วันเวลาปัจจุบัน 18 ส.ค. 2025, 02:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2017, 17:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




20170927_162324.jpg
20170927_162324.jpg [ 92.53 KiB | เปิดดู 2034 ครั้ง ]
อวิชชาเกิดกับโลภะเกิดกับโทสะก็พอเข้าใจได้
เพราะเป็นอกุศลเหมือนกัน แต่อวิชชาที่ยังมีในกุศลจิต ๑๗ นี่ซิยิ่งน่างงขึ้นไปอีก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ย. 2017, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


ในครั้งนั้นพระพุทธเจ้ายังเสวยชาติที่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ
ได้แสวงหาโมกขธรรม ได้เข้าไปศึกษาธรรมกับอาจารย์ที่ชื่อว่า
อาฬาลดาบส กับอุทกดาบส
เมื่อจบหลักสูตรจึงได้ถามวิชามีเพียงเท่านี้หรือ อาจารย์ทั้งสอง
ก็ถามว่ามีเพียงเท่านี้ เมื่อเป็นดังนั้นเจ้าชายสิทธัตถะก็ได้พิจารณา
สิ่งที่เราแสวงหาอยู่ยังไม่เป็นที่ต้องการขอลเรา เพราะเราต้องการ
แสวงหาการที่ไม่เกิดอีก เพราะเห็นว่าเมื่อมีการเกิดขึ้นก็ย่อมมีอีก
สิ่งหนึ่งที่มันไม่เกิดอีก จึงได้ลาอาจารย์ทั้งสองเพื่อแสวงหาสิ่งที่
ต้องการด้วยพระองค์เอง

ดังที่ได้กล่าวมานี้แสดงให้ได้ว่าวิชาที่อาจารย์ทั้งสองมองไม่เห็นอวิชชา
ที่เป็นกิเลสที่ที่ละเอียดที่นอนเนื่องในขันธสันดานของตน เพราะกำลัง
ปัญญาของอาจารย์ทั้งสองไม่สามารถทะลุล่วงรู้เข้าไปตัวอวิชชาได้
ผมจึงเกลิ่นไว้ตอนต้นๆ อวิชชาหรือ โมหะนี้ที่เป็นมือที่มองไม่เห็น
ต้องใช้กำลังของพระพุทธจึงจะมองเห็นเข้าไปประหานอวิชชาที่เป็น
ธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งให้ราบคาบเพราะเป็นตัวต้นเหตุรากเง่า
แห่งการเกิดอีกที่ซ่อนเร้นมาพร้อมกับตัวตัณหาอุปาทาน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2017, 06:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




iqx4lt.gif
iqx4lt.gif [ 2.28 MiB | เปิดดู 1960 ครั้ง ]
.......
อวิชชาเป็นกิเลสเผารนให้เร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2017, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อวิชชาเกิดกับโลภะเกิดกับโทสะก็พอเข้าใจได้
เพราะเป็นอกุศลเหมือนกัน แต่อวิชชาที่ยังมีในกุศลจิต ๑๗ นี่ซิยิ่งน่างงขึ้นไปอีก


ความวิปลาส เพราะอวิชชา
แม้จิตไม่ใช่อกุศลจิตซึ่งเป็นจิตตวิปลาส หรือแม้ไม่อกุศลจิตซึ่งประกอบด้วยทิฏฐิวิปลาส
แต่
สัญญาวิปลาส ซึ่งมีกำลังอ่อน ด้วยอวิชชาตกแต่งไว้
ก็ยังสามารถแล่นไปกับจิตอันเป็นทั้ง อกุศล และ กุศล

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ย. 2017, 17:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




unnamed (14).gif
unnamed (14).gif [ 60.56 KiB | เปิดดู 1940 ครั้ง ]
....
แม้แต่ในสายของปฏิจจสมุปบาท จะมีอวิชชาแล่นไปตลอดสาย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ต.ค. 2017, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อวิชชา ปัจจยาสังขารา
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
อวิชชา เป็นโมหะเจตสิก เป็นกิเลสด้วย เป็นอนุสัยด้วย เป็นปัจจัยแก่เจตนาเจตสิก
เจตนาเจตสิก เป็นสัพพสาธารณะเจตสิก มีกับจิตทุกประเภท
แต่อำนาจของอวิชชา อันเป็นอวิชชานุสัย เป็นกิเลสด้วยนั้น
มีอานิสงส์แผ่ซ่านไป ในกามาวจรจิต ในรูปาวจรจิต ในอรูปาวจรจิต ในอัพยากตจิตอันเป็นกามาวจรจิต เป็นอัพยากตในรูปวจรจิต ในอัพยากตอรูปาวจรจิต
ไม่มีความแผ่ไปกับเจตนา ในมรรคจิต ในผลจิต ในมหากิริยาจิต ในรูปาวจรกิริยาจิต ในอรูปาวจรกิริยาจิต และอเหสิตุปาทกิริยาจิต
ดังนั้น แม้ในกุศลจิต ที่ประกอบด้วยอโมหะก็ตาม แต่อวิชชาแผ่ไปด้วยอำนาจของความเป็นอวิชชานุสัย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2017, 03:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร