วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 16:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 239 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2018, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ครม.ยกเลิก ครม.สัญจรเชียงราย หวั่นถูกวิจารณ์เกาะกระแส เปลี่ยนเป็นน่านแทน

รูปภาพ


https://www.matichon.co.th/politics/news_1027474

เพียงค้นหาเจอะว่าอยู่ครบทั้ง 13 ชีวิต ยังอยู่ตรงนั้น ยังไม่ได้พาออกมานอกถ้ำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2018, 11:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2018, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา



ไม่ตอบ มัวแต่ไปฟุ้งซ่านอยู่โน่น :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 09:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


ซึ่งถูกคัดสรรมาให้เป็นมือเป็นตีนของคณะปฏิวัติ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้อนหลังไปอีกก็ทำนองเดียวกัน

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ประกอบการ ประเทศอีหร่าน ผู้ซื้อยางพารารายใหญ่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าไทยปลูกยางและแปรรูปยาง เพราะซื้อจากตัวแทนในมาเลเซียและสิงคโปร์

รูปภาพ


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater

บ่งบอกว่า คณะ รบ.ไม่เอาอ่าว ค้าขายไม่เป็น

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5BE9AAAD

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา



ไม่ตอบ มัวแต่ไปฟุ้งซ่านอยู่โน่น :b32:

:b32:
กะพริบตาแล้วนี่...กิเลสไม่ถลอก...จะให้ว่าไงล่ะคะ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

กะพริบตาแล้วนี่...กิเลสไม่ถลอก...จะให้ว่าไงล่ะคะ



ถ้ายังงั้นเปลี่ยนวิธีใหม่เถอะ แบบๆว่าหลับตาแล้วยึดลมหายใจเข้า กับ ลมหายใจออกนะ ลมเข้าว่าในใจ ธัม หายใจออก โม ธัม - โม ธัม - โมไป หรือจะใช้แบบ ลมเข้าว่าในใจ สัง ลมออก โฆ สัง-โฆๆๆไป

หรือ จะเอาแบบลมหายใจเข้าว่าในใจ พุท ลมออกว่าในใจ โธ พุท-โธ ๆๆไป ไม่ก่อนไม่หลังกับลมเข้าออก ว่าให้พอดีๆกัน

หรือ จะเอายังงี้ เอาอาการท้องพอ กับ อาการท้องยุบ เป็นที่ทำงานของจิตที่มีชื่อเฉพาะว่า กัมมัฏฐาน กรรมฐาน แปลว่า ที่ทำงานของจิต จำไว้ กรรมฐาน คือที่ทำงานของจิต หรือที่ให้จิตมันทำงาน

ท้องพองว่าในใจ พองหนอ ท้องยุบว่าในใจ ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอไป

ทำไปสัก 3 เดือนแล้วมาคุยกันใหม่ โอเคไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไหลมารวมกันอีกแระ

'อภิสิทธิ์' อวยพรวันเกิดปีที่ 70 'สุเทพ' พร้อมขอให้ทำดีเพื่อบ้านเมือง

https://www.thairath.co.th/content/1329419

คนพวกนี้นี่ เขารักชาติรักบ้านเมืองกันจริงๆ รักกว่าใครอื่นหมดเลย :b20: สังเกตได้ที่น้ำลาย

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2018, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รถไฟฟ้าขัดข้องหลายวัน ผู้บริหารบีทีเอสเผย อย่าโทษบีทีเอสอย่างเดียว หากตัวเองย้อนกลับไปได้ คงไม่ลงทุนบีทีเอส ที่ผ่านมารู้แล้วว่า ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์

https://twitter.com/Thairath_TV/status/ ... 6723945472

นี่ก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2018, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตบรางวัล? : กรณีรัฐปรับเงินเดือนย้อนหลังให้แก่ข้าราชการศาลและองค์กรอิสระ

มองอย่างไรคือการตอบแทนที่ให้ความร่วมมือ..ด้วยเงินภาษีของประชาชน

https://www.prachachat.net/wp-content/u ... 24x768.jpg

http://nanasara.org/forum/showthread.php?tid=9623

ตอบแทนย้อนหลังไปเมื่อคสช.ปฏิวัติ ขอบคุณที่ร่วมกันทดแทนคุณแผ่นดิน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2018, 23:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

กะพริบตาแล้วนี่...กิเลสไม่ถลอก...จะให้ว่าไงล่ะคะ



ถ้ายังงั้นเปลี่ยนวิธีใหม่เถอะ แบบๆว่าหลับตาแล้วยึดลมหายใจเข้า กับ ลมหายใจออกนะ ลมเข้าว่าในใจ ธัม หายใจออก โม ธัม - โม ธัม - โมไป หรือจะใช้แบบ ลมเข้าว่าในใจ สัง ลมออก โฆ สัง-โฆๆๆไป

หรือ จะเอาแบบลมหายใจเข้าว่าในใจ พุท ลมออกว่าในใจ โธ พุท-โธ ๆๆไป ไม่ก่อนไม่หลังกับลมเข้าออก ว่าให้พอดีๆกัน

หรือ จะเอายังงี้ เอาอาการท้องพอ กับ อาการท้องยุบ เป็นที่ทำงานของจิตที่มีชื่อเฉพาะว่า กัมมัฏฐาน กรรมฐาน แปลว่า ที่ทำงานของจิต จำไว้ กรรมฐาน คือที่ทำงานของจิต หรือที่ให้จิตมันทำงาน

ท้องพองว่าในใจ พองหนอ ท้องยุบว่าในใจ ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอไป

ทำไปสัก 3 เดือนแล้วมาคุยกันใหม่ โอเคไหม

Kiss
ก็บอกแล้วความจริงที่เป็นสติปัฏฐาน
ต้องตามระลึกรู้ตรงวิสยรูป7ทั่วตัว
ตรงฐานที่เกิดแล้วตอนลืมตาดู
ตรงมาจากการฟังตามลำดับ
ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาทำไม่รู้
เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานค่ะ
เมื่อเข้าใจความจริงถูก
ฟังเพื่อละกิเลสที่ไหล
เป็นห่าฝนเลยนะคะ
ตนต้องรู้1ตามได้
คือเดี๋ยวนี้ตรง
ขณะเป็นอะไร
ปัจจุบันNOW
คือปัญญาตน
ไม่เกิดคือไม่รู้
ตรงขณะที่ตนมี
ก็คือไม่รู้ความจริง
พึ่งคำตถาคตตอนฟังน๊า
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 02:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา

cool
:b12:
คนเราเนี่ยไม่รู้จักจิตจะให้ว่าไง
หลายกระทู้แล้วไปหาอ่านดูก็ได้
ไม่รู้จักจำก็บอกแล้วว่าทำได้แค่บอก
ไม่มีใครทำอะไรได้เกินคำว่าแค่บอก
เพื่อระลึกตามได้ตรงทีละคำเพราะจิต
คิดนึกได้ทีละ1คำคือ1พยางค์พิสูจน์ได้
พูดคือคิดออกเสียง/คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียง
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่าดีให้ตรงกับคำว่าชั่วทำได้ไหมคะตอบ
:b32: :b32:
มันคิดคำว่าดีตรงคำว่าดีใช่ไหมและคิดคำว่าชั่วตรงชั่วใช่ไหมคะ
ถ้าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ฟังพระพุทธพจน์ก็จะสะสมแต่มิจฉาทิฏฐิ
https://youtu.be/QG2s3-QSvLk
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 239 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร