความคิดความเข้าใจที่ติดวนกับอาการเดิมๆ

ถ้าคิดว่าตัวเอง 20-25%แล้ว และยังคงรักษากระบวนการ 1-2ชม.3รอบต่อวันก็แล้ว. ยังไม่เข้าถึง 45-50สักที
นั้นแสดงว่า. ที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ทำให้จิตมีคุณภาพขึ้น

ก็แค่นั้นล่ะ

อาลัยก็คืออาลัย.
ต่อให้พยายามจะบิดเบือนความเข้าใจไปด้วยคำไหนก็ตาม.
ถ้าไม่มีอาลัยมันก็เดินหน้าจากไปแล้ว

ซึ่งเวลาที่ผู้ปฎิบัติเห็นว่าจิตมันติดแหงก. ไม่ก้าวหน้า
ก็ต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้กับจิต
กิจกรรมที่ช่วยในการขัดเกลาจิตที่ดีอย่างหนึ่ง
คือการกลับไปหาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า
เมื่อน้อมใจลงในธรรมถูก. หนทางมันก็เป็นไปเอง
เพราะท่านคือผู้ชี้นำ. เราคือผู้ปฎิบัติตาม...

แค่นั้นล่ะ :b1:


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.พ. 2016, 09:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
huh

โอ้โฮ!! คัดลอกตำรามาแปะเสียยาวยืด ก็คงใช่ ในทัศนะหนึ่งของอรรถกถาจารย์ท่านหนึ่ง อนุโมทนา

แต่อันที่เป็นประสบการณ์จริงของคุณเอก้อน เขียนออกมาด้วยทัศนะของคุณเอก้อนล่ะมีไหมครับ เอามาเขียนเล่าสู่กันฟังหน่อยสิครับ อาจจะดูง่ายอ่านง่ายเข้าใจง่ายยิ่งกว่านี้นะครับ
smiley


ก็ถ้าอโศกะ...อยากแก้อาการที่ติดกับ 20-25%

ก็อย่างที่บอกนั่นล่ะ
ละอารมณ์อันเป็นอุปสรรค์

ถ้าท่านจะฝึกวิทยายุทธเพื่อนั่งให้นาน. ท่านก็จะนั่งได้นานขึ้น
จิตท่านก็ทำหน้าที่ให้ท่านได้ดังใจอย่างนั้น

จิตเป็นดังใจท่าน. แต่จิตไม่เคยเป็นจิตให้ท่านได้เห็นมากพอ

:b13:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2016, 05:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg
ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg [ 41.02 KiB | เปิดดู 1238 ครั้ง ]
onion
คุณเอก้อนยังไม่รู้หรือครับว่า หลักปฏิบัติที่สำคัญในการที่จะทำให้หมดเครื่องติดข้องจากเดิม 100%มาถึงระดับ

1.หมดไป 25%
2.หมดไป 50%
3.หมดไป 75%
4.หมดไป 100%

ใช้หลักการข้อเดียวตั้งแต่ต้นจนจบคือ

วิปัสสนาภาวนา.....เจริญสติไว้กับลมหายใจและปัจจุบันอารมณ์.......คือเจริญสติปัฏฐาน 4 ..........คือการเจริญมรรค 8............คือการเจริญโพธิปักขิยะธรรม 37 ประการ


จำง่ายๆอย่างนี้นะครับจะได้ไม่ต้องไปค้นไปอ่านตำหรับตำรามากมายจนลายหูลานตานะครับ

อโศกะก็กำลังเจริญเดินอยู่บนทางดังสรุปให้ดูนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนกว่าธาตุขันธ์นี้มันจะดับสูญแหละครับ

สรุปให้ดูอย่างนี้ยังมีอะไรน่าห่วง น่าชี้แนะอีกไหมครับคุณเอก้อน?

s004
:b11:
โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2016, 07:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:


ถ้าคิดว่าตัวเอง 20-25%แล้ว และยังคงรักษากระบวนการ 1-2ชม.3รอบต่อวันก็แล้ว. ยังไม่เข้าถึง 45-50สักที
นั้นแสดงว่า. ที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ทำให้จิตมีคุณภาพขึ้น

ก็แค่นั้นล่ะ

อาลัยก็คืออาลัย.
ต่อให้พยายามจะบิดเบือนความเข้าใจไปด้วยคำไหนก็ตาม.
ถ้าไม่มีอาลัยมันก็เดินหน้าจากไปแล้ว

ซึ่งเวลาที่ผู้ปฎิบัติเห็นว่าจิตมันติดแหงก. ไม่ก้าวหน้า
ก็ต้องปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้กับจิต

กิจกรรมที่ช่วยในการขัดเกลาจิตที่ดีอย่างหนึ่ง
คือการกลับไปหาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า
เมื่อน้อมใจลงในธรรมถูก. หนทางมันก็เป็นไปเอง
เพราะท่านคือผู้ชี้นำ. เราคือผู้ปฎิบัติตาม...
งแค่นั้นล่ะ :b1:


อาลัย...นี้เห็นยาก..นะ
เหมือนเราอยู่ในโลก...การจะรู้ว่าแท้จริงแล้วโลกกำลังหมุน...วิ่งเป็นวงรอบดวงอาทิตย์..นี้...เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ (แต่ก็เป็นไปได้)

อยู่บนโลก..แต่จะรู้ว่าโลกกำลังหมุนรอบดวงอาทิตย์..ได้..ทำได้ 2 ทาง
หนึ่ง....ออกมานอกโลก..ซะ..แล้วดู
สอง...ออกมานอกโลกไม่ได้..ก็อยู่บนโลกนั้นแหละแล้วให้สังเกต..มีเหตุมีผล...คิดคำนวณ..(อย่างที่นักดาราศาสตร์โบราณทำ)...ผิดก็รับแล้วแก้ใหม่..

เอ้..เหมือนอะไรหน่า...สมถะภาวนา...วิปัสสนาภาวนา...หรือเปล่าหนอ?? :b10: :b10:

:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2016, 21:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion
คุณเอก้อนยังไม่รู้หรือครับว่า หลักปฏิบัติที่สำคัญในการที่จะทำให้หมดเครื่องติดข้องจากเดิม 100%มาถึงระดับ

1.หมดไป 25%
2.หมดไป 50%
3.หมดไป 75%
4.หมดไป 100%

ใช้หลักการข้อเดียวตั้งแต่ต้นจนจบคือ

วิปัสสนาภาวนา.....เจริญสติไว้กับลมหายใจและปัจจุบันอารมณ์.......คือเจริญสติปัฏฐาน 4 ..........คือการเจริญมรรค 8............คือการเจริญโพธิปักขิยะธรรม 37 ประการ


จำง่ายๆอย่างนี้นะครับจะได้ไม่ต้องไปค้นไปอ่านตำหรับตำรามากมายจนลายหูลานตานะครับ

อโศกะก็กำลังเจริญเดินอยู่บนทางดังสรุปให้ดูนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนกว่าธาตุขันธ์นี้มันจะดับสูญแหละครับ

สรุปให้ดูอย่างนี้ยังมีอะไรน่าห่วง น่าชี้แนะอีกไหมครับคุณเอก้อน?

s004
:b11:


:b5: :b5: :b5:

asoka เขียน:

ตามผลการปฏิบัติอย่างสมำเสมอต่อเนื่อง อโศกะอาจกำลังเสวยผลเบื้องต้นอะไรอยู่สัก 20 - 25 % แล้ว
onion

asoka เขียน:

................
นั่งเฉยๆให้ได้ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 1-3 ครั้งหรือแล้วแต่เหตุปัจจัยจะอำนวยให้ ถ้าทำได้นี่แสดงว่าคนผู้นั้นมีจิตเป็นกลางต่ออารมณ์ได้ดีไหมครับคุณเอก้อน
s006 Kiss

eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
onion
คุณเอก้อนเคยลองนั่งให้มันเฉยได้เป็นชั่วโมงๆหรือยังล่ะครับ ถ้ายังก็ขอให้ทดลองพิสูจน์ดูก่อนแล้วจะเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องที่อโศกะตั้งขึ้นมาเป็นกระทู้นี้
:b38:

แล้วคนที่นั่งได้เป็นชั่วโมง ๆ อย่างอโศกะ
ทำให้จิตไม่ก้าวล่วงเข้าสู่วิถีอีกเลยได้มั๊ยล่ะ
...
:b1:
ถ้ายังไม่พบหนทางที่จะทำได้
เอกอนก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องไปพยายามทำนั่งให้เฉยเป็นชั่วโมงเพื่อค้นหาสิ่งที่อโศกะหมายถึง...
:b1:

eragon_joe เขียน:
ถ้าคิดว่าตัวเอง 20-25%แล้ว และยังคงรักษากระบวนการ 1-2ชม.3รอบต่อวันก็แล้ว. ยังไม่เข้าถึง 45-50สักที
นั้นแสดงว่า. ที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ทำให้จิตมีคุณภาพขึ้น
... :b1:


เออเน๊อะ :b1: ...อโศกะก็เป็นคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุมากแล้ว ...
บางทีท่านอาจจะแก่กว่าใคร ๆ หลาย ๆ คนในลานแห่งนี้...

...ก็ดูแลสุขภาพตัวเองละกันเน๊อะ...

:b1:


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2016, 18:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b11:
สบายๆนะเอก้อน
จะจริงอะไรมากนักกับมายาการของชีวิตอันมีอายุอยู่เพียงแค่พยับแดด และน้ำค้างในยามเช้า เดี๋ยวๆก็ตายจากกัน

สนุกสุขไปวันๆกับงานโลกและงานธรรมไปจนกว่าอายุขัยจะสิ้นตามเหตุปัจจัยของมัน
:b47: :b48: :b53: :b51:


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2016, 22:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจะตาย....นึกถึงพุท..โธ..ใว้นะ

อย่าทนง..ว่า..ตนปลอดภัยแล้ว..


โพสต์ เมื่อ: 11 ก.พ. 2016, 05:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าจะตาย....นึกถึงพุท..โธ..ใว้นะ

อย่าทนง..ว่า..ตนปลอดภัยแล้ว..

:b12: :b13: :b13: :b13: :b9: :b17: :b17:
ทนงตน

คำพูดนี้เหมาะกับกบมากกว่าละกระมัง แถมยังมาบอกให้นึกถึง พุท โธ ก่อนตาย
มันตื้นและพื้นๆเกินไปละกระมั้งที่คุณกบยึดมั่นและสำคัญไว้ในใจเช่นนี้

นึกได้แต่ข้าวของ ผู้คน ทรัพย์ศฤงคารพัสถาน สมบัติ อาจจะไปได้แค่เปรต อสุรกาย สัมภเวสี หรือสัตว์เดรัจฉาน จิ้งจกตุ๊กแก

นึกถึงบาปอกุศลก่อนตาย ไปอบายภูมิทั้ง 4

นึกถึงบุญกุศลความดีที่เคยทำมา ส่งกลับมาเป็นมนุษย์หรือเทวดาทั้ง6 ชั้น

นึก พุท โธ ก่อนตายไปได้แค่เทวดาไม่ถึงพรหม

เข้ารูปฌาณ ก่อนตาย ส่งไปถึงได้แค่ รูปพรหม

เข้าอรูปฌาณก่อนตาย ส่งไปได้ถึงอรูปพรหม

นึกระลึกรู้อยู่กับสติปัฏฐาน 4 หรือปัจจุบันอารมณ์จนถึงวินาทีสุดท้าย อาจส่งถึงได้หมดทั้งโลกุตรธรรม 9


รู้หรือเปล่า ทำเป็นหรือไม่ กบ ?
s004
:b11:
onion


โพสต์ เมื่อ: 11 ก.พ. 2016, 06:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าจะตาย....นึกถึงพุท..โธ..ใว้นะ

อย่าทนง..ว่า..ตนปลอดภัยแล้ว..

:b12: :b13: :b13: :b13: :b9: :b17: :b17:
ทนงตน

คำพูดนี้เหมาะกับกบมากกว่าละกระมัง แถมยังมาบอกให้นึกถึง พุท โธ ก่อนตาย
มันตื้นและพื้นๆเกินไป
ละกระมั้งที่คุณกบยึดมั่นและสำคัญไว้ในใจเช่นนี้

นึกได้แต่ข้าวของ ผู้คน ทรัพย์ศฤงคารพัสถาน สมบัติ อาจจะไปได้แค่เปรต อสุรกาย สัมภเวสี หรือสัตว์เดรัจฉาน จิ้งจกตุ๊กแก

นึกถึงบาปอกุศลก่อนตาย ไปอบายภูมิทั้ง 4

นึกถึงบุญกุศลความดีที่เคยทำมา ส่งกลับมาเป็นมนุษย์หรือเทวดาทั้ง6 ชั้น

นึก พุท โธ ก่อนตายไปได้แค่เทวดาไม่ถึงพรหม

เข้ารูปฌาณ ก่อนตาย ส่งไปถึงได้แค่ รูปพรหม

เข้าอรูปฌาณก่อนตาย ส่งไปได้ถึงอรูปพรหม


เตือนสติ..คับ

อย่าได้ประมาท..ว่าตนได้มรรคผลแล้ว...


asoka เขียน:
นึกระลึกรู้อยู่กับสติปัฏฐาน 4 หรือปัจจุบันอารมณ์จนถึงวินาทีสุดท้าย อาจส่งถึงได้หมดทั้งโลกุตรธรรม 9


รู้หรือเปล่า ทำเป็นหรือไม่ กบ ?
s004
:b11:
onion


ทำนั้นได้นั้นได้นี้..มิน่าละ...จึงมีอาการแบบขโมยมรรคขโมยผล...ขโมยประกาสนียบัตร...ไม่มีอาการผลของธรรมให้เห็น..


โพสต์ เมื่อ: 12 ก.พ. 2016, 15:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าจะตาย....นึกถึงพุท..โธ..ใว้นะ

อย่าทนง..ว่า..ตนปลอดภัยแล้ว..

:b12: :b13: :b13: :b13: :b9: :b17: :b17:
ทนงตน

คำพูดนี้เหมาะกับกบมากกว่าละกระมัง แถมยังมาบอกให้นึกถึง พุท โธ ก่อนตาย
มันตื้นและพื้นๆเกินไป
ละกระมั้งที่คุณกบยึดมั่นและสำคัญไว้ในใจเช่นนี้

นึกได้แต่ข้าวของ ผู้คน ทรัพย์ศฤงคารพัสถาน สมบัติ อาจจะไปได้แค่เปรต อสุรกาย สัมภเวสี หรือสัตว์เดรัจฉาน จิ้งจกตุ๊กแก

นึกถึงบาปอกุศลก่อนตาย ไปอบายภูมิทั้ง 4

นึกถึงบุญกุศลความดีที่เคยทำมา ส่งกลับมาเป็นมนุษย์หรือเทวดาทั้ง6 ชั้น

นึก พุท โธ ก่อนตายไปได้แค่เทวดาไม่ถึงพรหม

เข้ารูปฌาณ ก่อนตาย ส่งไปถึงได้แค่ รูปพรหม

เข้าอรูปฌาณก่อนตาย ส่งไปได้ถึงอรูปพรหม


เตือนสติ..คับ

อย่าได้ประมาท..ว่าตนได้มรรคผลแล้ว...


asoka เขียน:
นึกระลึกรู้อยู่กับสติปัฏฐาน 4 หรือปัจจุบันอารมณ์จนถึงวินาทีสุดท้าย อาจส่งถึงได้หมดทั้งโลกุตรธรรม 9


รู้หรือเปล่า ทำเป็นหรือไม่ กบ ?
s004
:b11:
onion


ทำนั้นได้นั้นได้นี้..มิน่าละ...จึงมีอาการแบบขโมยมรรคขโมยผล...ขโมยประกาสนียบัตร...ไม่มีอาการผลของธรรมให้เห็น..

:b34:
กบนึกเอาเอง สรุปเอาเอง ตัดสินเอาเองตามอัตโนมัย ไร้เหตุผลอันควร

ใครไปบอกประกาศตนว่าบรรลุธรรมแล้ว เป็นอริยบุคคลชั้นนั้นชั้นนี้แล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่ กบคิดเอาเอง โมเมเอาเองทั้งนั้น

บอกแล้วหลายครั้งว่าการบรรลุธรรมมันเป็นเรื่องปัจจัตตัง
Kiss grin :b13:


โพสต์ เมื่อ: 12 ก.พ. 2016, 15:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg
กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg [ 45.99 KiB | เปิดดู 1169 ครั้ง ]
onion
กบตีความหมายบรรยายภาพนี้ให้แตกแล้วกบจะรูเองถึง

"อาการและผลของธรรม"
:b38:
โพสต์ เมื่อ: 13 ก.พ. 2016, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion
กบตีความหมายบรรยายภาพนี้ให้แตกแล้วกบจะรูเองถึง

"อาการและผลของธรรม"
:b38:


สังขารุเปกขาญาณเป็นลักษณะอย่างไรครับ

ความเห็นผม น่าจะเป็นอาการละ ด้วยอาศัยความจริงแห่งสัจธรรมมาละ เอาทุกขัง อนิจจัง อนัตตา วางแทนความคิดต่างๆ อาการต่างๆ จึงละด้วยความเห็นเป็นสัจธรรม ไม่อาลัยอาวรณ์กับจิตที่ยึดถือธรรมอยู่

อย่างนี้หรือปล่าวครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 178 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร