วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 20:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2018, 00:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
เคยได้ยินไหมคะ
รู้อะไร...ไม่สู้...รู้วิชชา(วิชชาคือปัญญา)
รู้รักษา...ตัวรอด...เป็นยอดดี
ไม่มีใครช่วยใครได้
ฟังพระพุทธพจน์
แบบพุทธกาล
คือทางเอก
ทางเดียว
คือเริ่มที่สุตมยปัญญาคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชชาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้
แต่กิเลสเกิดตามคิดเอาเองตลอดเวลา
ทำอะไรได้ไหมแค่กะพริบตาไม่ทัน
ทุกอย่างที่ตนมีแล้วควรเริ่มฟังน๊า
เพราะคำตถาคตไม่เหมือนใคร
:b8: :b8: :b8:
https://youtu.be/2yjKRKdP1IA


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2018, 04:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้อ...ศิษย์บริหารสุวรรณเขตนี่เอง เริ่มหนุกหนานแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2018, 05:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้อ...ศิษย์บริหารสุวรรณเขตนี่เอง เริ่มหนุกหนานแล้ว

cool
ศิษย์ตัวบุคคลหรือคะไม่มีนี่คะ...เราบอกว่าเราฟังคำตถาคตจากดูคลิป
แล้วก็เข้าใจคำจริงของตถาคตมาตามลำดับและอธิบายต่อให้เข้าใจได้
ถ้าจะถามใครเป็นอาจารย์ก็ฟังพระพุทธพจน์ก็ต้องเป็นศิษย์ใครล่ะคะ
สาระจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องฟังเข้าใจถูกตรงขณะ
เมื่อเข้าใจถูกแต่ละขณะก็จะรู้และเข้าใจถึงการสะสมเหตุปัจจัยที่ตนมี
ไม่ใช่การคิดเองแต่เป็นการคิดถูกเข้าใจถูกตามทีละน้อยแต่บ่อยๆค่ะ
เพราะปัญญาเกิดได้ตามลำดับและต้องเริ่มที่ฟังทุกครั้งเพื่อละไม่รู้
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 08:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
rolleyes
เคยได้ยินไหมคะ
รู้อะไร...ไม่สู้...รู้วิชชา(วิชชาคือปัญญา)
รู้รักษา...ตัวรอด...เป็นยอดดี
ไม่มีใครช่วยใครได้
ฟังพระพุทธพจน์
แบบพุทธกาล
คือทางเอก
ทางเดียว
คือเริ่มที่สุตมยปัญญาคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชชาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้
แต่กิเลสเกิดตามคิดเอาเองตลอดเวลา
ทำอะไรได้ไหมแค่กะพริบตาไม่ทัน
ทุกอย่างที่ตนมีแล้วควรเริ่มฟังน๊า
เพราะคำตถาคตไม่เหมือนใคร
:b8: :b8: :b8:
https://youtu.be/2yjKRKdP1IA


ฟัง..ฟัง...ไป..ก็ยังดี..ได้ไปสวรรค์..

หากเห็นแต่.....ไม่มีอะไรเลย....ไม่มีอะไรเลย..บ่อยๆ..อาจฟลุ๊ค..ไปเป็นพรหมลูกฟัก..ซะ.เลย

:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 09:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้อะไรไม่สู้...รู้วิชชา รู้รักษาตัวรอด..เป็นยอดดี..
ตัว...ก็คือเรานี้แหละ...จะใครที่ไหน

คำพระสอน...

"เมื่อฟังข่าวไม่ดีทางโลก แล้วรู้สึกร้อนอกร้อนใจ ให้พยายามข่มระงับด้วยอานาปานัสสติกรรมฐาน แล้วใช้ปัญญาพิจารณาอารมณ์ของจิตว่า ถ้าหากร้อนรนอย่างนี้เป็นของไม่ดีแน่ ให้พยายามรักษาความเยือกเย็นของจิตเข้าไว้ ให้เร่งแก้ไขจิตใจของตนเอง ตรวจสอบสภาพจิตใจของตนเองตามความเป็นจริง อย่าได้มีความละเลย ถ้าหากต้องการความละเอียดของจิตใจ จักต้องหมั่นตรวจสอบจิตใจของตนเองเข้าไว้เป็นประจำ จักได้ปรับจิต - ปรับใจ ให้อยู่ในศีล - สมาธิ - ปัญญา ได้เป็นปกติ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
รู้อะไรไม่สู้...รู้วิชชา รู้รักษาตัวรอด..เป็นยอดดี..
ตัว...ก็คือเรานี้แหละ...จะใครที่ไหน"[/b]


คำว่า "รู้วิชชา" แล้วอะไรมันตัวไปรู้มัน ?
เพราะวิชชาเป็นตัวถูกรู้ซะแล้ว

รู้มันแล้วจะรักษาตัวรอดยังไง?

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 12:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

ใช่แล้วครับ...

ลำพังวิธีหุ่งข้าว...ไม่ได้ทำให้ข้าวสุกได้
มีคนเอาไปใช้หุ่งข้าว...จึงจะได้ข้าวสุกใว้ทาน..กัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

ใช่แล้วครับ...

ลำพังวิธีหุ่งข้าว...ไม่ได้ทำให้ข้าวสุกได้
มีคนเอาไปใช้หุ่งข้าว...จึงจะได้ข้าวสุกใว้ทาน..กัน


ใช่...สำนวนนี้เห็นมานานแล้ว

แต่เอามาใช้ผิดที่ผิดทาง...ไม่ได้ดูว่ามันผิดความจริง
ก็ยังอุตส่าห์ทนใช้ที้งๆที่มันผิด ในตอนนี้ก็น่าจะรวมเจ้าของกระทู้ด้วย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
เคยได้ยินไหมคะ
รู้อะไร...ไม่สู้...รู้วิชชา(วิชชาคือปัญญา)
รู้รักษา...ตัวรอด...เป็นยอดดี
ไม่มีใครช่วยใครได้
ฟังพระพุทธพจน์
แบบพุทธกาล
คือทางเอก
ทางเดียว
คือเริ่มที่สุตมยปัญญาคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชชาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้
แต่กิเลสเกิดตามคิดเอาเองตลอดเวลา
ทำอะไรได้ไหมแค่กะพริบตาไม่ทัน
ทุกอย่างที่ตนมีแล้วควรเริ่มฟังน๊า
เพราะคำตถาคตไม่เหมือนใคร
:b8: :b8: :b8:
https://youtu.be/2yjKRKdP1IA


ฟัง..ฟัง...ไป..ก็ยังดี..ได้ไปสวรรค์..

หากเห็นแต่.....ไม่มีอะไรเลย....ไม่มีอะไรเลย..บ่อยๆ..อาจฟลุ๊ค..ไปเป็นพรหมลูกฟัก..ซะ.เลย

:b12: :b12: :b12:

cool
คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นวิชชาคือปัญญารู้ชัดถึงความจริงที่กำลังมี
การฟังเป็นการละไม่รู้ขณะกำลังฟังโดยไม่มีตัวตนเข้าไปจัดการทำอะไร
ฟังเพื่อเข้าใจไม่ใช่ฟังไปสงสัยไปเพราะตอนกำลังเข้าใจนั้นที่สังขารขันธ์ปรุง
แต่งจิตให้เกิดโสภณเจตสิกดับโดยความเป็นอนัตตาตามเหตุตามปัจจัยที่ยังไม่ดับ
วิชาการทางโลกเป็นการเรียนเพื่อเอาเพิ่มเพื่อจดจำมากๆแล้วเอามาใช้หาเงินใช่ป่าว
แต่วิชชาของพระพุทธเจ้าเพื่อละไม่รู้ทีละน้อยค่อยๆเพิ่มความรอบรู้ทีละคำจนมากขึ้น
จนกว่าจะปัญญาตนเพิ่มและเข้าถึงความจริงบรรลุตามคือคิดตามจริงๆไม่ใช่บรรลุเองได้
วาจาสัจจะคือคำจริงของตถาคตต้องกำลังรู้ว่ากำลังมีที่กายใจตนและต้องใช้หูฟังใช้ตาดูเทียบคำสอน
ไม่ใช่ท่องจำคำได้แล้วจดจำคำได้แต่เป็นการทิ้งทุกอย่างที่เคยคิดพูดทำมาเพื่อฟังความจริงที่ตนกำลังมี
ทุกวิชาการทางโลกเป็นเดรัจฉานวิชาเพราะวิชชาคือปัญญาเพื่อเข้าใจสัจจธรรมรู้แล้วละตัวตนจนหลุดพ้น
:b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
รู้อะไรไม่สู้...รู้วิชชา รู้รักษาตัวรอด..เป็นยอดดี..
ตัว...ก็คือเรานี้แหละ...จะใครที่ไหน"[/b]


คำว่า "รู้วิชชา" แล้วอะไรมันตัวไปรู้มัน ?
เพราะวิชชาเป็นตัวถูกรู้ซะแล้ว

รู้มันแล้วจะรักษาตัวรอดยังไง?

รู้เพื่อละไม่รู้จนกว่าจะประจักษ์ความจริงที่กำลังปรากฏว่ามี
ชีวิตนี้ทั้งชีวิตเคยคิดตามเป็นไหมคะถ้าไม่คือปัญญาไม่มี
เดี๋ยวนี้เลยนะคะสิางที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่ถูกเห็นและไม่ใช่สิ่งที่คิด
แต่กำลังมีสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตรงปัจจุบันขณะกำลังมี
รู้อดีตไม่ได้คือยึดสัญญาไงมันผิดทางน๊าและรู็อนาคตไม่ได้
เพราที่กำลังคิดตามไม่ตรงคำที่เปิดเผสความจริงที่ตัวน่ะคือ
รู้อนาคตไม่ได้เพราะแค่กะพริบตาดับครบทุกทางอายตนะแล้ว
ลืมไหมคะ...อิอิ...ลืมว่าคิดตามสัญญาเดิมไงคะไม่จำว่าต้องคิดตามตรงสัจจะทีละคำตามปกติค่ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 12:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

ใช่แล้วครับ...

ลำพังวิธีหุ่งข้าว...ไม่ได้ทำให้ข้าวสุกได้
มีคนเอาไปใช้หุ่งข้าว...จึงจะได้ข้าวสุกใว้ทาน..กัน


ใช่...สำนวนนี้เห็นมานานแล้ว

แต่เอามาใช้ผิดที่ผิดทาง...ไม่ได้ดูว่ามันผิดความจริง
ก็ยังอุตส่าห์ทนใช้ที้งๆที่มันผิด ในตอนนี้ก็น่าจะรวมเจ้าของกระทู้ด้วย

Kiss
ต้องกำลังคิดตามและใช้ตาดูความจริง
เคยเห็นการรับเงินของผู้บวชไหมล่ะคะ
กำลังเห็นผิดว่ามีคนรับเงินไงคะแค่เห็น/ไม่มี
เห็นภาพลาภสักการะที่เป็นบุญเก่าของผู้บวชนะคะ
อนุโมทนาในอกุศลที่เขารับเงินไหมคะน่านแหละตนไม่รู้
ตถาคตมีสิกขาบทห้ามรับเงินทองและรูปิยะ(สิ่งแทนเงินเช่นเช็คก็ไม่ได้)
เห็นอกุศลกรรมใหม่ที่ผู้บวชทำคือรับเงินคือการปิดกั้นมรรคผลนิพพานไหมคะ
โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาปที่เคยทำมาและเป็นที่ที่ทำกรรมใหม่ด้วยความไม่รู้
ทุกภพภูมิทำไปจากภพภูมิมนุษย์นะคะประมาทการฟังแปลว่าชาตินั้นไม่มีปัญญาเกิดเพิ่มจริงๆค่ะ
:b12: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
rolleyes
เคยได้ยินไหมคะ
รู้อะไร...ไม่สู้...รู้วิชชา(วิชชาคือปัญญา)
รู้รักษา...ตัวรอด...เป็นยอดดี
ไม่มีใครช่วยใครได้
ฟังพระพุทธพจน์
แบบพุทธกาล
คือทางเอก
ทางเดียว
คือเริ่มที่สุตมยปัญญาคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชชาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้
แต่กิเลสเกิดตามคิดเอาเองตลอดเวลา
ทำอะไรได้ไหมแค่กะพริบตาไม่ทัน
ทุกอย่างที่ตนมีแล้วควรเริ่มฟังน๊า
เพราะคำตถาคตไม่เหมือนใคร
:b8: :b8: :b8:
https://youtu.be/2yjKRKdP1IA


เขาเรียกว่าลูกผสม อิอิ

"รู้อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"

เป็นสุภาษิตนี่

http://word108.blogspot.com/2014/10/blog-post_7.html

คุณโรสเอาไปโยงกับวิชชาคือปัญญาเอาชนะกิเลสไปโน่น กลายเป็นหัวมังกุฏท้ายมังกือไป :b32:

จะกี่ คคห. ๆ ก็ฟังคำตถาคต ฟังคำตถาคตๆๆ นึกถึงเพลงนี้เลย https://www.youtube.com/watch?v=-mh-a10rPmo

คุณโรสว่า ตถาคตคือใครอ่ะ ไหนตอบให้กรัชกายตายตาหลับถี่ เอา ตถาคตคือใคร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 15:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญามีหลายระดับ ที่ท่านแบ่งไว้ก็มีโลกียปัญญา โลกุตรปัญญา

ปัญญา * แปลกันว่า ความรอบรู้ เติมเข้าอีกว่า ความรู้ทั่ว ความรู้ชัด คือ รู้ทั่วถึงความจริงหรือรู้ตรงตามความเป็นจริง
ท่านอธิบายขยายความกันออกไปต่างๆ เช่นว่า รู้เหตุรู้ผล รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้ควรไม่ควร รู้คุณรู้โทษ รู้ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ รู้เท่าทันสังขาร รู้องค์ประกอบ รู้เหตุปัจจัย รู้ที่ไปที่มา รู้ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งทั้งหลาย รู้ตามความเป็นจริง รู้ถ่องแท้ เข้าใจถ่องแท้ รู้เข้าใจสภาวะ รู้คิด รู้พินิจพิจารณา รู้วินิจฉัย รู้ที่จะจัดแจงจัดการหรือดำเนินการอย่างไรๆ

แปลกันอย่างง่ายๆ พื้นๆ ปัญญา คือความเข้าใจ (หมายถึงเข้าใจถูก เข้าใจชัด หรือเข้าใจถ่องแท้) ]เป็นการมองทะลุสภาวะหรือมองทะลุปัญหา
ปัญญาช่วยเสริมสัญญาและวิญญาณ ช่วยขยายขอบเขตของวิญญาณให้กว้างขวางออกไปและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่องทางให้สัญญามีสิ่งกำหนดหมายรวมเก็บได้มากขึ้น เพราะเมื่อเข้าใจเพียงใด ก็รับรู้และกำหนดหมายในวิสัยแห่งความเข้าใจเพียงนั้น เหมือนคิดโจทย์เลขคณิตข้อหนึ่ง เมื่อยังคิดไม่ออก ก็ไม่มีอะไรให้รับรู้และกำหนดหมายต่อไปได้ ต่อเมื่อเข้าใจ คิดแก้ปัญหาได้แล้ว ก็มีเรื่องให้รับรู้ และกำหนดหมายต่อไปอีก


* ปัญญา มักแปลกันว่า wisdom หรือ understanding

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้อะไรไม่สู้
รู้อวิชชา.......... rolleyes rolleyes rolleyes

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2018, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
เคยได้ยินไหมคะ
รู้อะไร...ไม่สู้...รู้วิชชา(วิชชาคือปัญญา)
รู้รักษา...ตัวรอด...เป็นยอดดี
ไม่มีใครช่วยใครได้
ฟังพระพุทธพจน์
แบบพุทธกาล
คือทางเอก
ทางเดียว
คือเริ่มที่สุตมยปัญญาคือรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชชาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้
แต่กิเลสเกิดตามคิดเอาเองตลอดเวลา
ทำอะไรได้ไหมแค่กะพริบตาไม่ทัน
ทุกอย่างที่ตนมีแล้วควรเริ่มฟังน๊า
เพราะคำตถาคตไม่เหมือนใคร
:b8: :b8: :b8:
https://youtu.be/2yjKRKdP1IA


เขาเรียกว่าลูกผสม อิอิ

"รู้อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"

เป็นสุภาษิตนี่

http://word108.blogspot.com/2014/10/blog-post_7.html

คุณโรสเอาไปโยงกับวิชชาคือปัญญาเอาชนะกิเลสไปโน่น กลายเป็นหัวมังกุฏท้ายมังกือไป :b32:

จะกี่ คคห. ๆ ก็ฟังคำตถาคต ฟังคำตถาคตๆๆ นึกถึงเพลงนี้เลย https://www.youtube.com/watch?v=-mh-a10rPmo

คุณโรสว่า ตถาคตคือใครอ่ะ ไหนตอบให้กรัชกายตายตาหลับถี่ เอา ตถาคตคือใคร

Kiss
:b32:
ตายละ...ศึกษาคำสอนมานานนม...
ไม่รู้จักตถาคตซะแล้ว...ก็แหงๆเลยล่ะ...
เพราะไม่รู้ว่าไม่รู้และไม่รู้ว่าตอนไหนเป็นปัญญา
คำสอนของตถาคตเป็นความจริงตรงขณะทุกคำ
ทำไปเทอะไปนั่งหลับหาความจริงจ้างก็ไม่เจอ555
เพราะความจริงต้องลืมตาดูตื่นรู้นืะค่ะทำไงรู้ไหมล่ะคะ
เฉลยให้ทราบเลยละกันค่ะ...ลืมตาตื่นรู้ตอนคิดตามตรงขณะ
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 25 มิ.ย. 2018, 20:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร