วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 05:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 88 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2018, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โลกสวย เขียน:



และจากการที่คุณเช่นนั้นไร้การศึกษา ก็ตื้นเขิน ไม่รู้ว่า
นิพพาน เป็นธรรมะฝ่ายอัพยากตะ คือ รูป 28 และ นิพพาน 2

พระอภิธรรม เป็นปรมัตถธรรมสูงสุก เหนือพระวจนะ
เพราะปรมัตถธรรม ทำให้ เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้เป็น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ




นี่คือความรู้จาก อภิธรรมหัวตอ

นิพพาน 2
และ พระอภิธรรม เหนือพระวจนะ


นิพพาน เป็นอัพยากตธรรม
ซึ่ง ไม่เป็นเหตุ และไม่เป็นผล ไม่ใช่มรรค จึงไม่ใช่ปฏิปทา
ทำให้แจ้ง แต่พิจารณาไม่ได้
การพิจารณา พิจารณาซึ่งผลที่ได้
แม้การพิจารณาผลที่ได้ ก็เพียงหน่วงนิพพานเป็นอารมณ์
เรียนใหม่ รู้ใหม่นะครับ

ศึกษาใหม่ เรียนใหม่ให้ดีๆ
จะให้ดี ก็หาสถานศึกษาใหม่จะดีที่สุด



เวรกรรมๆๆๆๆ

คุณเช่นนั้นผุ้ทรงคุณวุฒิประเภทฉิบหายนะ
กล่าวทำความฉิบหายให้ตัวเอง ว่าพระอภิธรรมหัวตอ

คุณเช่นนั้น อย่าพยายามดิ้นอย่าพยายามแถไปเรยค่ะ ว่าพิจารณานิพพานไม่ได้

แล้วคุณก็แสดงความก็เขลาเบาปัญญาซ้ำซากอีก เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม

ไม่รู้ว่า การพิจารณานิพพาน นั้นมีสองลักษณะ
การพิจารณาโดยอนุมาน สำหรับผุ้ไม่ได้เป็นอริยะ
และโดยประจักข ซึ่งเป็นการพิจารณาของพระอริยะโสดาบันขึ้นไปค่ะ

แล้วก็เขลาซ้ำอีก ที่ไม่รู้จักนิพพาน 2

นี่ค่ะ หนูพาเอาคนที่เขียนนิพพาน 2 มาด้วย

คุณคงต้องไปเรียนใหม่แล้วหละค่ะ
หลังจากไปใช้กรรมในนรก ปรามาสพระอภิธรรม และพระรัตนตรัยค่ะ



พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)



[27] นิพพาน 2 (สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว, ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด เพราะไร้กิเลสไร้ทุกข์ เป็นอิสรภาพสมบูรณ์ - Nirvana; Nibbana)
1. สอุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานยังมีอุปาทิเหลือ - Nibbana with the substratum of life remaining)
2. อนุปาทิเสสนิพพาน (นิพพานไม่อุปาทิเหลือ - Nibbana without any substratum of life remaining)

หมายเหตุ: ตามคำอธิบายนัยหนึ่งว่า
1. = ดับกิเลส ยังมีเบญจขันธ์เหลือ ( = กิเลสปรินิพพาน - extinction of the defilements)
2. = ดับกิเลส ไม่มีเบญจขันธ์เหลือ ( = ขันธปรินิพพาน - extinction of the Aggregates)
หรือ
1. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ยังเสวยอารมณ์ที่น่าชอบใจและไม่น่าชอบใจทางอินทรีย์ 5 รับรู้สุขทุกข์อยู่
2. = นิพพานของพระอรหันต์ผู้ระงับการเสวยอารมณ์ทั้งปวงแล้ว

It.38. ขุ.อิติ. 25/222/258.

อีกนัยหนึ่งกล่าวถึงบุคคลว่า
1. สอุปาทิเสสบุคคล = พระเสขะ
2. อนุปาทิเสสบุคคล = พระอเสขะ

A.IV.379. องฺ.นวก. 23/216/394.


แก้ไขล่าสุดโดย โลกสวย เมื่อ 08 มิ.ย. 2018, 21:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2018, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว




พอเหอะค่ะ คุณเช่นนั้น

อย่าแสดงความเขลาเบาปัญญามากกว่านี้

ตำแหน่งผุ้ทรงคุณวุฒิประจำบอร์ดของคุณนี้นี้ ไม่ได้ด้วยความสามารถ ไม่ได้ด้วยเพราะศึกษาพระธรรม พระปริยัติ ไม่ได้ปฎิบัตจริงจัง

แต่ได้จากการโพสต์มาก


อย่าทำความฉิบหายให้ตัวเองอีกให้มากกว่านี้เรยนะคะ

หนูไม่สนทนาด้วยแล้วนะคะ เชิญไปนรกเรยค่ะ

เพราะคุณจะถึงความฉิบหายมากกว่านี้ จนยากจะถอนตัว ออกจากขุมนรกแล้วค่ะ





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:


พอเหอะค่ะ คุณเช่นนั้น

อย่าแสดงความเขลาเบาปัญญามากกว่านี้

ตำแหน่งผุ้ทรงคุณวุฒิประจำบอร์ดของคุณนี้นี้ ไม่ได้ด้วยความสามารถ ไม่ได้ด้วยเพราะศึกษาพระธรรม พระปริยัติ ไม่ได้ปฎิบัตจริงจัง

แต่ได้จากการโพสต์มาก


อย่าทำความฉิบหายให้ตัวเองอีกให้มากกว่านี้เรยนะคะ

หนูไม่สนทนาด้วยแล้วนะคะ เชิญไปนรกเรยค่ะ

เพราะคุณจะถึงความฉิบหายมากกว่านี้ จนยากจะถอนตัว ออกจากขุมนรกแล้วค่ะ




อย่าเรียนอภิธรรมหัวตอ
กลับไปศึกษาใหม่ ให้ดีกว่านี้
ย้ำ
ไม่มีการพิจารณานิพพาน
แม้ในโคตรภู มรรค ผล ก็ไม่มีการพิจารณานิพพาน

พระพุทธองค์ แสดง ไว้ สาม สมบูรณ์แล้ว
อย่าอวดรู้ด้วยอภิธรรมหัวตอ เกินปัญญาพระศาสดาเลย

Quote Tipitaka:
ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมภายในบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งภายในทั้ง
ภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในธรรมบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือ
ความเสื่อมในธรรมบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในธรรมบ้าง ย่อมอยู่
อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า ธรรมมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นธรรมในธรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า
"พิจารณาเห็นธรรม ในธรรม ที่มิใช่ภายใน และมิใช่ภายนอก อยู่เนืองๆ"

คือ การพิจารณา นิพพาน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 09 มิ.ย. 2018, 02:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 02:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิพพาน คือนิพพาน ไม่มี 2
แต่บรรลุนิพพาน แล้วยังไม่ตาย เพราะวิบากแห่งขันธ์ยังมีอยู่ กับสิ้นวิบากแห่งขันธ์
เข้าใจใหม่นะครับ ..

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 02:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
นิพพาน คือนิพพาน ไม่มี 2
แต่บรรลุนิพพาน แล้วยังไม่ตาย เพราะวิบากแห่งขันธ์ยังมีอยู่ กับสิ้นวิบากแห่งขันธ์
เข้าใจใหม่นะครับ ..



บอกแล้วให้คุณพอได้แล้ว
คุณลงนรกได้สุดกู่แล้วหละค่ะ
คุณเช่นนั้นคะ คุณยิ่งพูดยิ่งหน้าแตกหมอไม่รับเย็บแล้วค่ะ


คุณเช่นนั้น คุณเป็นผู้ทรงคุณวุฒิมากกว่าพระธรรมปิฎก ซะแล้ว

หนูขอดูหลักฐานดีกรีตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิคุณหน่อยได้มั๊ย ว่าแน่นกว่าพระธรรมปิฎกท่าน


คุณเช่นนั้น ก็ไปบอกพระธรรมปิฎกท่านด้วยนะคะ
ว่านิพพานที่ท่านเขียนลงพจนานุกรมนั้น ไม่มีนิพพาน 2




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 02:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โลกสวย เขียน:


พอเหอะค่ะ คุณเช่นนั้น

อย่าแสดงความเขลาเบาปัญญามากกว่านี้

ตำแหน่งผุ้ทรงคุณวุฒิประจำบอร์ดของคุณนี้นี้ ไม่ได้ด้วยความสามารถ ไม่ได้ด้วยเพราะศึกษาพระธรรม พระปริยัติ ไม่ได้ปฎิบัตจริงจัง

แต่ได้จากการโพสต์มาก


อย่าทำความฉิบหายให้ตัวเองอีกให้มากกว่านี้เรยนะคะ

หนูไม่สนทนาด้วยแล้วนะคะ เชิญไปนรกเรยค่ะ

เพราะคุณจะถึงความฉิบหายมากกว่านี้ จนยากจะถอนตัว ออกจากขุมนรกแล้วค่ะ




อย่าเรียนอภิธรรมหัวตอ
กลับไปศึกษาใหม่ ให้ดีกว่านี้
ย้ำ
ไม่มีการพิจารณานิพพาน
แม้ในโคตรภู มรรค ผล ก็ไม่มีการพิจารณานิพพาน

พระพุทธองค์ แสดง ไว้ สาม สมบูรณ์แล้ว
อย่าอวดรู้ด้วยอภิธรรมหัวตอ เกินปัญญาพระศาสดาเลย

Quote Tipitaka:
ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมภายในบ้าง
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งภายในทั้ง
ภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือความเกิดขึ้นในธรรมบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือ
ความเสื่อมในธรรมบ้าง พิจารณาเห็นธรรมคือทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมในธรรมบ้าง ย่อมอยู่
อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า ธรรมมีอยู่ ก็เพียงสักว่าความรู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฐิไม่อาศัยอยู่แล้ว และไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นธรรมในธรรม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า
"พิจารณาเห็นธรรม ในธรรม ที่มิใช่ภายใน และมิใช่ภายนอก อยู่เนืองๆ"

คือ การพิจารณา นิพพาน



นอกจากคุณเช่นนั้นจะไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมมาแล้ว

คุณยังตื้นเขินเกินกว่าที่หนูจะสนทนาด้วยค่ะ

แถมคุณยังปรามาสพระอภิธรรม ว่า "พระอภิธรรมหัวตอ"

หนูขอแนะนำนะคะ คุณเช่นนั้น

ให้คุณเช่นนั้น ไปศึกษาพระปริยัติธรรม พระอภิธรรม ให้ดีเสียก่อน

และแนะนำอีกข้อนะคะ ให้ไปลองถามพระเตปิฎกาจาย์
ท่านที่ถวายความรู้เรื่องพระไตรปิฎก แก่สมเด็จพระพี่นางนะคะ


คุณเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประจำบอร์ดธรรมะนี้
คงไม่ยากหรอกนะคะ ที่จะไปถาม และคงรู้รู้ว่าเป็นท่านไหน
ถ้าไม่รู้ ก็อาจไปถามลุงหมานได้นะคะ

จะได้แนะนำพระเตปิฎกอาจารย์ท่านนั้นให้จะได้หายเคลือบแคลง

เพราะคุณไม่มีความแตกฉานเรย แม้แต่นิดเดียวค่ะ
อย่าอายค่ะ ที่จะไปหาความรู้ จากท่านที่หนุแนะนำให้นะคะ

บ๊ายบายค่ะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 02:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ปิดกระทู้แระค่ะ

ไม่สนทนาด้วยแล้วค่ะ

เพราะจะมีคนลงนรกจากการปรามาส พระอภิธรรม ว่า พระอภิธรรมหัวตอ ค่ะ

เดียวจะลงนรกขุมลึกๆๆๆลงไปด้วย อาจิณอกุศลกรรมซ้ำซากค่ะ


หนูไปเที่ยวก่อนนะคะ
ไม่ได้เข้ามา

บ๊ายบาย ค่ะ

อย่าลืมนะคะ หนูแนะนำให้หัดเรียนพระปริยัติธรรมกันด้วย จะได้แตกฉาน ไม่มาเถียงข้างๆคูๆ
แล้วปรามาสพระธรรม พาตัวเองฉิบหายลงนรกค่ะ





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 05:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ม่ายรู้ใครจะไปนรกก่อน...ระหว่าง..คนอวยพรที่พูดคำก็เสียดสีคำ..คนที่ยกคำใครก็ไม่รู้ว่าเหนือกว่าคำพระพุทธเจ้า...คนที่ยกความคิดตนว่าเจ่งกว่าพระธรรมคำสอนที่พระองค์ได้สอนสั่ง....

:b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 06:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




20180609_052553.jpg
20180609_052553.jpg [ 200.26 KiB | เปิดดู 3173 ครั้ง ]
ทำยังไงถึงจะชนะใจเองให้ได้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 06:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
ทำยังไงถึงจะชนะใจเองให้ได้


ต้องฉลาด...ก่อนละครับ....ฉลาดรู้....รู้อะไรดี....อะไรไม่ดี..

รู้แล้วก็ฝึก...ฝึกละไม่ดี...ฝึกเจริญดี

ึฝึกจนให้ถึงความไม่ต้องฝึก..ให้ถึงความเป็นไปเอง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 07:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




Image-8927.jpg
Image-8927.jpg [ 210.31 KiB | เปิดดู 3165 ครั้ง ]
น่าเป็นห่วงนะว่าที่ เราคิด เราพูด เราทำ อยู่นี่ขณะนี้
มันเป็นกำลังสร้างกำลังทำ ภพ ชาติ ใหม่ให้เกิดขึ้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 08:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่ครับ....น่าเป็นห่วง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปรุงแต่งเป็นก็เป็นบุญ (ปุญญาภิสังขาร) ปรุงแต่งไม่เป็นก็เป็นบาป (อปุญญาภิสังขาร)

viewtopic.php?f=1&t=47940


ความคิดปรุงแต่ง กับ ความคิดวิปัสสนา

viewtopic.php?f=1&t=47890

คนเรามันต้องคิด แต่คิดให้เป็น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเป็นเจ้าแห่งจิต เป็นนายของความคิด

“บุคคลผู้เป็นมหาบุรุษ มีปัญญายิ่งใหญ่นั้น ประสงค์จะตริตรึกความคิดใด ก็ตริตรึกความคิดนั้น
ไม่ประสงค์จะตริตรึกความคิดใด ก็ไม่ตริตรึกความคิดนั้น
ประสงค์จะดำริข้อดำริใด ก็ดำริข้อดำรินั้น ไม่ประสงค์จะดำริข้อดำริใด ก็ไม่ดำริข้อดำรินั้น
ท่านบรรลุภาวะมีอำนาจเหนือจิต (เจโตวิสี) ในกระบวนความคิดทั้งหลาย” (องฺ.จตุกฺก.21/35/46)

(บาลีที่มานี้ หมายถึงพระพุทธเจ้า ในฐานะทรงเป็นมหาบุรุษ แต่หลักฐานอื่นๆ แสดงว่า คุณสมบัตินี้มีแก่พระขีณาสพทั่วไป)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2018, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คาถาจากธรรมบทเกี่ยวกับความคิดจิตใจ

อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส - สทฺธมฺมํ อวิชานโต
ปริปฺลวปสาทสฺส – ปญฺญา น ปริปูรติ.


ปัญญาย่อมไม่บริบูรณ์แก่ผู้มีจิตไม่มั่นคง ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม มีความเลื่อมใสอันเลื่อนลอย.


ผนฺทนํ จปลํ จิตฺตํ - ทุรกฺขํ ทุนฺนิวารยํ
อุชุํ กโรติ เมธาวี - อุสุกาโรว เตชนํ
วาริโชว ถเล ขิตโต - โอกโมกตอุพฺภโต
ปริผนฺทติทํ จิตฺตํ - มารเธยฺยํ ปหาตเว.


จิตเป็นธรรมชาติดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามได้ยาก
นักปราชญ์ ย่อมกระทำจิตให้ตรง เหมือนช่างศรดัดลูกศรให้ตรง ฉะนั้น
จิตนี้อันโยคาวจรยกขึ้นยกขึ้นจากอาลัยคือกามคุณ ๕ ซัดไปในวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อละบ่วงมาร ย่อมดิ้นรน เปรียบเหมือนปลาที่ถูกจับขึ้นจากที่อยู่คือน้ำ โยนไปบนบก ดิ้นรนอยู่ ฉะนั้น.


ทูรงฺคมํ เอกจรํ - อสรีรํ คุหาสยํ
เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ - โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา.

ชนเหล่าใด จักสำรวมจิต อันไปในที่ไกล เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำคือกายนี้เป็นที่อาศัย ชนเหล่านั้น จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร.


ทุนฺนิคฺคหสฺส ลหุโน - ยตฺถ กามนิปาติโน
จิตฺตสฺส สมโถ สาธุ - จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ.


การฝึกจิตอันข่มได้ยาก เป็นธรรมชาติเร็ว มักตกไปในอารมณ์ความใคร่ เป็นการดี
จิตที่ฝึกดีแล้ว เป็นเหตุนำความสุขมาให้.


สุทุทฺทสํ สุนิปุณํ - ยตฺถกามนิปาตินํ
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี - จิตฺตํ คุตฺตํ สุขาวหํ.


บุคคลผู้มีปัญญา พึงรักษาจิต ที่เห็นได้ยากแสนยาก ละเอียดยิ่งนัก มักตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ จิตที่คุ้มครองไว้ได้แล้ว เป็นเหตุนำความสุขมาให้.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 88 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร