วันเวลาปัจจุบัน 23 มิ.ย. 2025, 15:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2018, 23:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้
:b16:
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 05:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาในบุญกับทุกๆท่าน..ที่ตั้งใจบวช...ได้บวชในบวรพระพุทธศาสนา..

:b8: :b8: :b8:

กระผมผู้ยังไม่ได้บวช...รู้สึกชื่นชมท่านและอิจฉาท่านเล็กน้อย..
:b9: :b9:

(อย่าอิจฉามากไปนะ..มันจะเป็นปมด้อย.. :b32: ...เอ๋..หรือว่ามีปมด้อยจึงอิจฉา..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 05:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ

cool
หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช
ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ขออนุโมทนาในบุญกับทุกๆท่าน..ที่ตั้งใจบวช...ได้บวชในบวรพระพุทธศาสนา..

:b8: :b8: :b8:

กระผมผู้ยังไม่ได้บวช...รู้สึกชื่นชมท่านและอิจฉาท่านเล็กน้อย..
:b9: :b9:

(อย่าอิจฉามากไปนะ..มันจะเป็นปมด้อย.. :b32: ...เอ๋..หรือว่ามีปมด้อยจึงอิจฉา..)

Kiss
ตถาคตยกคำสอนขึ้นแทนพระองค์ถ้ากบคิดได้ว่าไม่อยากโลภหาเงินก็บวชเลยนะ
เคารพคำสอนหรือเคารพภิกษุบุคคลที่ตาถั่วไม่ดูคำสอนว่ายินดีรับเงินคริคริคริ
เกรงใจตถาคตหรือเกรงใจภิกษุบุคคลที่เป็นตาเถรตกนรกแทนกระโถน
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 08:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ


หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


ครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


คิกๆๆ พูดเหมือนว่า เป็นพระอรหันต์ก่อนแล้วจึงบวช ถ้าอย่างนี้ ก็เป็นออระหันตั้งแต่เกิดดิ หรือยังไง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ


หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


ครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


คิกๆๆ พูดเหมือนว่า เป็นพระอรหันต์ก่อนแล้วจึงบวช ถ้าอย่างนี้ ก็เป็นออระหันตั้งแต่เกิดดิ หรือยังไง

:b11:
อ่านแล้วก็คิดให้มันตรงกับที่คนเขียนสื่อความหมาย
แต่งต่อเติมทำเป็นลิ้น2แฉกเหมือนงูเหมือนนก2หัว
ศาสดาเจ้าของศาสนาคือพระพุทธเจ้าไม่ใช่เกจิอื่นๆ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ


หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


ครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


คิกๆๆ พูดเหมือนว่า เป็นพระอรหันต์ก่อนแล้วจึงบวช ถ้าอย่างนี้ ก็เป็นออระหันตั้งแต่เกิดดิ หรือยังไง

:b11:
อ่านแล้วก็คิดให้มันตรงกับที่คนเขียนสื่อความหมาย
แต่งต่อเติมทำเป็นลิ้น2แฉกเหมือนงูเหมือนนก2หัว
ศาสดาเจ้าของศาสนาคือพระพุทธเจ้าไม่ใช่เกจิอื่นๆ
:b32: :b32:



แล้วใครบอกว่าเกจิเป็นเจ้าของศาสนาเล่า เออ

อ้างคำพูด:
หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้ว โอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะ มีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555

บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนเป็นบอ่านว่า ปัพพะชะ แปลตามบาลีว่า สละหมดหรือเว้นทั่ว

ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช



จะให้มันเหมือนครั้งพุทธกาลหรอ เออ ลูกอยากบวช พ่อแม่ห้ามบวช คิกๆๆ

ทำไมถึงเขาห้ามบวชล่ะ เข้าใจว่ายังไงไหนลองว่าไปสิ เอ้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 10:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ


หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


ครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


คิกๆๆ พูดเหมือนว่า เป็นพระอรหันต์ก่อนแล้วจึงบวช ถ้าอย่างนี้ ก็เป็นออระหันตั้งแต่เกิดดิ หรือยังไง

:b11:
อ่านแล้วก็คิดให้มันตรงกับที่คนเขียนสื่อความหมาย
แต่งต่อเติมทำเป็นลิ้น2แฉกเหมือนงูเหมือนนก2หัว
ศาสดาเจ้าของศาสนาคือพระพุทธเจ้าไม่ใช่เกจิอื่นๆ
:b32: :b32:



แล้วใครบอกว่าเกจิเป็นเจ้าของศาสนาเล่า เออ

อ้างคำพูด:
หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้ว โอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะ มีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555

บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนเป็นบอ่านว่า ปัพพะชะ แปลตามบาลีว่า สละหมดหรือเว้นทั่ว

ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช



จะให้มันเหมือนครั้งพุทธกาลหรอ เออ ลูกอยากบวช พ่อแม่ห้ามบวช คิกๆๆ

ทำไมถึงเขาห้ามบวชล่ะ เข้าใจว่ายังไงไหนลองว่าไปสิ เอ้า

Kiss
:b32:
อ่านมาหลายกระทู้ไม่เข้าใจแปลว่าไม่มีปัญญาคิดได้ไง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 10:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
จากคฤหัสถ์เลิกประกอบอาชีพเสียสละออกบวชเพื่อขอบวช
ปฏิญาณตนว่าสละแล้วซึ่งทรัพย์สินเงินทองบ้านเรือนญาติมิตร
เพื่อมาถือพรหมจรรย์ครองจีวร3ผืนบาตรเดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้ง
ตามอย่างพระพุทธเจ้าเพื่อเรียนรู้อารมณ์ตามอย่างพระบิดาเพื่อมรรคผล
แต่อนิจจามุ่งลาภสักการะไม่จริงใจลวงโลกว่าประพฤติพรหมจรรย์แสวงหาแต่วัตถุ
ทำลายคำสอนจนวิกฤติอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้บังคับให้ใครมาบวชแม้แต่น้อยเลย
แต่บุคคลนั้นเองฟังพระธรรมแล้วรู้อัธยาศัยว่าตนเห็นโทษที่มีกิเลสไม่ต้องการติดข้องในกามคุณ5
ประกาศต่อสาธารณะเพื่อให้ผู้คนกราบไหว้ว่าตนทำตามอย่างผู้ประเสริฐได้ไม่ใช่มาคิดแก้คำที่สั่งสอนไว้


เห็น คคห.คุณโรสทีไรนึกขำทุกที เนี่ยคู่หูปฤษฎีหายเงียบไปเลย :b13: แต่คิดว่าน่าจะแอบดูอยู่

รูปภาพ

เขาบวช 15 วัน หรือ 1 พรรษา คุณโรสว่า ต้องสละที่ดินทรัพย์สินเงินทองที่มีให้หมด แล้วหลังจากครบ 15 หรือ 1 พรรษาแล้วสึกออกมา คุณโรสจะให้เขาไปอยู่ไหน กินอะไรเพราะสละจนหมดตูดแล้ว ดีไม่ดีกุงเกงในก็ไม่มี อายสุรพลเพราะสุรพลยังเหลือกางเกงในตัวหนึ่ง คิกๆๆ

ตอบประเด็นนี้ให้เคลียทีสิ ตอบตรงๆคำถาม :b1:

ปอลอ. ถ้าตอบเองไม่ได้ ส่งไลน์ติ๋งต่องไปถามแม่บริหารฯ สิ


หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้วโอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะมีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555
บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนปเป็นบอ่านว่าปัพพะชะแปลตามบาลีว่าสละหมดหรือเว้นทั่ว
ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


ที่บวชแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ก็มาทำผิดไง
คนถึงตำหนิ
จนต้องร้อน
ถึงให้ตถาคต
สอบถามว่าผิดจริง
เคยมีคนทำผิดแบบนั้น
ในสมัยที่ตถาคตยังอยู่ไงคะ
จึงทรงกำหนดเป็นสิกขาบทขึ้นมา
ไม่มีใครบัญญัติเองมีแต่ตถาคตบัญญัติ
และคราวที่สังคายนาจากพระขีณาสฟ500รูป
เป็นพระอรหันต์เอตะทัคคะมีฤทธิ์วิเศษทั้งนั้นเลย
ไม่มีใครคิดเปลี่ยนแปลงคำที่ตถาคตบัญญัติแล้วเพราะ
รู้ฐานะตนเองว่าไม่ได้มีปัญญาระดับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วคนสมัยนี้ปัญญาเท่าแสงหิ่งห้อยคริคริคริก็คิดรวมหัวกันแก้สิกขาบทเพื่อรับเงิน555
สมัยนี้มันมีแต่ลูกคนขี้ทุกข์อดอยากยากจนหากินไม่พอเลี้ยงปากท้องกินเดียวไม่พอโลภเผื่อญาติพี่น้องไง
:b32: :b32: :b32:


ครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช


คิกๆๆ พูดเหมือนว่า เป็นพระอรหันต์ก่อนแล้วจึงบวช ถ้าอย่างนี้ ก็เป็นออระหันตั้งแต่เกิดดิ หรือยังไง

:b11:
อ่านแล้วก็คิดให้มันตรงกับที่คนเขียนสื่อความหมาย
แต่งต่อเติมทำเป็นลิ้น2แฉกเหมือนงูเหมือนนก2หัว
ศาสดาเจ้าของศาสนาคือพระพุทธเจ้าไม่ใช่เกจิอื่นๆ
:b32: :b32:



แล้วใครบอกว่าเกจิเป็นเจ้าของศาสนาเล่า เออ

อ้างคำพูด:
หลอกตัวเองตั้งแต่อยากบวชแล้ว โอ๊ยสมัยพุทธกาลน่ะ มีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช555

บรรพชาคนไทยเพี้ยนเปลี่ยนเป็นบอ่านว่า ปัพพะชะ แปลตามบาลีว่า สละหมดหรือเว้นทั่ว

ก็ดูที่เขียนมาสิครั้งพุทธกาลถึงอรหันต์จร้าเขาถึงบวช



จะให้มันเหมือนครั้งพุทธกาลหรอ เออ ลูกอยากบวช พ่อแม่ห้ามบวช คิกๆๆ

ทำไมถึงเขาห้ามบวชล่ะ เข้าใจว่ายังไงไหนลองว่าไปสิ เอ้า

Kiss
:b32:
อ่านมาหลายกระทู้ไม่เข้าใจแปลว่าไม่มีปัญญาคิดได้ไง
:b32: :b32:



ไหนลองตอบคำถามที่ถามนั่นดิ เอาชัดๆ ทำไม "สมัยพุทธกาลน่ะ มีแต่กษัตริย์เศรษฐีคหบดีเขาห้ามลูกบวช" ตอบถูกจะเลี้ยงข้าวมันไก่มื้อหนึ่ง :b32:

ถ้าเลี่ยงไม่ตอบอีก จะว่าคุณโรสพูดไปเรื่อยเปื่อยพูดไปตามอารมณ์ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระ – คำนำหน้า ที่ใช้ประกอบหน้าคำอื่น เพื่อแสดงความยกย่อง เคารพ นับถือ หรือให้ความสำคัญ เช่น นารายณ์ เป็น พระนารายณ์ ราชา เป็น พระราชา
(คำที่ขึ้นต้นด้วย พระ – ซึ่งไม่พบในลำดับ ให้ตัด พระ ออก แล้วดูในลำดับของคำนั้น เช่น พระนารายณ์ ดู นารายณ์ พระราชา ดู ราชา)

เอาอีกขำๆ

พระพาย พระแม่คงคา พระพิรุณ พระโค พระเนตร พระกรรณ พระนั่นนี่อีกเยอะแยะ ไม่ค้นดูบ้างนะ จะได้ฉลาดในรุตติ

คุณโรสเคยได้ยินพระโคไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 11:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นี่ก็พระ -

กล่องพญานาคของปู่

.....ย่ำค่ำพระจันทร์ลอยเด่นอยู่เหนือยอดไม้ ปู่นั่งถักแหอวนบนชานเรือน
โดยมีเจ้าหลานชายตัวน้อยวัยห้าขวบนอนเอาหัวพาดตักอย่างสบายอารมณ์
เด็กน้อย หยิบกลักไม้ขีดไฟตราพญานาคที่วางอยู่ข้างตะเกียงมาดูเล่น
แล้วถามปู่ว่า “ ปู่ครับ นี่ตัวอะไร ”
......ปู่ “ เขาเรียกว่า พญานาค ”...

หลาน : ” พญานาคเป็นตัวผู้หรือตัวเมียครับ ”
.........ปู่ : ” ตัวผู้ ”.. .....

หลาน : “ ทำไมถึงเป็นตัวผู้ครับ ”
........ปู่ : “ ก็มีตำแหน่งเป็นถึงพระยานี่หลาน ตัวเมียเป็นพระยาไม่ได้ ”

...หลานชายทำท่าจะเข้าใจ แต่คำว่า “ พระยา” ก็ทำให้เจ้าหนูน้อยไม่รู้จักอยู่นั่นเอง...
หลาน : “ ปู่ครับ พระยามียศอะไรครับ ”
.....ปู่ : “ ร้อยเอก ” ...

หลาน : “ ทำไมถึงมีดาวสามดวงครับ ”
.....ปู่ยิ้มกริ่ม “ ก็พระยานาคตัวนี้มียศถึงร้อยเอก เขาถึงให้ดาวมาสามดวงยังไงล่ะ
โตขึ้นถ้าหนูเป็นทหาร หนูก็จะได้ติดดาวสามดวงเหมือนพระยานาคนี่แหละ ”

...หลานชายยิ้มหน้าระรื่น “ โตขึ้นผมจะเป็นทหาร ” แล้วถามผู้เป็นปู่ต่อ...
หลาน : “ ทำไมพญานาคต้องพ่นน้ำด้วยครับ ”
.......ปู่ : “ พระยานาคอยู่ในทะเล ทะเลมันเค็ม เลยต้องพ่นน้ำ ”

หลาน : “ แล้วทำไมพระยานาคต้องทำตัวงอๆ อย่างนี้ด้วยครับ ”
...ปู่เองชักจะงงๆกับคำถามไร้ขอบเขตของเจ้าตัวน้อย ..” เพราะกล่องมันเล็ก
พระยานาคตัวยาว หางมันก็จะโผล่ออกมานอกไม้ขีด มันเลยต้องหดตัวงดเข้าไว้ ” พูดแล้วก็ถอนหายใจเฮือก

หลาน“ ปู่ครับ พระยานาคมันตัวใหญ่ไม่ใช่หรือครับ ทำไมในนี้มันตัวเล็กนิดเดียว ”..
ปู่ : “ เฮ้ย ! ไม่จริงหรอก ตัวแค่นี้แหละ หนูดูด้านหลังกล่องสิ นี่ไง เครื่องหมายรับประกันคุณภาพมาตรฐาน ”

หลานชายพลิกกล่องไม้ขีดดูอยู่หลายรอบ ถามต่อว่า “ ทำไมตรงหัวและหางพญานาคไม่มีเกล็ดครับ ”
ปู่ : “ ไหน ให้ปู่ดูซิ ” ปู่หยิบกลักไม้ขีดออกมาดูพร้อมกับเฉลยคำตอบ “ นี่ไง เขาเอาเกล็ดที่หัว
และหางพญานาคมาแปะไว้ที่ข้างกล่องไม้ขีดไฟ ที่หัวและหางพระยานาคจึงไม่มีเกล็ด ”

....หลานชายผงกศรีษะทำท่าเข้าใจ แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เขาก็เชื่อตามที่ปู่บอกทุกอย่าง
ลมทุ่งพัดมาเย็นๆ สักพักเด็กน้อยก็หลับบนตักปู่....

....๒๐ ปี ผ่านไปแล้ว เหมือนตื่นจากความฝัน เด็กน้อยเติบโตเป็นชายหนุ่ม และเป็นทหารเสียด้วย

....เขายังจำได้ดีถึงชีวิตในวัยเด็ก คำสนทนาระหว่างปู่หลาน ทำให้เขามีความสุขเสมอ แม้จะรู้ว่ามันไม่จริง
แต่สำหรับเด็ก ปู่ไม่เคยมองข้ามความสงสัยของหลาน ตอบทุกอย่างเท่าที่ตอบได้

...สิ่งนี้ทำให้เขาซึ้งใจ เพราะมันหมายถึงความรัก ที่ปู่ไม่เคยละเลยที่จะให้เขาแม้แต่ครั้งเดียว...

http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=8175

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 11:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
รู้จักปกตูนิสยปัจจัยไหมคะคฤหัสถ์ต่างจากบรรพชิตยังไงก็ยังไม่รู้อีกเหรอปานนั่นสิบวช555
ปกติ+อุปนิสัยคือปากทางเพื่อเข้าถึงมรรคผล2เพศที่ต่างกัน
ฆราวาสปกติใช้เงินตลอดชีวิตคือคฤหัสถ์คือผู้ครองเรือนนอนที่บ้านจะไปค้างที่วัดทำไมคะ
ภิกษุปกติลาจากบ้านมาอาศัยวัดอยู่ปกติไม่ใช้เงินไม่รับเงินตลอดชีวิตที่บวชเพื่อศึกษาคำสอน
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
รู้จักปกตูนิสยปัจจัยไหมคะคฤหัสถ์ต่างจากบรรพชิตยังไงก็ยังไม่รู้อีกเหรอปานนั่นสิบวช555
ปกติ+อุปนิสัยคือปากทางเพื่อเข้าถึงมรรคผล2เพศที่ต่างกัน
ฆราวาสปกติใช้เงินตลอดชีวิตคือคฤหัสถ์คือผู้ครองเรือนนอนที่บ้านจะไปค้างที่วัดทำไมคะ
ภิกษุปกติลาจากบ้านมาอาศัยวัดอยู่ปกติไม่ใช้เงินไม่รับเงินตลอดชีวิตที่บวชเพื่อศึกษาคำสอน
:b32: :b32:


มาอีกปากประตูนิสยเงิน คิกๆๆ กรัชกายน้อยว่า ก่อนกินยาคุณโรสเขย่าขวดก่อนได้ไหม :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ค. 2018, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
รู้จักปกตูนิสยปัจจัยไหมคะคฤหัสถ์ต่างจากบรรพชิตยังไงก็ยังไม่รู้อีกเหรอปานนั่นสิบวช555
ปกติ+อุปนิสัยคือปากทางเพื่อเข้าถึงมรรคผล2เพศที่ต่างกัน
ฆราวาสปกติใช้เงินตลอดชีวิตคือคฤหัสถ์คือผู้ครองเรือนนอนที่บ้านจะไปค้างที่วัดทำไมคะ
ภิกษุปกติลาจากบ้านมาอาศัยวัดอยู่ปกติไม่ใช้เงินไม่รับเงินตลอดชีวิตที่บวชเพื่อศึกษาคำสอน
:b32: :b32:


มาอีกปากประตูนิสยเงิน คิกๆๆ กรัชกายน้อยว่า ก่อนกินยาคุณโรสเขย่าขวดก่อนได้ไหม :b13:

:b16:
ตามรู้สิ่งที่เกิดปรากฏแล้วจึงจะรู้ตามได้กินยาไม่ถูกขนานเพราะไม่ตรง1สัจจะที่ตนกำลังมีค่ะ
แต่ไม่ใช่นั่งคิดนึกเดาไปเองต้องอาศัยคิดไตร่ตรองตรงเสียงตรงขณะตามปกติเป็นปกติ
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร