วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 239 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา

cool
:b12:
คนเราเนี่ยไม่รู้จักจิตจะให้ว่าไง
หลายกระทู้แล้วไปหาอ่านดูก็ได้
ไม่รู้จักจำก็บอกแล้วว่าทำได้แค่บอก
ไม่มีใครทำอะไรได้เกินคำว่าแค่บอก
เพื่อระลึกตามได้ตรงทีละคำเพราะจิต
คิดนึกได้ทีละ1คำคือ1พยางค์พิสูจน์ได้
พูดคือคิดออกเสียง/คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียง
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่าดีให้ตรงกับคำว่าชั่วทำได้ไหมคะตอบ
:b32: :b32:
มันคิดคำว่าดีตรงคำว่าดีใช่ไหมและคิดคำว่าชั่วตรงชั่วใช่ไหมคะ
ถ้าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ฟังพระพุทธพจน์ก็จะสะสมแต่มิจฉาทิฏฐิ
https://youtu.be/QG2s3-QSvLk
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่า "ดี" ให้ตรงกับคำว่า "ชั่ว" ทำได้ไหมคะตอบ


ดูความคิดคุณโรส คิกๆๆ

ดี ชั่ว มันอยู่ที่คำพูดหรือ อยากจะไปนั่งพูดต่อหน้าคุณโรสนะ แต่เอาตรงนี้ก่อน จะพูดแล้วนะ เอานะ "ดี" "ชั่ว" เป็นไร ไม่เห็นเป็นไรเลย คิกๆๆ ย้ำอีกที ดี ชั่ว ดี ชั่ว :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา

cool
:b12:
คนเราเนี่ยไม่รู้จักจิตจะให้ว่าไง
หลายกระทู้แล้วไปหาอ่านดูก็ได้
ไม่รู้จักจำก็บอกแล้วว่าทำได้แค่บอก
ไม่มีใครทำอะไรได้เกินคำว่าแค่บอก
เพื่อระลึกตามได้ตรงทีละคำเพราะจิต
คิดนึกได้ทีละ1คำคือ1พยางค์พิสูจน์ได้
พูดคือคิดออกเสียง/คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียง
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่าดีให้ตรงกับคำว่าชั่วทำได้ไหมคะตอบ
:b32: :b32:
มันคิดคำว่าดีตรงคำว่าดีใช่ไหมและคิดคำว่าชั่วตรงชั่วใช่ไหมคะ
ถ้าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ฟังพระพุทธพจน์ก็จะสะสมแต่มิจฉาทิฏฐิ
https://youtu.be/QG2s3-QSvLk
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่า "ดี" ให้ตรงกับคำว่า "ชั่ว" ทำได้ไหมคะตอบ


ดูความคิดคุณโรส คิกๆๆ

ดี ชั่ว มันอยู่ที่คำพูดหรือ อยากจะไปนั่งพูดต่อหน้าคุณโรสนะ แต่เอาตรงนี้ก่อน จะพูดแล้วนะ เอานะ "ดี" "ชั่ว" เป็นไร ไม่เห็นเป็นไรเลย คิกๆๆ ย้ำอีกที ดี ชั่ว ดี ชั่ว :b32:

cool
คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 18:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:



ถามใหม่ คุณโรสไปได้ความคิดนี้มาจากไหน จากใคร ตอบสิครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ค. 2018, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:



ถามใหม่ คุณโรสไปได้ความคิดนี้มาจากไหน จากใคร ตอบสิครับ

ทีละ1คำทีละ1พยางค์กว่าจะเป็นประโยคพูดหรืออ่านไปกี่พยางค์คะ
เวลาอ่านก็ต้องทีละพยางค์ไงคะก็พิสูจน์สิคะความจริงพิสูจน์ได้ตรงขณะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2018, 12:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:



ถามใหม่ คุณโรสไปได้ความคิดนี้มาจากไหน จากใคร ตอบสิครับ

ทีละ1คำทีละ1พยางค์กว่าจะเป็นประโยคพูดหรืออ่านไปกี่พยางค์คะ
เวลาอ่านก็ต้องทีละพยางค์ไงคะก็พิสูจน์สิคะความจริงพิสูจน์ได้ตรงขณะ



พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ ยังงี้หรอขอรับ รู้ธัมมะหรือขอรับแบบนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ค. 2018, 17:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


'สุเทพ' ชวน ปชช. ร่วมเป็นเจ้าของพรรค รปช. ขอคนละ 1 บาทต่อวัน

https://www.thairath.co.th/content/1333834

เป่านกหวีดก็เสียเฮิน เป็นเจ้าของพรรคก็เสียเฮิน :b32:

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5BE17489

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 05:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บิ๊กป๊อก” แจงแล้ว “โหรวารินทร์” ขอยืมทหารเกณฑ์ไปใช้ที่บ้าน ชี้ระเบียบ ทหารบริการ !

รูปภาพ


https://www.khaosod.co.th/politics/news_1357801

มีผลประโยชน์ร่วมกันนี่เอง ถึงเป็นทั้งโหน คมช. โหน คสช. :b32: มีหน่วยทหารบริการยังงี้บ้านใครๆก็เรียกใช้บริการได้ซี่ :b10:

เจริญพวง

ที่นี่ด้วย

https://www.facebook.com/Dr.Tanawit/vid ... 7017/?t=12

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 06:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:



ถามใหม่ คุณโรสไปได้ความคิดนี้มาจากไหน จากใคร ตอบสิครับ

ทีละ1คำทีละ1พยางค์กว่าจะเป็นประโยคพูดหรืออ่านไปกี่พยางค์คะ
เวลาอ่านก็ต้องทีละพยางค์ไงคะก็พิสูจน์สิคะความจริงพิสูจน์ได้ตรงขณะ



พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ ยังงี้หรอขอรับ รู้ธัมมะหรือขอรับแบบนี้

Kiss
ตถาคตตรัสรู้ความจริงเพื่อให้เรารู้ตามพระองค์ไม่ให้คิดเอง
พระองค์ไม่ได้ทำเพื่อลาภสักการะเพราะทรงหมดกิเลสก่อน
แล้วจึงมาสงเคราะห์ผู้ที่สะสมปัญญามาพร้อมที่จะเข้าใจตาม
พระองค์คือพระรัตนตรัยสูงสุด1เดียวที่รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
แปลว่าพระองค์คนเดียวที่เป็นผู้รู้แล้วส่วนคนอื่นๆไม่ได้รู้อย่างตถาคต
แต่เข้าใจจากการฟังพระองค์ตรัสความจริงตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีให้รู้ชัด
รู้สึกตัวขณะนั้นทันทีการเป็นผู้รู้ตามและพึ่งคิดตามต้องมีคำจริงให้คิดตามได้
อันว่าพ่อแม่ที่คุณยกมาเป็นสมมุติเรียกคนที่คุณเคารพไม่ใช่หรือคะมันนอกกาย
สิ่งที่รู้ตามต้องเป็นสิ่งที่กำลังมีที่กายคุณเองแล้วคุณก็ใช้ใจคุณเองนั่นแหละคิดคำ
ที่เป็นคำวาจาสัจจะตรงกับความจริงที่กายใจคุณกำลังมีเช่นโกรธก็ให้รู้ว่าโกรธดับแล้ว
แต่โกรธอะไรนั้นสิ่งที่ถูกโกรธไม่ใช่สภาพรู้เป็นเราคิดโกรธมาแล้ว20ปีคือปรุงโกรธใหม่
ทุกครั้งแต่คิดถึงสิ่งที่ทำให้โกรธอันเก่าคือปรุงกิเลสอาสาวะในใจตนเพราะไม่เห็นโทษว่า
ตนเป็นผู้ไม่รู้สึกตัวตรงปัจจุบันขณะคำบริกรรมภาวนาที่เป็นวิปัสสนาเป็นคำปรมัตถสัจจะ
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลารู้ตรงๆตรงที่กำลังมีได้เท่าที่ปรากฏชัดส่วนที่ไม่ปรากฏ
แปลว่ามีแต่รู้ไม่ได้ไงก็จงเพียรรู้สิ่งที่รู้ได้ตามปกติเดี๋ยวนี้ที่มีอาการแสดงให้ทราบว่ากำลังมี
ไม่ใช่พ่อแม่ตายแล้วก็ยังปรุงสิ่งที่ไม่มีแล้วเหตุปัจจัยมีสมมุติสัจจะมีที่กายตนแค่ระลึกปรมัตถสัจจะ
ตรงที่กำลังมีคือพึ่งพระรัตนตรัยก็คือพึ่งศาสดาคือคำสอนคือคิดคำทีละ1คำตรงวิสยรูป7ที่ตรงกายมี
เห็นแสงสียินเสียงกลิ่นรสเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวตามทีละคำตรงจริง1คำดับคนทั้งตัวคือพึ่งสิ่งที่ตนมี
ถ้าไม่ละเสียงจะเห็นไม่ได้เพราะจิตเกิดดับทีละ1ทางต้องรู้จักตัวจริงของธัมมะที่กำลังมีตรงรูปปรมัตถ์ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ



คิกๆๆ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา ลุง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ฯลฯ จะบ้าตาย

นี่หรอธัมมะโฮมสะเตย์

:b32:
ความเป็นปกติจิตคิดไม่ตรงทางไง
อันนี้เขาเรียกคนคิดปกติไม่เป็น555
ตัวเองพูดคำไหนก็ตรงคำนั้นคิดคำไหน
ก็คิดมันตรงคำนั้นอยู่แล้วปัญญาตนคิดได้
เพียงทีละคำให้ถูกตรงคำสอนที่จิตตนกำลังมี
คิดไม่ได้ก็ยังไม่ถึงสติเลยนะเพราะสติแปลว่าระลึกตามได้
:b39: :b39:



ถามใหม่ คุณโรสไปได้ความคิดนี้มาจากไหน จากใคร ตอบสิครับ

ทีละ1คำทีละ1พยางค์กว่าจะเป็นประโยคพูดหรืออ่านไปกี่พยางค์คะ
เวลาอ่านก็ต้องทีละพยางค์ไงคะก็พิสูจน์สิคะความจริงพิสูจน์ได้ตรงขณะ



พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ ยังงี้หรอขอรับ รู้ธัมมะหรือขอรับแบบนี้

Kiss
ตถาคตตรัสรู้ความจริงเพื่อให้เรารู้ตามพระองค์ไม่ให้คิดเอง
พระองค์ไม่ได้ทำเพื่อลาภสักการะเพราะทรงหมดกิเลสก่อน
แล้วจึงมาสงเคราะห์ผู้ที่สะสมปัญญามาพร้อมที่จะเข้าใจตาม
พระองค์คือพระรัตนตรัยสูงสุด1เดียวที่รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
แปลว่าพระองค์คนเดียวที่เป็นผู้รู้แล้วส่วนคนอื่นๆไม่ได้รู้อย่างตถาคต
แต่เข้าใจจากการฟังพระองค์ตรัสความจริงตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีให้รู้ชัด
รู้สึกตัวขณะนั้นทันทีการเป็นผู้รู้ตามและพึ่งคิดตามต้องมีคำจริงให้คิดตามได้
อันว่าพ่อแม่ที่คุณยกมาเป็นสมมุติเรียกคนที่คุณเคารพไม่ใช่หรือคะมันนอกกาย
สิ่งที่รู้ตามต้องเป็นสิ่งที่กำลังมีที่กายคุณเองแล้วคุณก็ใช้ใจคุณเองนั่นแหละคิดคำ
ที่เป็นคำวาจาสัจจะตรงกับความจริงที่กายใจคุณกำลังมีเช่นโกรธก็ให้รู้ว่าโกรธดับแล้ว
แต่โกรธอะไรนั้นสิ่งที่ถูกโกรธไม่ใช่สภาพรู้เป็นเราคิดโกรธมาแล้ว20ปีคือปรุงโกรธใหม่
ทุกครั้งแต่คิดถึงสิ่งที่ทำให้โกรธอันเก่าคือปรุงกิเลสอาสาวะในใจตนเพราะไม่เห็นโทษว่า
ตนเป็นผู้ไม่รู้สึกตัวตรงปัจจุบันขณะคำบริกรรมภาวนาที่เป็นวิปัสสนาเป็นคำปรมัตถสัจจะ
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลารู้ตรงๆตรงที่กำลังมีได้เท่าที่ปรากฏชัดส่วนที่ไม่ปรากฏ
แปลว่ามีแต่รู้ไม่ได้ไงก็จงเพียรรู้สิ่งที่รู้ได้ตามปกติเดี๋ยวนี้ที่มีอาการแสดงให้ทราบว่ากำลังมี
ไม่ใช่พ่อแม่ตายแล้วก็ยังปรุงสิ่งที่ไม่มีแล้วเหตุปัจจัยมีสมมุติสัจจะมีที่กายตนแค่ระลึกปรมัตถสัจจะ
ตรงที่กำลังมีคือพึ่งพระรัตนตรัยก็คือพึ่งศาสดาคือคำสอนคือคิดคำทีละ1คำตรงวิสยรูป7ที่ตรงกายมี
เห็นแสงสียินเสียงกลิ่นรสเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวตามทีละคำตรงจริง1คำดับคนทั้งตัวคือพึ่งสิ่งที่ตนมี
ถ้าไม่ละเสียงจะเห็นไม่ได้เพราะจิตเกิดดับทีละ1ทางต้องรู้จักตัวจริงของธัมมะที่กำลังมีตรงรูปปรมัตถ์ค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



เลอะเทอะเละเทะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ค. 2018, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สุเทพบุกอีสาน เยี่ยม ปชช.ทุ่งกุลาร้องไห้ บอก ‘ขอกอดคอต่อสู้เพื่อประโยชน์ ปชช.

รูปภาพ


https://www.matichon.co.th/politics/news_1053675

เพิ่งร้องไห้ :b2: ไปแม้บๆน้ำตาเพิ่งจะแห้งเอง ไปนั่งยิ้มเผล่ :b16: :b13: ที่ทุ่งกุลาร้องไห้แระ คสช.ยังไม่ปลดล๊อกแต่ได้สิทธิ์หาเสียงได้ มันยังไงๆอยู่นะ :b32:

วีระ’ ซัด คสช.เอาเปรียบ ปล่อยพรรคหนุนเดินสายอิสระ ถาม นี่คือ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งใช่ไหม

https://www.matichon.co.th/politics/news_1053705

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ค. 2018, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ความดีตามคำสอนวัดได้เป็นระดับค่ะ
เป็นความจริงที่เข้าถึงตามปัญญารู้ชัด
ตรงตามมาตรฐานปัญญาที่ได้สะสมมา
ดีถึงระดับจึงบรรลุคือประจักษ์ชัดตรงๆซึ่งหน้า
ปัญญาที่แท้จริงคือการเข้าถึงอริยสัจจ์4อริยมรรค8
บรรลุความดีคือมีปัญญาเป็นอริยบุคคล8จำพวกนี้
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันมรรคิ
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงโสดาบันผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงสกิทาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอนาคามีผล
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตมรรค
1ขณะจิตที่บรรลุปัญญาถึงอรหัตตผล
รู้ได้ไงว่าใครเป็นต้องมีปัญญาถึงระดับนั้นค่ะ
:b12:
:b4: :b4:



คุณโรสขอรับ ฟอร์เมตความคิดเรื่องศาสนาที่มีอยู่เดิมให้หมดแล้วลงหน่วยความจำคือไปเรียนใหม่ศึกษาใหม่ตามสำนักเรียนที่เขาเปิดสอนแล้วสอบสนามหลวงนะครับ

ช่วงว่างๆนั้น ก็ทำบุญตักบาตรพระเณรที่หน้าบ้านตอนเช้าๆ ปิดทองฝังลูกนิมิต ทอดกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ให้อภัยทานด้วยการปล่อยสัตว์น้อยใหญ่เข้าป่าลงน้ำอะไรก็เอา สัก 5-10 ปีค่อยเข้าลานใหม่ นะขอรับ :b1:

:b12:
อ่านทีละคำช้าๆให้เข้าถึงใจนะคะ
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
อย่ายึดสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
วันนี้ที่ตาไม่บอดเป็นผล
จากกรรมในอดีตชาติค่ะ
จะบอดวันไหนก็ได้และ
กรรมที่ทำวันนี้ไม่ใช่วิบาก
วิบากจะไม่มีการเพิ่มขึ้นเลย
แต่ปัญญาเริ่มเกิดจากการฟังค่ะ
ฟังไปๆปัญญาถึงจะเพิ่มตามลำดับ
ส่วนฌานก็ผ่านการทำตามลำดับเช่นกัน
แต่ทำฌานกะทำปัญญาคนละตัวธัมมะ
ต้องเริ่มต้นให้ถูกก่อนนะคะไม่งั้นตายเปล่า
อดีตเอากลับมาแก้ไม่ได้เพราะรอให้ผลแล้ว
ส่วนอนาคตก็รู้ไม่ได้ถ้าไม่ทันสิ่งที่กำลังปรากฏ
แปลว่ากิเลสไหลซ่านไปในอารมณ์ที่จิตรู้แล้วล่ะค่ะ
:b13:
:b12: :b12:

คำว่าบอดหมายถึงมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาแต่ไม่รู้ความจริงของเห็น
ไม่ได้มีแค่เห็นอย่างเดียวยังมีรู้เสียงรู้สีรู้กลิ่นรู้รสรับสัมผัสที่ตัว
ไม่ได้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดภายนอกมีแต่คิดผิดจากคำสอนของตน
สรุปคือมืดบอดทั้งๆที่ลืมตาดูที่ตาไม่บอดนี้แหละคือมีกิเลส
กิเลสตนทำร้ายจิตตนและมีแต่ส่งออกไปนอกตนไปกว๊าน
เอาอกุศลจากสิ่งที่ตนคิดว่ามีมาเพิ่มกำลังอกุศลเข้าไปอีก
จนกว่าจะมีการประกาศคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
และคนที่ตั้งใจฟังเท่านั้นจึงจะไม่หลงไปทำตามที่เห็น
แปลว่าขณะที่ฟังและกำลังไตร่ตรองเข้าใจคือปัญญา
ทันทีที่หยุดฟังคิดต่อเองทันทีนั่นแหละมิจฉามาเลย
ตาจะบอดวันไหนก็ได้เพราะเดี๋ยวนี้เลยที่กำลังเห็น
เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติไหนไม่มีใครรู้ได้ค่ะ
ตาบอดคลำช้างคือต่างคนต่างคิดในมุมมองตน
ลืมว่าปัญญาสะสมได้เริ่มที่ฟังมีทางเดียวที่จะ
ไม่ทำให้คิดผิดคือเดินตามเสียงเพื่อเข้าใจ
ปัญญาคือเข้าใจ...เข้าใจไหมคะคือเข้าใจ
สิ่งที่กำลังมีจริงๆถูกตามได้ตอนกำลังฟัง
เอกายโนมัคโคทางสายเอกไม่ใช่ตัวคน
แต่เป็นการฟังเพื่อดับมิจฉามรรคนะคะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=55930&start=15
:b12:
:b4: :b4:

:b1:
ความจริงที่ทรงตรัสแสดงให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้รู้แล้วตรงไม่เปลี่ยนตามกาลเวลาสถานที่
ฟังที่ไหนก็ได้เพราะสถานที่ไม่ใช่กัลยาณมิตรเลือกสถานที่เลือกคนคือกิเลสตนพอใจทำแบบนั้น
คำจริงของตถาคตไม่อ้อมค้อมเอาใจกิเลสใครและบอกความจริงให้รู้ตรงที่มีแล้วไม่ใช่ให้ไปทำเพิ่ม
ตถาคตทำได้แค่บอกเข้าใจไหมคะสาวกที่ฟังเข้าใจถูกตามก็ทำได้แค่บอกตนไม่เข้าใจเพราะไม่เคยฟัง
:b12:
:b16: :b16:



ถามอีกที คุณโรส ทำไมต้องอ่านทีละคำ กินทีลำ ไหนยกตัวอย่างให้ดูชัดๆทีสิครับ อ่านทีละคำอ่านยังไง ยังงี้ใช่ไหม

กา, ไก่, เป็ด, หมู, แมว, หมา ฯลฯ แบบนี้ใช่ไหมขอรับผม :b10:

หรือ ก อา กา

cool
:b12:
คนเราเนี่ยไม่รู้จักจิตจะให้ว่าไง
หลายกระทู้แล้วไปหาอ่านดูก็ได้
ไม่รู้จักจำก็บอกแล้วว่าทำได้แค่บอก
ไม่มีใครทำอะไรได้เกินคำว่าแค่บอก
เพื่อระลึกตามได้ตรงทีละคำเพราะจิต
คิดนึกได้ทีละ1คำคือ1พยางค์พิสูจน์ได้
พูดคือคิดออกเสียง/คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียง
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่าดีให้ตรงกับคำว่าชั่วทำได้ไหมคะตอบ
:b32: :b32:
มันคิดคำว่าดีตรงคำว่าดีใช่ไหมและคิดคำว่าชั่วตรงชั่วใช่ไหมคะ
ถ้าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ฟังพระพุทธพจน์ก็จะสะสมแต่มิจฉาทิฏฐิ
https://youtu.be/QG2s3-QSvLk
:b4: :b4:


อ้างคำพูด:
ทีนี้ให้คุณพูดคำว่า "ดี" ให้ตรงกับคำว่า "ชั่ว" ทำได้ไหมคะตอบ


ดูความคิดคุณโรส คิกๆๆ

ดี ชั่ว มันอยู่ที่คำพูดหรือ อยากจะไปนั่งพูดต่อหน้าคุณโรสนะ แต่เอาตรงนี้ก่อน จะพูดแล้วนะ เอานะ "ดี" "ชั่ว" เป็นไร ไม่เห็นเป็นไรเลย คิกๆๆ ย้ำอีกที ดี ชั่ว ดี ชั่ว :b32:

cool
คนคิดไม่เป็นก็งี้แหละ
เนี่ยขนาดต้องมาสอน
ให้คิดให้ตรงคำให้เป็น
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่นี่น่ะอิอิ
:b32:
ก็บอกให้คิดตามปกติ
ที่คนทั่วไปเขาคิดตรงได้
ดูที่ตนเองคิดเป็นหลักคร่า
คือดูที่กายใจตนเองว่าตรง
คำพูดทำยังไงก็ทำตามสิคะ
อ่ะเปลี่ยนคำให้ก็ได้พ่อ-แม่2คำ
คิดคำว่าพ่อแม่พร้อมกันได้ก็ไม่ต้องฟังเพราะคำตถาคตต้องคิดตรงคำพิสูจน์ได้
วิธีที่1ให้คิดในใจคือพูดไม่ออกเสียงคำว่าพ่อออกเสียงเป็นคำว่าแม่ได้ไหม :b32:
วิธีที่2ให้พูดออกเสียงคือคิดเสียงดังคำว่าแม่ให้ตรงคำว่าพ่อคิดให้ตรงอิอิ
คนปกติออกเสียงพ่อก็ตรงคำว่าพ่อ/แม่ก็ตรงคำว่าแม่ใครคิดตรงเกิน1คำ
:b12:
:b4: :b4:

rolleyes
หายต่อมตกน้ำตกท่าไม่เป็นท่าไปแล้วคริคริคริ
คิดได้หรือยังหนอว่าคนคิดตามปกติได้ทีละ1พยางค์ตรงคำ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2018, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

หายต่อมตกน้ำตกท่าไม่เป็นท่าไปแล้วคริคริคริ
คิดได้หรือยังหนอว่าคนคิดตามปกติได้ทีละ1พยางค์ตรงคำ


บ้านธัมมะโดยบริหารฯ เป็นมิจฉาทิฏฐิหนามากตกนรกลูกเดียว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2018, 13:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ส.ส.ประชาธิปัตย์ โพสต์ขอโทษ ที่เคยร่วมล้มรัฐบาล “แม้ว-ปู” แฉสารพัดวิธีกำจัด!

“นคร มาฉิม” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กขอโทษ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ที่เคยร่วมวางแผนล้มรัฐบาล เผยวิธีกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง!

– ส.ส.ปชป. ขอโทษ “แม้ว-ปู” / 27 ก.ค. 2561 นายนคร มาฉิม อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จ.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จังหวัดพิษณุโลก ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ขอโทษ นายทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยร่วมให้มีการล้มรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ทั้งยังเล่าถึงสารพัดวิธีในการกำจัดรัฐบาลของนายทักษิณ โดยอ้างถึง นักการเมือง กองทัพ ข้าราชการ และทุกสรรพกำลัง

โดย นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุว่า

https://www.khaosod.co.th/politics/news_1380965

รูปภาพ


แม้จะสายไป แต่ก็ยังดีที่สำนึกได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 239 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร