วันเวลาปัจจุบัน 02 ส.ค. 2025, 21:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 08:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
http://pantip.com/topic/35471071

ความเห็นประกอบหัวกระทู้ครับว่า...............ตลก! :b32:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b1: คุณโฮฮับตลกยังไง กรุณาอธิบายด้วย :b12:
:b22: แล้วไม่เห็นบอกเลยว่าทุกข์เนี่ยทุกข์มั๊ย แค่ไหน ยังไง :b16:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b1: คุณโฮฮับตลกยังไง กรุณาอธิบายด้วย :b12:
:b22: แล้วไม่เห็นบอกเลยว่าทุกข์เนี่ยทุกข์มั๊ย แค่ไหน ยังไง :b16:
:b4: :b4:


พี่โฮตลกที่จขกทเขาบอกว่า......"นิพพานมีจริง" ...."การแยกธาตุขันธ์"...."ทุกข์สั้นลง"
แถมยังบอกอีกว่า....ทุกข์มันดับไปเอง

สรุปก็คือ.....มันไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่ต้น หยิบเอาคำพูดของคนเพ้อเจ้อมาปรุงแต่ง
จนตัวเองหลงเคลิ้ม......แบบนี่แหละที่เรียกว่าตกเหว

จะสรุปให้ฟังสั้นๆก่อนว่า ทุกข์ไม่ใช่แบบที่จขกทเข้าใจ
ธาตุขันธ์มันแยกไม่ได้

ส่วนนิพพานจะเอาคำพูดที่ว่ามีจริงหรือไม่มีจริงมาพูดไม่ได้ เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล :b32:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่ากายกับจิตมันแยกกันชัดเจน
เหลือแม้แต่รูปขันธ์และนามขันธ์ก็แสดงไว้ละเอียด
ถึงจิต เจตสิก รูป นิพพานเป็นคนละอันไม่ปนกัน
แต่ความหลงผิดในอุปาทานขันธ์ที่เข้าไปยึดมั่น
ผู้ที่ยังไม่สามารถแยกได้คือมีอัตตาตัวตนมาก
:b12:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าแสดงไว้ว่ากายกับจิตมันแยกกันชัดเจน
เหลือแม้แต่รูปขันธ์และนามขันธ์ก็แสดงไว้ละเอียด
ถึงจิต เจตสิก รูป นิพพานเป็นคนละอันไม่ปนกัน
แต่ความหลงผิดในอุปาทานขันธ์ที่เข้าไปยึดมั่น
ผู้ที่ยังไม่สามารถแยกได้คือมีอัตตาตัวตนมาก
:b12:
:b4: :b4:


พูดจาเลอะเทอะแบบนี้ก็อย่างอ้างพระพุทธเจ้า

กะอีแค่บัญัติยังมั่ว ยังกล้าเสนอหน้า :b32:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด

การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์
โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง :b13:


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1: คุณโฮฮับตลกยังไง กรุณาอธิบายด้วย :b12:
:b22: แล้วไม่เห็นบอกเลยว่าทุกข์เนี่ยทุกข์มั๊ย แค่ไหน ยังไง :b16:
:b4: :b4:


พี่โฮตลกที่จขกทเขาบอกว่า......"นิพพานมีจริง" ...."การแยกธาตุขันธ์"...."ทุกข์สั้นลง"
แถมยังบอกอีกว่า....ทุกข์มันดับไปเอง

สรุปก็คือ.....มันไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่ต้น หยิบเอาคำพูดของคนเพ้อเจ้อมาปรุงแต่ง
จนตัวเองหลงเคลิ้ม......แบบนี่แหละที่เรียกว่าตกเหว

จะสรุปให้ฟังสั้นๆก่อนว่า ทุกข์ไม่ใช่แบบที่จขกทเข้าใจ
ธาตุขันธ์มันแยกไม่ได้

ส่วนนิพพานจะเอาคำพูดที่ว่ามีจริงหรือไม่มีจริงมาพูดไม่ได้ เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล :b32:



อ้างคำพูด:
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล


พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย :b14: :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด

การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์
โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง :b13:




อ้างคำพูด:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด

การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์
โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง :b13:





อ้างคำพูด:
ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด



ยิ่งทบทวนอ่านความรู้สึกนึกคิดของโฮฮับแล้ว นึกสงสารจับใจ :b32:

มิจฉาทิฏฐิเต็มกะบาล คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
ขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเ


เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง

กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ

ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว

ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
อ้างคำพูด:
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล


พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย :b14: :b9:


ขุดไม่ขึ้นจริงๆ!! มาอีหรอบเดิม


แบบนี้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลยแล้ว :b7:


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด

การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์
โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง :b13:




อ้างคำพูด:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง :b32:


ท่านเรียกว่า....."จำแนกแจกแจง"

คือบอกให้รู้ว่า กายใจของบุคคลหรือชีวิตประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง
ธาตุทุกตัวต้องสมดุลย์.....จะแยกเอาธาตุใดธาตุหนึ่งมาแล้วบอกว่าเป็นชีวิตไม่ได้
ตัวอย่าง ถ้าบอกว่า จักขุธาตุคือชีวิต นั้นต้องหมายถึงธาตุที่เหลืออีก๑๗ธาตุด้วย


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง

กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ


เอ็งจะเอากายใจไปจำแนกได้ไง พระอรหันต์ก็มีกายใจ
ที่เอ็งคิด(ไม่ใช่ซิ)ที่หลวงพ่อปยุตท่านกล่าวเช่นนี้ก็เพราะ ท่านคิดว่าพระอรหันต์ยังมีขันต์ห้า
ความคิดเช่นนี้เกิดจากอวิชชา เป็นวิจิกิจฉาในพุทธพจน์

ชีวิตของบุคคลมีแต่กายใจ สภาวธรรมที่เกิดขึ้นมันเกิดจากเหตุปัจจัยภายนอก

กายใจของบุคคล พระพุทธองค์ทรงแยกและให้บัญญัติไว้ว่า....ธรรมฐิติเป็นอสังขตธรรม

ส่วนขันต์ห้าเป็นสภาวธรรมที่เกิดจาก สังขตธรรมเป็นเหตุ

อสังขตธรรมไม่เกิดดับ แต่สังขตธรรมมันเกิดดับ

กรัชกาย เขียน:

ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว


ไอ้นี่ไม่รู้จักคำว่า "จำแนกแจกแจง" คำๆนี้หมายถึงการบอกให้รู้ว่า ธรรมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
เราไม่สามารถแยกธรรมเ้หล่านั้นให้เป็นเอกเทศได้ ถ้าเอามากล่าวเพียงโดดๆจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า
ยังมีธรรมตัวอื่นประกอบอยู่ด้วย

กรัชกาย เขียน:
ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ


ว่างั้นหรือ แล้วไอ้วิธีลอกบทความเขามาโพสทั้งดุ้น จะแย้งใครก็ก๊อบคำพูดคนอื่นมาเถียง
แบบนี้ไม่เรียกรู้แบบงูๆปลาๆหรอกเขาเรียก.............โง่แล้วทลึ่งนึกว่าตนฉลาด :b32:


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
อ้างคำพูด:
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล


พูดยังงี้ ก็แสดงว่า กายใจของปุถุชนคนทั่วๆไป ก็มีนิพพานอยู่สิ ไชโย :b14: :b9:


ขุดไม่ขึ้นจริงๆ!! มาอีหรอบเดิม


แบบนี้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลยแล้ว :b7:



อ้าว แล้วมันหมายควายว่ายังไงล่ะ

เนี่ย

อ้างคำพูด:
นิพพานเป็นสภาวธรรมในกายใจของบุคคล


ไหนลองว่าไปสิ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

ส่วนขันธ์นั้นก็เกิดจากการกระทำของกายใจเอง
เมื่อกายใจทำให้เกิดขันธ์ ขันธ์มันก็เกิด
โดยความเป็นจริงแล้ว...ไม่ใช่แยกขันธ์ แต่ต้องเป็นทำไม่ให้ขันธ์มันเกิด

การแยกธรรมที่แท้จริงแล้วคือการแยกสมมติและปรมัตถ์ ไม่ใช่แยกธาตุขันธ์
โดยธรรมชาติของปุถุชนจะเกิดขันธ์ขึ้นเสมอเมื่อเกิดการกระทบ นี่ก็เพราะไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสมมติและอะไรเป็นปรมัตถ์ นั้นก็คือเป็นอวิชชาไม่รู้จักแยกสมมติและปรมัตถ์นั้นเอง :b13:




อ้างคำพูด:
ธาตุมันแยกไม่ได้ เพราะกายใจของปุถุชนที่มีชีวิตอยู่ได้
ก็เพาะการรวมตัวกันของธาตุ

แล้วที่ท่านแยกเป็นธาตุ 18 ล่ะ จะทำยังไง :b32:


ท่านเรียกว่า....."จำแนกแจกแจง"

คือบอกให้รู้ว่า กายใจของบุคคลหรือชีวิตประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง
ธาตุทุกตัวต้องสมดุลย์.....จะแยกเอาธาตุใดธาตุหนึ่งมาแล้วบอกว่าเป็นชีวิตไม่ได้
ตัวอย่าง ถ้าบอกว่า จักขุธาตุคือชีวิต นั้นต้องหมายถึงธาตุที่เหลืออีก๑๗ธาตุด้วย


พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย

ไหนบอกแยกไม่ได้ไงล่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 10 ส.ค. 2016, 07:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เรื่องของชีวิตจิตใจ กาย-ใจ โฮฮับยังไม่รู้เรื่อง

กาย กับ ใจ นี่แหละ เมื่อจำแนกแจกแจงโดยความเป็นขันธ์ เป็นกอง เป็นหมวดแล้ว ได้ ๕ กอง ๕ ขันธ์ ๕ หมวด เออ


เอ็งจะเอากายใจไปจำแนกได้ไง พระอรหันต์ก็มีกายใจ
ที่เอ็งคิด(ไม่ใช่ซิ)ที่หลวงพ่อปยุตท่านกล่าวเช่นนี้ก็เพราะ ท่านคิดว่าพระอรหันต์ยังมีขันต์ห้า
ความคิดเช่นนี้เกิดจากอวิชชา เป็นวิจิกิจฉาในพุทธพจน์

ชีวิตของบุคคลมีแต่กายใจ สภาวธรรมที่เกิดขึ้นมันเกิดจากเหตุปัจจัยภายนอก

กายใจของบุคคล พระพุทธองค์ทรงแยกและให้บัญญัติไว้ว่า....ธรรมฐิติเป็นอสังขตธรรม

ส่วนขันต์ห้าเป็นสภาวธรรมที่เกิดจาก สังขตธรรมเป็นเหตุ

อสังขตธรรมไม่เกิดดับ แต่สังขตธรรมมันเกิดดับ

กรัชกาย เขียน:

ท่านยังจำแนกแจกแจงโดยความเป็นอายตนะ เป็นธาตุ เป็นอินทรีย์ ได้อีกนะคะทูลหัวของบ่าว


ไอ้นี่ไม่รู้จักคำว่า "จำแนกแจกแจง" คำๆนี้หมายถึงการบอกให้รู้ว่า ธรรมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
เราไม่สามารถแยกธรรมเ้หล่านั้นให้เป็นเอกเทศได้ ถ้าเอามากล่าวเพียงโดดๆจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า
ยังมีธรรมตัวอื่นประกอบอยู่ด้วย

กรัชกาย เขียน:
ตัวเองรู้แบบงูๆปลาๆ ผ่าไม่ดึงจาก 1000 ทิพ มาโชว์โฮ่ที่ลานนี้อีก ขยะบอร์ดจริงๆ คิกๆๆ


ว่างั้นหรือ แล้วไอ้วิธีลอกบทความเขามาโพสทั้งดุ้น จะแย้งใครก็ก๊อบคำพูดคนอื่นมาเถียง
แบบนี้ไม่เรียกรู้แบบงูๆปลาๆหรอกเขาเรียก.............โง่แล้วทลึ่งนึกว่าตนฉลาด :b32:



คคห.ก่อน บอกแยกได้ พอมา คคห.แยกไม่ได้ อุ๊ต๊ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร