วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 21:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2018, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


เกือบ ๒๐ ปีที่แล้ว พี่ชายคนโตของดิฉันได้ตายไป พี่ชายจะรักลูกสาวทั้งสองของดิฉันมาก
โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็ก เพราะว่าเป็นหลานสาวอายุยังไม่ถึง ๒ ขวบ กำลังน่ารัก
ส่วนลูกสาวคนโตเพิ่งเข้าเรียนชั้นอนุบาล อายุเกือบ ๔ ขวบ

ทีนี้พี่ชายก็มาด่วนตายจากไป ดิฉันก็คิดว่าพี่จะต้องคิดถึงหลานๆ เป็นแน่
ในงานสวดศพวันที่ ๗ ดิฉันก็ได้จุดธูปบอกพี่ชายที่หน้าโลงศพในศาลาก่อนจะกลับบ้าน

ดิฉันก็บอกว่า ไปหาหลานๆ บ้างนะ อยากให้ไปหาเพราะรู้ว่าพี่คิดถึงหลาน
ดิฉันและลูกๆ จะนอนด้วยกัน และเปิดไฟสว่างจ้าทั้งห้อง เพื่อสะดวกในการดูแลเด็ก ส่วนสามีไปทำงานที่ต่างจังหวัดในตอนนั้น

คืนนั้นเองเมื่อทุกๆ คนหลับกันหมด ลูกสาวคนโตและคนเล็ก ก็ได้ฝันเรื่องเดียวกันสถานที่ในฝันคือห้องนอน
ตอนเช้าตื่นขึ้นมา เด็กๆ ก็มาเล่าให้ฟังว่า ลุงมาหาและเอาหลานคนเล็กนั่งตักแล้วเล่นหยอกล้อกัน
ส่วนหลานสาวคนโตก็นั่งข้างๆ นั่งเล่นสนุกหัวเราะกันใหญ่ทั้ง ๓ คน
ลูกสาวทั้งสองคนเล่าเหมือนกันทุกอย่างว่าเล่นอะไรกันบ้าง แล้วก็ช่วยกันเล่าให้ดิฉันฟังอย่างสนุกสนาน

ดิฉันก็ถามลูกว่า แล้วแม่ล่ะ แม่อยู่ที่ไหนตอนลุงมา ลูกสาวทั้งสองก็ตอบว่าแม่ก็นอนอยู่ตรงที่แม่นอน
แม่หลับตลอดตอนลุงมา

มีช่วงที่เด็ดสุดคือ ลูกสาวคนโตบอกกับลุงว่า แม่ไม่มีเงิน ลูกสาวคนโตนั้นพูดรู้เรื่องแล้วเรื่องการประหยัดเงิน เพราะพ่อของเค้าทำงานคนเดียว ส่วนดิฉันนั้นออกจากงานมาเลี้ยงลูก ตอนที่สามีทำงานอยู่บริษัทฝรั่ง ได้เงินเดือนเยอะมาก สามีก็เลี้ยงได้สบายมากไม่ต้องประหยัด อยากได้อะไรก็ซื้อให้ พอสามีต้องย้ายไปอยู่บริษัทใหม่ ก็ได้เงินเดือนน้อยลง ครอบครัวเราจึงต้องประหยัด เคยมีครั้งหนึ่งที่ลูกสาวคนโตเห็นแมวน่ารัก ก็ขอแม่เลี้ยงแมว แม่ก็บอกว่าแม่ไม่มีเงินซื้อปลาทูให้แมวกินทุกวันหรอกนะ ลูกสาวก็บอกว่า งั้นก็เอาวิสกัสให้กินก็ได้ :b12:

เล่าเรื่องความฝันต่อยังไม่จบ ขณะที่ลุงมาหาเด็กๆ นั้น เจ้าลูกสาวคนโตก็บอกกับลุงว่าแม่ไม่มีเงิน แล้วลุงก็ตอบว่า เดี๋ยวลุงให้ และอีกหลายปีต่อมา ดิฉันก็ได้ส่วนแบ่งจากการขายตึกของพี่ชายที่ตายไป

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2018, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวานนี้มีพี่ข้างบ้าน แกไม่มีเงินซื้อกับข้าวให้หลานกิน พี่แกก็ทอดไข่ให้หลานกินเป็นอาหารเช้า
ทีนี้เด็กๆ ก็ประท้วงไม่ยอมกินกัน แกก็กลุ้มใจ แกก็เลยโทรศัพท์มาหาดิฉัน มาขอยืมเงิน ๑๐๐๐ บาท
แกบอกว่า แกอายๆ เหมือนกันยืมเงินอยู่เรื่อย

ตามธรรมดาแกก็ยืมเงินดิฉันใช้ทุกเดือนอยู่แล้ว บางครั้งก็ยืมหลายพันบาทก็มี
แล้วแกก็คืนทุกครั้ง แกยืมเงินดิฉันมานานแล้ว แต่ทุกครั้งที่ยืมแกจะค่อนข้างเกรงใจทุกครั้ง
ดิฉันก็รู้ว่าแกคงอายๆ เหมือนกัน ครั้งนี้ที่ยืมเมื่อวาน แกก็บอกมาเลยว่าแกอายดิฉันที่มายืมเงิน

ดิฉันก็บอกว่า ไม่ต้องอาย มายืมได้เลยดิฉันยินดีให้ยืม ความจริงถ้าดิฉันรวยดิฉันจะให้ไปเลยด้วยซ้ำ
แต่ดิฉันก็ติดภาระที่ลูกสาวทั้งสองเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งค่าลงทะเบียน ค่าใช้จ่ายต่างๆ เยอะม๊ากกกก
จึงช่วยใครไม่ได้เต็มที่ ก็มีช่วยบ้างคือช่วยขอบริจาคจากเพื่อนๆ เช่น เด็กไม่มีชุดนักเรียน
ในเปิดเทอมนี้มีเด็กผู้หญิงที่ขึ้นช่วงชั้นใหม่ ต้องเปลี่ยนแบบฟอร์มชุดนักเรียนใหม่ ทีนี้ยายของเด็กไม่มีตังค์ซื้อชุดนักเรียนใหม่ ก็มาขอให้ช่วย ดิฉันก็ขอบริจาคได้จากเพื่อน ๗๐๐ บาท ตัวดิฉันออกเงินเอง ๓๖๐ บาท ซื้อชุดนักเรียนหญิงชั้น ม.๔ ให้เด็ก เป็นเสื้อนักเรียน ๒ ตัว กระโปรง ๑ ตัว

ที่เล่ามานี้ไม่ได้โอ้อวดว่า ไปทำความดีอะไรมา แต่อยากจะบอกว่า คนเรานั้นอยู่แบบเอาตัวรอดคนเดียวไม่ได้ อะไรที่เราช่วยได้เราต้องช่วย อย่าปล่อยผ่านไปว่าธุระไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับชั้นทำไมไม่ดิ้นรนขวนขวายรับผิดชอบตัวเองกันให้ได้ แล้วก็ว่าชีวิตตัวเองนั้นสร้างตัวมาด้วยความลำบากจนสุขสบาย ทำไมไม่สู้แบบตนเองบ้างจะได้ไม่ลำบาก

โถ คนนั้นไม่เหมือนกันทุกคนหรอกค่ะ สติปัญญาโอกาสและความสามารถย่อมแตกต่างกันไป
จะให้ทุกคนแน่นอนเหมือนกันหมดไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคิดแบบนี้นะ ให้ใครไม่เป็น ช่วยใครไม่ได้
ช่วยได้แต่ครอบครัวตัวเอง อย่างนี้ก็อยู่แบบเห็นแก่ตัวในสังคม ไม่รู้จักทำบุญเผื่อแผ่เจือจานให้คนอื่น
เสร็จแล้วเมื่อคุณตายไป คุณก็ต้องทิ้งสมบัติที่คุณเหน็ดเหนื่อยหามาได้ไว้บนโลกใบนี้
บางคนอาจจะอ้างว่า สมบัติให้ลูกหลานตัวเองไม่ได้ทิ้งเสียหาย
ก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างดีรักลูกหลาน และได้ผสมเอาความโง่เง้าเต่าตุ่นไว้ด้วย
เพราะสมบัติตัวเองไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ตนเองในภพหน้าเลย วัฏฏะข้างหน้าจะเอาอะไรกินใช้ น่าฉงฉาน

ขอให้รู้ไว้ว่า มนุษย์เรานั้นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

จงให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่น แต่ช่วยด้วยความรอบครอบด้วยว่า ช่วยคลายทุกข์ร้อนให้เค้า
แต่เค้ายืมไปทำพินาศ เช่น เล่นการพนันก็อย่าให้ ถ้าเค้ากำลังอดข้าวกำลังลำบากก็ต้องช่วย เป็นต้น

ทีนี้จะวกกลับมาเรื่องเมื่อวาน พี่สาวข้างบ้านยืมตังค์
จะบอกว่าพี่สาวข้างบ้านนั้น แกก็หัวอกเดียวกันกับดิฉัน ดิฉันเองนั้นยามเมื่อฉุกเฉินก็มีญาติห่างๆ ยินดีให้ยืมตังค์ แล้วดิฉันก็รีบไปใช้คืนทันทีเหมือนกันด้วยความเกรงใจ

เราให้ความช่วยเหลือแก่คนอื่น
แล้วในขณะเดียวกัน เราเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นด้วยเหมือนกัน

การที่คุณไม่ยอมช่วยเหลือใครเลยในวันนี้ ใจคอคับแคบแล้วไซร์
วันข้างหน้าตัวคุณเองเมื่อต้องการความช่วยเหลือเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากใครคนใดคนหนึ่ง
ก็จะไม่มีใครให้ความช่วยเหลือคุณเช่นกันค่ะ

มนุษย์นั้นเกิดมาแล้วก็ต้องเป็นอัญญมัญญะกัน คือ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันนะคะ

--------------------------------------------------------

เล่าเรื่องความฝันต่อค่ะ

เมื่อสองเดือนก่อนนี้ได้ฝันว่า จู่ก็มีผู้หญิงสาวสวยตัวเล็กรูปร่างสมส่วน สูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตรได้ ลอยวิ๊งๆๆมา แล้วมาตกปุ๊ข้างสามีของดิฉัน แล้วเธอยังทำท่ายิ้มแย้มกอดสามีดิฉันด้วย

ในฝันก็หึงๆ อยู่เหมือนกันนะ แต่พอรุ่งเช้าดิฉันก็ไปที่รั้วหลังบ้าน ก็จะมีรั้วช่วงหนึ่งที่ดิฉันเอาแผ่นหลังคากระเบื้องพิงรั้วไว้นานแล้ว จึงเป็นโพรงเป็นช่องว่างอยู่ ร้อยวันพันปีดิฉันก็ไม่เคยไปดูโพรงนั้น

แต่วันนั้นเป็นอะไรไม่รู้ ดิฉันนั่งลงมองไปในโพรงนั้น หน้อยแน่ะ ใครเอานางกวักแขนหักข้างนึงมาทิ้งไว้ในโพรงรั้วบ้านของดิฉันก็ไม่รู้

รั้วนั้นด้านบนจะเป็นลวดหนาม ข้างล่างเป็นสังกะสีกั้นระหว่างที่ดินญาติกับที่ดินของดิฉัน
แล้วรั้วสังกะสีนั้นก็แหวกได้ด้วย คือเป็นรั้วกั้นกันไปแบ่งเขตเท่านั้นไม่ได้แข็งแรงอะไรมากมาย

คือก่อนเจอนางกวักแขนหักนี้ สองสามวันก่อนญาติเจ้าของที่ดินได้มาถางหญ้าตัดต้นไม้ตรงที่ดินบริเวณนั้นของเค้า เค้าคงเจอนางกวักแขนหัก เห็นว่าตามตำราแล้วเป็นสิ่งไม่ดีไม่ควรเก็บไว้ เค้าก็คงอยากให้รั้วฝั่งบ้านของดิฉันเก็บเอาไว้

ดิฉันก็บอกเพื่อนบ้านใกล้ๆ กันนั้นที่เช่าบ้านญาติคนนั้นอยู่
ปรากฏว่าเป็นของคนที่เช่าบ้านญาตินั้นแหละ ที่นำนางกวักแขนหักมาโยนไว้ที่รกๆกลางที่ดินญาตินั่นเอง

คนเช่าบ้านเล่าว่า ลูกของเธอทำนางกวักตกลงมาแขนหัก
เธอก็พยายามใช้กาวติดแขนนางกวักแล้ว แต่ก็ต่อไม่ติด
ทีนี้ต่อมา ลูกชายอายุประมาณ ๑๐ กว่าขวบของเธอนั้น ก็แขนหักติดต่อกันถึง ๒ ครั้ง
ส่วนลูกสาวคนเล็กของเธอ ก็ขาหักอีก

เธอก็เลยไปเช่านางกวักมาใหม่ แล้วเรียนเชิญนางกวักมาสิงสถิตย์ที่นางกวักใหม่ที่เช่ามา
แล้วเธอก็โยนนางกวักแขนหักทิ้งไปที่กลางทุ้งหญ้าดงไม้ที่รกๆ นั้น

ดิฉันก็บอกว่าให้เอาไปไว้ที่อื่น เธอก็เลยให้คนเอาไปไว้ที่อื่น แล้วเธอก็ขอโทษนางกวักแขนหักใหญ่เลย

ยังไม่จบ ล๊อตเตอรี่งวดนั้น เลขท้าย ๒ ตัว ออกเลขทะเบียนสองตัวหลังของรถสามีดิฉันค่ะ

เล่าให้อ่านสนุกๆ นะคะ
แต่มีข้อคิดอย่างหนึ่งค่ะว่า พระรัตนตรัยคือที่พึ่งอันสูงสุดของเราชาวพุทธ คนที่เคร่งครัดมากๆ ก็จะบอกว่าที่พึ่งอย่างอื่นของเราไม่มี เรามีแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันสูงสุดของพวกเรา

แต่ในช่วงที่โลกเรานั้นเว้นว่างจากศาสนาพุทธ
มนุษย์เราก็พึ่งผีสางเทวดากัน กราบไหว้ต้นไม้ เป็นต้น ซึ่งการทำอย่างนี้อยู่ในโลกทีึ่เป็นช่วงว่างเว้นจากศาสนาพุทธ ซึ่งมีระยะเวลายาวนานมากกว่าช่วงที่โลกมีศาสนาพุทธเสียอีก

ดังนั้น ก็ให้รู้ว่ามนุษย์เราพึ่งพาเรื่องแบบนี้มานานแล้ว แล้วก็วนเวียนกันต่อๆไปอีก
ไม่ได้พูดให้ไปเช่านางกวัก หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ นะคะ
แต่อยากจะให้ทำความเข้าใจเท่านั้นว่า ทางที่ดีอย่าไปดิ้นรนหาวัตถุสิ่งใดอะไรมาเป็นที่พึ่งดีกว่า
สิ่งเหล่านี้ที่พึ่งได้จริงนั้น อาจจะไม่มีด้วยซ้ำ แต่ว่าถ้าทำไม่ดีขึ้นมา ด้านร้ายอาจจะมาแทน

ไปประมาทสิ่งเหล่านี้ไม่ได้นะคะ ทางทีดีอย่าหาเข้ามาจะดีกว่า
ให้คุณนั้นดิฉันก็ไม่เห็นนะคะ เห็นว่าบูชามานานก็เห็นยังจนกันอยู่
แต่เวลารูปปั้นแตกหักเสียหายขึ้นมา กลับดูเหมือนจะให้โทษซะงั้น

ดิฉันเห็นบางบ้าน มีนางกวักตั้งมีน้ำแดงวาง แต่เล่นการพนันหูดับตับแลบ หมดเนื้อหมดตัว ถามว่านางกวักให้คุณอะไรบ้าง ซึ่งกรณีนี้แค่ทำตัวเองให้ดีก็ไม่จนแล้ว

การที่เราจะมีโชคลาภ ได้ดิบได้ดีนั้น เราต้องกระทำเหตุดีให้เกิดขึ้นก่อนด้วยการ กระทำกุศล
แล้วกุศลที่ทำนี้จะชักนำพาวิปากดีมาหาเราเอง ขอให้เชื่อมั่นในความดีเข้าไว้ ต้องได้ดีแน่ในอนาคต
แม้ว่าวันนี้อะไรๆ มันจะไม่ดี แต่วันหน้าต้องดี ถ้ายังต้องทำมาหากินก็ต้องหมั่นขยันประกอบกิจการงานด้วยความซื่อสัตย์ขยันอดทน เป็นคนมีคุณธรรมด้วย

อยากได้วิปากที่ดีเร็วๆ ก็ให้ทำบุญทำทาน รักษาศีล และปฏิบัติกรรมฐานค่ะ นั่นแหละที่พึ่งอย่างดีเสียยิ่งกว่ารูปปั้นอะไร ต้นไม้ที่ไหนเสียอีกค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2018, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8575


 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อๆ หรือจบแล้ว Kiss

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2018, 11:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ต่อๆ หรือจบแล้ว Kiss


cool ยังไม่จบคะลุง ลุงส่งเรื่องผี มาประกวดสักเรื่องสิ

มีแบบเหลือเชื่อมากเลยนะ ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ แต่คนที่เจอคือสามีของหนูเอง
เขาไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง กลับมาเล่าให้ฟังว่า เจอผีหลอกในโรงแรมที่ต่างจังหวัด

ในคืนวันที่เจอผีนั้น สามีแกก็ดูหนังฝรั่งจนหลับไป มาตื่นอีกทีหนังฝรั่งจบแล้วก็ขึ้นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ เรียงพรืดตามที่เราเห็นกันตอนหนังจบนั่นแหละ คุณสามีแกก็ตื่นขึ้นมาลืมตาเห็นผีออกมาจากทีวี

ผีออกมาจากทีวี มายืนให้แกเห็นทั้งตัว มาตอนหนังฝรั่งจบ แต่เป็นผีผู้หญิงไทย ใส่ผ้าถุงกับเสื้อผ้าเก่าๆ
มายืนให้เห็น แล้วก็หายไป

หนูล่ะขำ กลับมาถึงบ้านบอก.....เธอๆ ชั้นเจอผีหลอกในโรงแรม
ทีงี้มาเล่าให้เราฟัง ทีเจอผู้หญิงตัวเป็นๆ แบบที่ต้องจ่ายตังค์ ไม่เห็นจะเคยมาเล่าให้ฟังบ้างเลย อิดวก

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2018, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8575


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
หนูล่ะขำ กลับมาถึงบ้านบอก.....เธอๆ ชั้นเจอผีหลอกในโรงแรม
ทีงี้มาเล่าให้เราฟัง ทีเจอผู้หญิงตัวเป็นๆ แบบที่ต้องจ่ายตังค์ ไม่เห็นจะเคยมาเล่าให้ฟังบ้างเลย อิดวก


ผีที่เขาห่อผ้าไว้ ผีแบบนี้ใครที่ไหนจะกล้าเอามาเล่า น่ากลัวจะตายไป เล่าดีไม่ดี แม่เกิดเฮี้ยนขึ้นมามิหัวแบ๊ะเหรอ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2018, 08:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
อ้างคำพูด:
หนูล่ะขำ กลับมาถึงบ้านบอก.....เธอๆ ชั้นเจอผีหลอกในโรงแรม
ทีงี้มาเล่าให้เราฟัง ทีเจอผู้หญิงตัวเป็นๆ แบบที่ต้องจ่ายตังค์ ไม่เห็นจะเคยมาเล่าให้ฟังบ้างเลย อิดวก


ผีที่เขาห่อผ้าไว้ ผีแบบนี้ใครที่ไหนจะกล้าเอามาเล่า น่ากลัวจะตายไป เล่าดีไม่ดี แม่เกิดเฮี้ยนขึ้นมามิหัวแบ๊ะเหรอ



นั่นสิคะลุง แต่หนูยั้งๆ ไว้ได้เพราะคิดได้ว่า เดี๋ยวสามีเจ็บป่วยไป เงินทองจะไม่คล่องมือหนู
ตอนหลังหนูใช้นโยบายโซ่เงินคล้องใจ สามีก็เลยชนะใจหนูมาโดยตลอด ครอบครัวมีความสุขค่ะ s005

พอจริงๆ แล้ว ความสบายใจต่างหากที่เป็นความสุข สบายใจมีเงินเลี้ยงดูลูก
ใจเราสบายซะแล้ว ความสุขก็มาเอง

เล่าให้อ่านต่อ
สามีหนูเวลานอน จะดับไฟ ห้องนอนมืดสนิท ตอนหลังพอมีเรื่องผีหลอกลูก
สามีก็จะนอนแบบเปิดไฟสว่างจ้าในห้องนอน ตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้

ลูกสาวซะอีกที่ถูกผีหลอก กลับมาปิดไฟนอนแล้ว ส่วนพ่อมันยังเปิดไฟนอนสว่างจ้าอยู่เลยค่ะ :b12:

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2018, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรื่องภพภูมินั้น
เราพิสูจน์ได้ด้วยตาที่สามารถเห็นได้แค่ ๒ ภูมิ คือ
- ภูมิที่เป็นภูมิของมนุษย์ ซึ่งเป็นสุคติภูมิ และ
- ภูมิที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งเป็นทุคติภูมิ หรือ อบายภูมิ ๑ ภูมิเท่านั้น สัตว์เดรัจฉานอาศัยร่วมโลกใบเดียวกับมนุษย์

ในภูมิส่วนที่เหลืออีก ๒๙ ภูมินั้น จะมีเฉพาะบางคนเท่านั้นที่มีประสบการณ์ตรงจริงๆ เช่น พระอรหันต์ที่มีอภิญญา ท่านสามารถท่องเที่ยวไปดูภพภูมิเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง เช่น พระมาลัย ที่หลายคนคงทราบเรื่องราวของท่านมาแล้ว ว่าท่านไปนรก ไปสวรรค์ และคนธรรมดาที่โดนผีหลอก ซึ่งผีก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่า เห็นเทวดา หรือว่าเห็นเปรตเห็นอสุรกาย เพราะบางครั้งเทวดาก็มาหลอกให้คนกลัวก็มี

คนไทยส่วนมากเป็นชาวพุทธที่เชื่อเรื่องภพภูมิ เชื่อเรื่องของเทพ,ฑูต,ผีปีศาจ ซึ่งภพภูมิเหล่านี้ก็คือ เทวดา เปรต อสุรกาย ซึ่งเป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่มีในพระไตรปิฎก

ความศรัทธาที่มีต่อคำสอนของพระพุทธองค์นั้น เป็นกุศล
แต่ถ้าเมื่อไรมางมงายหาโชคลาภหรือหาทางดับทุกข์กับ เทวดา เปรต อสุรกาย เมื่อนั้นไม่ใช่ศรัทธา ไม่ใช่กุศล แต่เป็นความโง่งมงาย

ภพภูมิต่างๆ มีจริง แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะไปแสวงหาทางดับทุกข์ หรือหาทางร่ำรวย กับภพภูมิเหล่านั้น
บางทีมีทุกข์ก็ไปหาคนทรงผี ในสำนักต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินจากคนที่ได้รับความทุกข์อยู่

จะบอกว่าเทวดาไม่อยากมายุ่งกับมนุษย์หรอกนะ
เหมือนกับคนเรานั่นแหละก็ไม่เคยไปนั่งกอดหมาเน่าที่ตายแล้ว
คนทรงกี่คนต่อกี่คน ก็บอกว่าเทวดามาเข้าร่างตนเองทั้งนั้น ไม่ใช่เปรตอสุรกายมาเข้าร่าง

ปัจจุบันก็มีคนทรงอยู่มากมายที่ทำมาหากินกับความเชื่อของคน
ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้จริงๆ สักอย่าง ถ้าช่วยได้จริงคนทรงนั้นต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน ช่วยให้ตนเองได้รวยมหาศาลก่อน รวยแล้วก็ไม่ต้องมานั่งทรงเจ้าเข้าผีให้เหน็ดเหนื่อยหรอกนะ ไหนจะต้องมานั่งแสดงกิริยาอาการต่างๆ ให้คนเชื่อถือ ต้องฟังคนรบเร้าให้ช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ในแต่ละวันมีคนมาหาไม่ได้พักผ่อน ดูๆ แล้วก็ไม่ได้สบายเอาเสียเลย

ทำไม ทำไม แล้วก็ทำไม ถ้ามีความสามารถมากมาย ทำไมไม่คลายทุกข์ให้ตนเองรวยมหาศาล
ไม่ต้องมาทำอะไรให้เหนื่อยเพื่อได้เงิน จะบอกว่าทรงเจ้าเข้าผีเพื่อช่วยเหลือคน งั้นก็ไม่ต้องเอาเงินมากมายก็ได้ เอาแค่ไม่เกิน ๑๐ บาทเป็นพิธีพอ หรือไม่ก็ฟรีตลอดงานการคลาายทุกข์ชาวบ้าน ทำพิธีอะไรก็สงเคราะห์ทำให้ฟรี เพราะว่าตนเองรวยแล้วจากความสามารถที่ตนมีอยู่ ทำไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่นจริงๆ รวยมหาศาลแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงแน่นอน

ถ้ามีความสามารถจริง ทำไมไม่รวยซะเองก่อน ที่เห็นส่วนมากก็เหมือนจะจนๆ กันอยู่ด้วยซ้ำไป
บางคนมีทำรวยอู้ฟู่อวดคน มีรถเบนซ์ป้ายแดง มีบ้านใหญ่โต แต่แอบกู้เงินนอกระบบกับชาวบ้านธรรมดา ลุงที่เป็นนายทุนเงินกู้นั้นซี้ปึกกับดิฉัน แกเล่าให้ฟังแบบขำๆ ว่าคนทรงมากู้เงินแกไปล้านนึง

เห็นบางคนทำอวดรวย อย่าเพิ่งรีบเชื่อเน้อ ถ้าเค้ารวยจริงช่วยจริง มันต้องฟรีตลอดงาน
ดูงานแจกยาของหมอแสงเป็นตัวอย่างล่ะกัน เท่าที่ดูหมอแสงแจกจริงทุกเม็ดไม่มีการขาย อันนี้พูดเพราะเห็นว่าช่วยเหลือกันจริงไม่ขายค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2018, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว




skeletons_creeping_out_closet_500_clr_17804.gif
skeletons_creeping_out_closet_500_clr_17804.gif [ 1.81 MiB | เปิดดู 5238 ครั้ง ]
เวรandกรรมจริงๆ ช่วงนี้้

พระสงฆ์ไทยนะจ้ะไม่ฆาตรกรใจโหดปล้นฆ่าข่มขืนที่ไหน ไม่ต้องเล่นเยอะก็ได้ อายเค้า

ในช่วงนี้นะดิฉันว่าคนน่ากลัวกว่าผี

ผีห่าซาตานหิวโหยในร่างคน น่ากลัวกว่าผีในโลง น่ากลัวกว่าผีที่ตามหลอกหลอน

เจอผีมาก็เยอะ เจอคนมาก็มาก มาเจอผีห่าซาตานช่วงนี้บอกเลยว่า ยอม

เอาไปเลยนะอยากได้อะไร เอาไปให้หมด

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มิ.ย. 2018, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว




relentless_salesman_500_clr_17963.gif
relentless_salesman_500_clr_17963.gif [ 1.48 MiB | เปิดดู 5238 ครั้ง ]
เท่าที่เจอมา คนสมัยใหม่จะไม่เชื่อเรื่องภพภูมิ
พูดง่ายๆ คือไม่เชื่อภพภูมิเทวดา เปรต อสุรกาย นรกว่ามีจริง
จะหนักไปทางวิทยาศาสตร์ คิดว่าเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ใช้ชีวิตกันให้สุดๆ
อยากทำอะไรก็ทำเกิดครั้งเดียวตายหนเดียว ใช้ชีวิตให้คุ้ม คนพวกนี้จึงทำบาปได้ง่ายมาก
เพราะทำไปแล้วไม่มีผลอะไรในภายหน้า คิดว่าตายแล้วสูญไม่ต้องเกิดอีก

มีบางคนที่เด็ดกว่านั้น คือเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ แต่นรกยังมาไม่ถึง ตอนนี้ขอสบายก่อนด้วยการโกงเงิน
นรกนั้นเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งก็ยังมองไม่เห็น แต่ตอนนี้อยากสบายทำผิดก็ยอม โกงเงินเค้าก็ยอมทำ
อันนี้ฟังมากับหูตัวเอง ดิฉันก็ได้แต่นิ่งไปแป๊บนึง ก็คิดว่าเราคงช่วยเค้าไม่ได้จริงๆ แล้ว

การที่คนไม่เชื่อในเรื่องภพภูมินั้น เพราะการขาดศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่เชื่อในการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าที่พิสูจน์ไม่ได้

ดังนั้น คนเหล่านี้จึงทำชั่วโดยไม่กลัวเกรงและละอายต่อบาป
ส่วนคนอีกจำพวกหนึ่งก็บวชอยู่ในพระพุทธศาสนา แต่ก็ทำชั่วยิ่งกว่าชาวบ้านธรรมดาก็มี
คนพวกนี้เหมือนทัพพีีที่คนแกงอยู่ในหม้อ เป็นทัพพีที่ชุ่มด้วยน้ำแกงรอบตัวแต่ไม่รู้รสแกง

----------------------------------------------------------
บ่นๆ ไปงั้นแหละ

อ่านเรื่องผีอีกเรื่อง อันนี้เป็นเรื่องของน้องชายซึ่งเป็นญาติกันมาเล่าให้อ่าน
น้องชายจะออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้ามืดทุกวัน เพราะกลัวรถติด
ตอนเช้ามืดเกือบทุกวันก็จะเจอ คนขับรถแท๊กซี่เดินออกมาจากซอยใกล้ๆ กัน
ก็จะคุ้นๆกันดีว่า เดินออกไปทำงานตอนเช้ามืดพร้อมๆ กันบ่อย

มีอยู่วันหนึ่งน้องชายก็ออกไปทำงานแต่เช้ามืดสลัวๆ เหมือนเดิม ก็เจอคนขับแท๊กซี่เหมือนเดิม
แต่ตอนเย็นที่กลับบ้านนีสิทำเอาน้องชายตกใจ เพราะว่าได้ทราบข่าวว่าคนขับแท๊กซี่ได้เสียชีวิตไปแล้ว
ตั้งแต่กลางดึกของคืนที่ผ่านมานั้น น้องชายตกใจแบบเมื่อเช้าออกไปทำงานยังเจออยู่เลย

ดิฉันคิดว่าคนที่เคยเห็นผี มีความโชคดีอย่างหนึ่ง คือ ได้รู้ว่านอกจากภพภูมิของคน และสัตว์แล้ว
ก็ยังมีภพภูมิอื่นอีกด้วย ดิฉันคิดเสมอว่าเป็นความโชคดีที่ลูกสาวทั้งสองได้เห็นผีผู้หญิง ผีเด็ก
เพราะว่าลูกสาวทั้งสองของดิฉันจะชอบทำบุญ และกลัวการทำบาป ทำให้สอนเรื่องอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ

การมีโอกาสได้เห็นผีกับตาของตัวเองนั้น มันดีซะยิ่งกว่าการได้ฟังเรื่องเล่าจากปากใครเสียอีก
ทำให้ได้พิสูจน์ได้รู้ได้เห็นด้วยตัวเองว่า นอกจากคนและสัตว์แล้ว ยังมีบุคคลในภพภูมิอื่นๆ อีกด้วย

--------------------------------------------------------

อีกภพภูมิหนึ่งที่น่าสงสาร คือ สัตว์เดรัจฉาน
ที่ใกล้ๆตัวพวกเราคือ หมา แมว นก กระรอก ห่าน เป็ด ไก่ ฯลฯ
สรรหากันมาเลี้ยง แต่ขาดความรับผิดชอบ พอไม่สวยแล้วเอาไปปล่อยก็มี
เมื่อก่อนถนนหลังบ้านจะมีสวนรกมาก มีคนเอาหมาแก่ตัวเนื้อเน่าหนังปูดมีหนองเป็นก้อนๆทั้งตัวมาทิ้งไว้

หมาตัวนี้เชื่องกับคนมาก ญาติก็เอายามารักษาทั้งทายาฉีดยา ผิวหมาก็แห้งขึ้นไม่แฉะเหมือนก่อน
พวกเราก็ช่วยกันเอาข้าวเอาน้ำให้กิน เพราะสงสาร ตอนหลังพอแข็งแรงก็เดินข้ามฟากไปอีกซอย
คราวนี้ใจแตกไม่กลับมาอยู่ริวรั้วเหมือนเดิมแล้ว ไปเจอคนเลี้ยงคนใหม่

ขันธ์ ๕ ของเราที่แบกไว้ก็หนักพอแรงแล้ว ยังต้องไปแบกขันธ์ ๕ ของสัตว์เดรัจฉานอีก
เราต้องทำทุกอย่างให้สัตว์หมดเลยนะ และตลอดชีวิตของสัตว์ตัวนั้นด้วย
หาหมามาเลี้ยง ก็ต้องเช็ดขี้หมา ฉี่หมา และอาบน้ำทำความสะอาดตัวหมาด้วย
หาอาหารให้กินตลอดชีวิต ดูแลสนใจให้ความรักแก่หมาตลอดไปด้วย
ยามเจ็บป่วยสามารถรักษาได้หรือไม่ การไปโรงพยาบาลสัตว์ คลีนิกสัตว์ แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องสบายๆ
เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้ไปหาหมอคน ค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งไม่ใช่ถูกๆ เลย

บางบ้านเลี้ยงหมาไซบีเรียนไว้ในกรง มีหลายกรงเรียงไป ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากคนติดคุก
กว่าเจ้าของจะกลับบ้าน หมาก็นั่งจ๋องกันในกรงรอเจ้าของกลับบ้าน
เจ้าของหมาคือโลกทั้งใบของหมา คุณมีเวลาให้ความรักแก่หมาหรือไม่
บางคนย้ายบ้านไม่เอาหมาไปด้วย เห็นแล้วสงสารหมา หมายังอยู่ที่เดิม

ขันธ์ ๕ ที่ตัวเองมีอยู่ยังแบกกันไม่เหนื่อยพอ ก็หาขันธ์ ๕ ของสัตว์มาแบกไว้อีก ก็แล้วแต่นะ
ก็ขอให้คิดถึงสัตว์ที่เลี้ยงให้มากๆ รับผิดชอบให้ดี อย่าให้เดือดร้อนแก่สังคมและสัตว์ที่เลี้ยงก็แล้วกันค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านค่ะ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ ดิฉันได้ไปบ้านคุณน้าผู้หญิงท่านหนึ่ง ท่านเป็นเพื่อนกับแม่ของดิฉัน
คุณน้าท่านจะชอบคุยกับดิฉัน ท่านมีปัญหาถามดิฉันว่า ท่านให้คนยืมเงินไป ปรากฏว่าคนที่ยืมเงินไปนั้นทั้ง ๒ คนตอนเอาเงินมาคืน ได้พูดเหมือนกันหมดเลยว่า ได้ยินเสียงคุณน้าเรียกอยู่หน้าบ้าน

ตอนที่คนยืมเงินเอาเงินมาคืน ได้บอกกับคุณน้าว่า ได้ยินเสียงคุณน้าเรียกชื่อของตนอยู่ที่หน้าบ้าน ก็คิดว่าคุณน้าแกไปเรียกทวงเงินที่ยืมไป ก็เอาเงินมาคืน ทั้ง ๒ คนได้ยินเสียงคุณน้าไปเรียกที่หน้าบ้านทั้งสองคน

คุณน้าก็บอกว่าคุณน้าไม่ได้ไปหาที่บ้าน ไม่ได้ไปเรียก แต่คนที่ยืมเงินทั้งสองคนบอกว่า ได้ยินเสียงคุณน้าชัดเจนที่หน้าบ้าน และยืนยันว่าเป็นเสียงคุณน้าเรียกดังชัดเจนด้วย

ยังไม่จบแค่นั้น ที่บ้านคุณน้า หลานสาวคุณน้าเข้าห้องน้ำอยู่ ก็ได้ยินเสียงคุณน้าเรียกชื่อหลานสาวที่อยู่ในห้องน้ำ พอหลานสาวออกมาจากห้องน้ำก็มาถามคุณน้าว่า คุณยายเรียกหนูทำไมคะ คุณน้าแกก็บอกว่า ยายไม่ได้เรียก หลานสาวแกก็บอกว่า หนูได้ยินเสียงคุณยายเรียกอยู่หน้าห้องน้ำชัดเจนเลยค่ะ

ดิฉันไปบ้านคุณน้า คุณน้าแกก็เล่าทั้งหมดนี้ให้ฟัง แล้วถามว่า ใครมาเรียก
ดิฉันก็ถามไปว่า คุณน้าอุทิศบุญกุศลมั้ยคะ คุณน้าบอกว่าแกอุทิศบุญกุศลทุกวัน
ดิฉันก็นึกได้ว่า เคยคุยกับอาจารย์ท่านหนึ่งแบบขำๆ ว่า อุทิศบุญให้บ่อยๆ ผีจะรัก

ดิฉันก็ตอบคุณน้าไป ตามความคิดเห็นส่วนตัวนะคะว่า สงสัยผีสางเทวดาคงอยากให้คุณน้ารู้มั้งคะว่า
ที่คุณน้าอุทิศบุญกุศลให้ทุกว้นนั้น พวกเขามีตัวตนอยู่จริง คงมาแสดงตัวแบบดีๆ ไม่ได้มีอะไรร้ายๆ

แล้วดิฉันก็คุยกันไปเรื่อยกับคุณน้า ส่วนใหญ่ก็เรื่องธรรมะ เล่าอะไรที่คุณน้าไม่เคยรู้ให้คุณน้าฟัง
คุณน้าชอบฟัง บางเรื่องก็บอกว่าท่านไม่เคยรู้มาก่อน

ระหว่างที่คุณกับคุณน้าผู้หญิง ส่วนคุณน้าผู้ชาย(สามี)ก็นอนเล่นอยู่ที่เตียงไม้หน้าบ้าน
ออกประตูบ้านไปจะเห็นศีรษะของแกอยู่ทิศเดียวกับประตู และหันหน้าออก ซึ่งออกประตูไปจะไม่สามารถเห็นหน้าของแก จึงไม่เห็นว่าแกหลับหรือไม่หลับ

ตอนกลับบ้านดิฉ้ันก็ถามว่าคุณน้าผู้หญิงว่า คุณน้าผู้ชายหลับหรือเปล่าเนี่ย
เพราะดิฉันจะได้สวัสดี ลากลับกับแก คุณน้าผู้หญิงก็บอกว่า แกคงไม่หลับหรอกมั้ง

ดิฉันก็เลยพูดกับคุณน้าผู้ชายว่า........น้าคะ หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
แล้วก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า.........จ้า สวัสดีจ้า
ส่วนคุณน้าผู้หญิงก็สวนขึ้นมาอีกเสียงพร้อมกับเสียงจ้านั้นว่า....ไหว้คนนอนหลับก็ได้ด้วย
แล้วคุณน้าผู้หญิงแกก็หัวเราะดิฉัน ...ดิฉันก็นึก เอาแล้วดิฉันน่าจะได้ยินคนเดียวซะละมั้ง
แล้วเสียงนั้นก็ไม่ใช่เสียงคุณน้าผู้ชายด้วยเพราะเสียงแกจะพูดเบาๆ เสียงไม่ใสแบบนั้นด้วย

คุณพระคุณเจ้า นั่นไม่ใช่เสียงคุณน้าผู้ชายแน่นอน เพราะเสียงที่ได้ยินว่า จ้าาาา สวัสดีจ้าาา นั้นเป็นเสียงของผู้ชายแก่ใจดี ลากเสียงจ้ายาวๆ เสียงตอบมาแบบเอ็นดูดิฉันชัดเจน เสียงดังฟังชัดน้ำเสียงบ่งบอกเหมือนคุ้นเคยกันเมตตากัน

วันนี้ดิฉันเจอคุณน้า ก็ถามคุณน้าไปว่า วันศุกร์ที่ดิฉันไหว้ลากลับคุณน้าผู้ชายนั้น
คุณน้าได้ยินเสียงคุณน้าผู้ชายตอบกลับดิฉันว่า จ้า สวัสดีจ้า หรือไม่
คุณน้าผู้หญิงบอกว่า ไม่ได้ยินแล้วยังบอกว่าคุณน้าผู้ชายหลับสนิท ไม่ได้พูดอะไร
แล้วดิฉันก็เล่าให้คุณน้าฟังทั้งหมดว่าได้ยินเสียงคุณน้าผู้ชายตอบกลับดิฉัน เสียงดังฟังชัดด้วยค่ะ


คุณผู้อ่านคิดว่า การที่มาเป็นเสียงแบบนี้ เจ้าของเสียงต้องการสื่ออะไรกับพวกเราคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าด้วยเรื่องลึกลับอีกสักเรื่อง

เมื่อเวลาตี ๔.๕๐ น.ของวันไหว้ครูของกิจกรรมนักศึกษา ภายในห้องของหอพัก นักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวไปจัดของไหว้งานไหว้ครูของคณะงิ้ว ซึึ่งนักศึกษาได้นัดเจอกันเวลาตี ๕ ตรง

นักศึกษาหญิงผู้นี้ได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ยินเสียงเพื่อนนักศึกษาอีกคนซึ่งอยู่หอเดียวกัน มาเรียกที่หน้าประตูห้องในหอพัก เธอก็ได้เปิดประตูออกไปคิดว่าเพื่อนมาตาม พอเปิดประตูออกไปแต่ก็ไม่มีใครสักคน เงียบสนิท

ดังนั้นเธอจึงได้โทรหาเพื่อนเจ้าของเสียงที่มาเรียกที่หน้าประตู โทรศัพท์ไปหาเพื่อนก็รอนานมาก กว่าเพื่อนจะรับสาย ปรากฏว่าเพื่อนเพิ่งตื่นตอนที่เธอโทรไปหา เพื่อนตกใจมากเพราะนอนหลับสนิทจนจะถึงเวลานัดกันทำกิจกรรมแล้ว จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวทันที

นักศึกษาหญิงคนที่โทรไปหาเพื่อนจึงรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยว่า เพื่อนคนนี้จะไปยืนเรียกชื่อของเธอที่หน้าห้อง
แล้วใครล่ะที่ไปเรียกชื่อเธอ ที่หน้าห้องในหอพัก

ก็คงเป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือนที่อยู่ในหอพักนั้นแหละค่ะ เห็นว่านักศึกษาอีกคนหลับสนิทไม่ตื่น
ก็เลยมาเคาะเรียกเพื่อนที่แต่งตัวเสร็จแล้ว ให้โทรปลุก........คหสต


--------------------------------------------------------

ยุคนี้นะคะ จะว่าไปคนฆ่าตัวตายเยอะมาก
ทำไมๆๆๆ คิดสิ ทำไมถึงได้ฆ่าตัวตายกันเป็นว่าเล่นแบบนี้

พิษภัยอะไรเกิดขึ้นในคนไทย ทำไมฆ่าตัวตายเยอะกันแบบนี้
มีตายกันทุกวัน ที่ไม่ออกข่าวนี้บอกได้เลยว่าเยอะมาก

วันก่อน ญาติของเพื่อนบ้าน ก็ยิงตัวตาย แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าว

แล้วโจรที่ออกจากคุก ก็กลับมาก่อคดีเดิมๆ แล้วก็วนเข้าคุกต่อ นี่ก็ใกล้จะปล่อยนักโทษมาอีกชุดนึงแล้ว
สงสัยกลัวตำรวจจะทำงานน้อยไปมั้ง เลยออกมาก่อคดีเพิ่มงาน เพิ่มความเดือดร้อนให้คนดีๆ ด้วย

ฮ้วย.... ประเทศชาติ สลัดผัก

ขอบ่นหน่อยเถอะ ไม่ไหว

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ม.ค. 2021, 08:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2015, 09:43
โพสต์: 751

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุนะครับ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2023, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1024


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 มิ.ย. 2025, 09:51 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2539

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร