(พูดในแง่ความหมายสูงสุด แยกให้ออกนะ)

"อัตตา" เป็นคำบาลี รูปสันสกฤตเป็น "อาตมัน" แปลว่า ตน, ตัว, หรือตัวตน

พุทธธรรมสอนว่า ตัวตนหรืออัตตานี้ ไม่มีอยู่จริง แต่เป็นสิ่งที่สมมติขึ้นเพื่อสะดวกในการสื่อสาร เพื่อความหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์ในความเป็นอยู่ประจำวัน กำหนดตามชื่อที่บัญญัติขึ้น หรือตั้งขึ้น สำหรับเรียกหน่วยรวมหรือภาพรวมหนึ่งๆ

อัตตานี้จะเป็นปัญหาขึ้น ก็ต่อเมื่อคนหลงผิดเกิดความยึดถือขึ้นมา ว่ามีตัวตนจริงๆ หรือเป็นตัวตนจริงๆ เรียกว่า รู้ไม่เท่าทันความเป็นจริง หรือหลงสมมติ

ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับอัตตานี้ พึงทราบว่า อัตตาไม่ใช่เป็นกิเลส มิใช่สิ่งที่จะต้องละ เพราะอัตตาไม่มีอยู่จริง จึงไม่มีอัตตาที่ใครจะละได้ อัตตามีอยู่เพียงในความยึดถือ สิ่งที่จะต้องทำก็มีเพียงการรู้เท่าทันตามเป็นจริงว่า ไม่มีอัตตา หรือไม่เป็นอัตตา อย่างที่เรียกว่า รู้ทันสมมติเท่านั้น

พูดอีกนัยหนึ่งว่า ละความยึดถือในอัตตา ละความยึดถือว่าเป็นอัตตา หรือถอนความหลงผิดในภาพของอัตตา หรือในบัญญัติแห่งอัตตาเสียเท่านั้น เรื่องอัตตาและการปฏิบัติต่ออัตตาในความหมายที่ใช้ทั่วไป มีเพียงเท่านี้

ละยังไง?

ถอนยังไง

บอกให้ละเอียดในวิธีปฏิบัติด้วยสิ

จะตั้งโจทก์ให้ท่านอโศกทำนะ

ท่านอโศกจงค้นหาหนวดเต่ามา กรัชกายจะใช้ทำยาอายุวัฒนะชุบคนตายให้ฟื้น ไปหามาไป

ถ้าหาไม่ได้กลับมา กรัชกายจะฟาดๆๆท่านอโศกด้วยไม้หน้าสาม

งั้นกรัชกายจงค้นหาเขากระต่ายมา จะทำเป็นยาล้างอวิชชาความโง่จากใจคน

ถ้าหาไม่ได้กลับมาจะฟาดกรัชกายด้วยไม้หน้าแปดให้สมองเน่าๆยุบไปเสียแล้วใส่ สมองชุดใหม่ โอเอสชนิดใหม่ที่พระพุทธเจ้าทรงมอบไว้ให้วิญญูชนทุกคนใช้แทน
555555555

อย่างนี้เขาเรียกต่อล้อต่อเถียง

หนวดเต่ามันไม่มี ต่อให้ท่านอโศกค้นหาทั้งชาติก็ไม่พบฉันใด อัตตาก็ฉันนั้น มันไม่มี แล้วจะไปค้นหาที่ไหน ก็มันไม่มี

บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่า.....อัตตา ไม่มีอยู่จริง แต่

"ความเห็นผิด ยึดผิด ว่ารูปนาม กาย ใจนี้เป็นอัตตาตัวตน
มีอยู่จริงในใจปุถุชนทุกคน"

ยอมรับไหมว่า

"ความเห็นผิด ยึดผิด ว่ารูปนาม กาย ใจนี้เป็นอัตตาตัวตน
มีอยู่จริงในใจปุถุชนทุกคน"

ก็ในเมือมันไม่มีแล้วท่านจะไปค้นหาที่ไหนมาทำลายแล้วอนัตตาเล่า เออ คิกๆๆ บอกเป็นร้อยรอบแล้ว

กรัชกาย

แสดงว่ากรัชกายยังไม่ยอมรับความจริงว่า มีความเห็นผิดยึดผิดว่ารูป นาม กาย ใจนี้เป็นกูเป็นเรา เป็นตัวตนอยู่ในจิตใจของกรัชกายและปุถุชนทุกคน ช่างน่าสงสารและเวทนาจริงๆเหมือนเรื่องเรื่องหนอนชื่นชมในมูตรคูต แม้เพื่อนเทวดาจะมาชวนออกอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น

ท่านอโศกลองตอบคำถามนะ

หนวดเต่าเขากระต่ายไม่มี แล้วท่านอโศกจะค้นหาเจอะไหม

ตอบ

1. ไม่เจอะ

2. เจอะ

ความจริงกำลังปรากฏว่ามีและกำลังเกิด-ดับตามเหตุตามปัจจัยต่อหน้าต่อตาต่อจิตทุกดวงแต่ไม่รู้ค่ะ
ใครจะทำอะไรได้ในเมื่อสิ่งที่ปรากฏผ่านตาทำให้หลงเข้าใจผิดว่าเราเห็นเราได้ยินเรารู้ทุกอย่างที่มีนั้น
แต่ไม่เข้าใจว่าไม่มีเราในทุกสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีจริงๆสั้นๆสลับกันที่รับรู้ผ่านทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ
ความรวดเร็วของการเกิดดับทำให้สิ่งที่ปรากฏกลายเป็นนิมิตคนสัตว์สิ่งของและทุกสิ่งทั้งใกล้และไกล
เป็นเพียงการปรากฏของมหาภูตรูป4+อุปาทายรูป4ที่หลงคิดไปว่าการรับรู้ที่เป็นใหญ่ทางตาไม่ดับเลย
แต่จริงๆแล้วแค่กะพริบตา1ครั้งสภาพธรรมที่เกิดดับทางตาหูจมูกลิ้นกายใจนั้นหายไปทุกขณะนับไม่ถ้วน
ด้วยความติดข้องหลงพอใจและไม่พอใจจากการเห็นสิ่งที่ปรากฏและลืมเสมอว่าทุกอย่างเป็นธัมมะเท่านั้น
เพราะไม่เคยคิดตามคำสอนให้ตรงความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏแต่เป็นความยึดถือมีอุปาทานขันธ์จนกว่า
จะมีความเห็นถูกมีสติระลึกได้ตามคำสอนทุกขณะจิตแล้วคิดไตร่ตรองตามความเป็นจริงจนจิตเท่าทันปัจจุบัน
ไม่มีใครเอากิเลสความไม่รู้ออกจากจิตได้นอกจากทำความเห็นให้คิดตรงตามคำสอนได้ว่าไม่ใช่เราเป็นธัมมะ
http://www.youtube.com/watch?v=ZFbHsVTQGcM

แสดงว่ากรัชกายยังไม่ยอมรับความจริงว่า มีความเห็นผิดยึดผิดว่ารูป นาม กาย ใจนี้เป็นกูเป็นเรา เป็นตัวตนอยู่ในจิตใจของกรัชกายและปุถุชนทุกคน ช่างน่าสงสารและเวทนาจริงๆเหมือนเรื่องเรื่องหนอนชื่นชมในมูตรคูต แม้เพื่อนเทวดาจะมาชวนออกอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น

ที่ถามไม่ตอบ คิกๆๆ





นี่แหละความคิดของพราหม์ว่าในจิตใจมีอาตมันแฝงซ่อนซ้อนอยู่ ที่คอยบังคับให้คนเป็นยังงั้นยังงี้

มันยึดถือ แต่มันไม่มี

มันไม่มี...ตลกดี..นะคับ..กับคำคำนี้..

มีแล้วอยู่ไหนล่ะ ไปจับมาให้ดูหน่อยสิ คิกๆๆ

อะไรบ้าง..ที่มันไม่มี..ของกักกายบ้าง...