วันเวลาปัจจุบัน 01 ก.ย. 2025, 18:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 116 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน
onion onion onion


โพสต์ เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 00:09
โพสต์: 203

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำอย่างไร...ย่อมได้สิ่งนั้นสนอง :b8:

ให้ธรรมเป็นทาน...ย่อมได้ธรรมสนองกลับมาที่จิต :b8:

ให้สัมมาทิษฐิเป็นทาน....ย่อมได้สัมมาทิษฐิกลับมาสนองจิตเช่นกัน :b8:


โมทนาในความดีที่เพียรกระทำ..ในด้านปัญญาญาน นะคะ :b8: :b53:


โพสต์ เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


อวิชชา นี่สามคำ อะ คำหนึ่ง วิช คำหนึ่ง ชา คำหนึ่ง แค่นี้ไปนิพพานแล้วหรือขอรับ ไม่ได้อิจฉาบ้านธัมมะนะ แต่สงสัย ทำไมราคะ ตัณหา อวิชชา หมดง่ายจัง เหมือนหลอกตัวเองไงไม่รู้ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 07:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

อ้างคำพูด:
การใคร่ครวญถึงอริยสัจนั้นเป็นของดี สมควรที่จักทำให้ได้ทุกเช้าและทุกวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกขสัจ
ที่พิจารณาว่า องค์สมเด็จปัจจุบันก่อนออกสู่พระมหาภิเนษกรมณ์นั้น
ก็เพราะเห็นการเกิด - แก่ - เจ็บ - ตายเป็นทุกข์
พอจักบรรลุก็เห็นการเกิด - แก่ - เจ็บ - ตายเป็นทุกข์ นั้นแหละเป็นอริยสัจ
แล้วจึงล่วงทุกข์ด้วยปัญญาที่เห็นตามความเป็นจริง
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ก็บรรลุอย่างนี้
พระอรหันต์สาวกก็บรรลุอย่างนี้
ตามการบำเพ็ญบารมีมาในอดีต อันมีพุทธภูมิบ้าง สาวกภูมิบ้างแตกต่างกันไป
เพราะฉะนั้นจงอย่าทิ้งอริยสัจ
คิดให้ได้ทุกวันตามความเป็นจริง
อย่าไปปรุงแต่งธรรมเข้าล่ะ
ปรุงแต่งธรรมอาทิเช่นคิดว่า ทำไม่ต้องเป็นอย่างนี้ ชีวิตเราไม่ต้องเป็นอย่างนี้ ฟุ้งซ่านมันไปเรื่อย ฝืนหลักธรรม



:b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


อวิชชา นี่สามคำ อะ คำหนึ่ง วิช คำหนึ่ง ชา คำหนึ่ง แค่นี้ไปนิพพานแล้วหรือขอรับ ไม่ได้อิจฉาบ้านธัมมะนะ แต่สงสัย ทำไมราคะ ตัณหา อวิชชา หมดง่ายจัง เหมือนหลอกตัวเองไงไม่รู้ :b13:

:b32:
อวิชชาเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทวดเหง้ามาแต่ดึกดำบรรพ์โน่นน่ะที่ยังเกิดอยู่เพราะยังหลับไหลในอวิชชาอยู่
จนกว่าจะเริ่มฟังคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามได้ดับอวิชชาที่ไหลไปไม่ขาดสายไงคะ
ฟังแล้วก็รู้และดับไม่รู้ได้แล้วตอนที่กำลังคิดตามการฟังนั้นน่ะพอไม่ฟังก็คิดต่อตามไม่รู้ที่ตนเคยมีต่ออีก
เพราะยังมีวิบากกรรมในอดีตที่สะสมอวิชชาที่ไม่รู้ว่าตนไม่รู้มหาศาลไงคะยังหลงเหมือนเดิมถ้าไม่เริ่มฟัง
:b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


อวิชชา นี่สามคำ อะ คำหนึ่ง วิช คำหนึ่ง ชา คำหนึ่ง แค่นี้ไปนิพพานแล้วหรือขอรับ ไม่ได้อิจฉาบ้านธัมมะนะ แต่สงสัย ทำไมราคะ ตัณหา อวิชชา หมดง่ายจัง เหมือนหลอกตัวเองไงไม่รู้ :b13:

:b32:
อวิชชาเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทวดเหง้ามาแต่ดึกดำบรรพ์โน่นน่ะที่ยังเกิดอยู่เพราะยังหลับไหลในอวิชชาอยู่
จนกว่าจะเริ่มฟังคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามได้ดับอวิชชาที่ไหลไปไม่ขาดสายไงคะ
ฟังแล้วก็รู้และดับไม่รู้ได้แล้วตอนที่กำลังคิดตามการฟังนั้นน่ะพอไม่ฟังก็คิดต่อตามไม่รู้ที่ตนเคยมีต่ออีก
เพราะยังมีวิบากกรรมในอดีตที่สะสมอวิชชาที่ไม่รู้ว่าตนไม่รู้มหาศาลไงคะยังหลงเหมือนเดิมถ้าไม่เริ่มฟัง


ต้องคิดทีละคำๆ นะขอรับ อ-วิช-ชา อะ นับหนึ่ง วิช นับสอง ชา นับสาม เทียบได้กับสติ เป็นสองคำ สะ นับหนึ่ง ติ นับสอง สองคำ ต้องคิดทีละคำๆตามคำตถาคตน๊า :b32: ตามหลักกาลามสูตรนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


อวิชชา นี่สามคำ อะ คำหนึ่ง วิช คำหนึ่ง ชา คำหนึ่ง แค่นี้ไปนิพพานแล้วหรือขอรับ ไม่ได้อิจฉาบ้านธัมมะนะ แต่สงสัย ทำไมราคะ ตัณหา อวิชชา หมดง่ายจัง เหมือนหลอกตัวเองไงไม่รู้ :b13:

:b32:
อวิชชาเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทวดเหง้ามาแต่ดึกดำบรรพ์โน่นน่ะที่ยังเกิดอยู่เพราะยังหลับไหลในอวิชชาอยู่
จนกว่าจะเริ่มฟังคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามได้ดับอวิชชาที่ไหลไปไม่ขาดสายไงคะ
ฟังแล้วก็รู้และดับไม่รู้ได้แล้วตอนที่กำลังคิดตามการฟังนั้นน่ะพอไม่ฟังก็คิดต่อตามไม่รู้ที่ตนเคยมีต่ออีก
เพราะยังมีวิบากกรรมในอดีตที่สะสมอวิชชาที่ไม่รู้ว่าตนไม่รู้มหาศาลไงคะยังหลงเหมือนเดิมถ้าไม่เริ่มฟัง


ต้องคิดทีละคำๆ นะขอรับ อ-วิช-ชา อะ นับหนึ่ง วิช นับสอง ชา นับสาม เทียบได้กับสติ เป็นสองคำ สะ นับหนึ่ง ติ นับสอง สองคำ ต้องคิดทีละคำๆตามคำตถาคตน๊า :b32: ตามหลักกาลามสูตรนะ

cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ
:b12:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ละชั่วที่ไม่รู้ว่าไม่มีตัวตน
ทำดีให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา
ทำใจให้บริสุทธิ์ปราศจากราคะตัณหาอวิชชา
ด้วยการฟังคำสอนเพื่อรู้และเข้าใจความตรงจริง
โดยอนัตตาจนกว่าจะประจักษ์ความจริงตรงตามที่กำลังฟัง
ตรงความจริงที่กายใจตนกำลังมีกำลังปรากฏกับสติปัญญาจนกว่านิพพาน


คุณโรสขอรับ ไม่ได้อิจฉานะที่นั่งฟังแม่สุจินพูดแล้วไปนิพพาน (นิพ-คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง) คือ ทำไมกิเลส ราคะ ตัณหา อวิชชา มันหมดง่ายๆอย่างนั้นเชียวหรือขอรับ :b10:

ส-ติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง ปัญ-คำหนึ่ง ญา คำหนึ่ง ทำยังงี่กิเลสถลอกหมดเลยหรือขอรับ

cool
การฟังเนี่ยนะ
เรียนวิชาการ
จนจบปริญญา
ตั้งแต่เกิดจนแก่น่ะใช่
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องรอบรู้ตรงความจริงที่กำลังมีจากฟังน๊า
ถ้าไม่ตรงก็คือไม่รู้เป็นความจริงปรากฏกับอวิชชาตนไงคะ
:b32: :b32:


อวิชชา นี่สามคำ อะ คำหนึ่ง วิช คำหนึ่ง ชา คำหนึ่ง แค่นี้ไปนิพพานแล้วหรือขอรับ ไม่ได้อิจฉาบ้านธัมมะนะ แต่สงสัย ทำไมราคะ ตัณหา อวิชชา หมดง่ายจัง เหมือนหลอกตัวเองไงไม่รู้ :b13:

:b32:
อวิชชาเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายทวดเหง้ามาแต่ดึกดำบรรพ์โน่นน่ะที่ยังเกิดอยู่เพราะยังหลับไหลในอวิชชาอยู่
จนกว่าจะเริ่มฟังคำวาจาสัจจะของพระพุทธเจ้าเพื่อเข้าใจถูกตามได้ดับอวิชชาที่ไหลไปไม่ขาดสายไงคะ
ฟังแล้วก็รู้และดับไม่รู้ได้แล้วตอนที่กำลังคิดตามการฟังนั้นน่ะพอไม่ฟังก็คิดต่อตามไม่รู้ที่ตนเคยมีต่ออีก
เพราะยังมีวิบากกรรมในอดีตที่สะสมอวิชชาที่ไม่รู้ว่าตนไม่รู้มหาศาลไงคะยังหลงเหมือนเดิมถ้าไม่เริ่มฟัง


ต้องคิดทีละคำๆ นะขอรับ อ-วิช-ชา อะ นับหนึ่ง วิช นับสอง ชา นับสาม เทียบได้กับสติ เป็นสองคำ สะ นับหนึ่ง ติ นับสอง สองคำ ต้องคิดทีละคำๆตามคำตถาคตน๊า :b32: ตามหลักกาลามสูตรนะ

cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ



ฟังแม่สุจินพูดแล้วตีความไปตามกิเลสของแต่ละคนๆ :b32: ฟังมา ๗-๘ ปีเสียเวลาเปล่า :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 19:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ
:b12:
:b4: :b4:


huh huh huh


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ
:b12:
:b4: :b4:


huh huh huh

หาวเพราะไม่รู้เรื่องหรือคะก็ความจริงตามคำสอนต้องคิดตรงคำ
การอ่านบัญญัติเกิน1คำจำเป็นชื่อเป็นเรื่องราวมันไม่ตรงทางไงคะ
แต่การฟังคือจิตได้ยินเสียงตามรู้เสียงตรงเสียงที่เกิดแล้วเข้าใจทีละคำคะ
:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 20:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ



หาวเพราะไม่รู้เรื่องหรือคะก็ความจริงตามคำสอนต้องคิดตรงคำ
การอ่านบัญญัติเกิน1คำจำเป็นชื่อเป็นเรื่องราวมันไม่ตรงทางไงคะ
แต่การฟังคือจิตได้ยินเสียงตามรู้เสียงตรงเสียงที่เกิดแล้วเข้าใจทีละคำคะ


เพิ่งเคยได้ยินเนี่ย ธัมมะมีเงา คิกๆๆ คิดไปได้ถึงขนาดนี้หนอศิษย์แม่สุจิน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ



หาวเพราะไม่รู้เรื่องหรือคะก็ความจริงตามคำสอนต้องคิดตรงคำ
การอ่านบัญญัติเกิน1คำจำเป็นชื่อเป็นเรื่องราวมันไม่ตรงทางไงคะ
แต่การฟังคือจิตได้ยินเสียงตามรู้เสียงตรงเสียงที่เกิดแล้วเข้าใจทีละคำคะ


เพิ่งเคยได้ยินเนี่ย ธัมมะมีเงา คิกๆๆ คิดไปได้ถึงขนาดนี้หนอศิษย์แม่สุจิน

:b17:
พิสูจน์ได้ค่ะ
จิต1ขณะมีชวนะ7
รู้ว่ามีตามข้างบนนี้
คือเงาที่ตนไม่รู้ไงคะ
เห็นชวนะ7และสีไหมล่ะ
ตถาคตคนเดียวที่บอกเอาไว้
:b32: :b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
cool
การอ่านคือการหลงเงาของตัวธัมมะไงคะ
เพราะอ่านคือจิตคิดนึกหลายคำแล้วตีความอีก
ส่วนการฟังคือคิดตรงคำตรงขณะรู้ความหมายตรงขณะ
คิดตรงคำและไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะได้ยินอะไรเพราะเสียงมีตั้งหลายเสียง
แต่เสียงคำที่ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังได้ยินคือความจริงก่อนเสียงดับ



หาวเพราะไม่รู้เรื่องหรือคะก็ความจริงตามคำสอนต้องคิดตรงคำ
การอ่านบัญญัติเกิน1คำจำเป็นชื่อเป็นเรื่องราวมันไม่ตรงทางไงคะ
แต่การฟังคือจิตได้ยินเสียงตามรู้เสียงตรงเสียงที่เกิดแล้วเข้าใจทีละคำคะ


เพิ่งเคยได้ยินเนี่ย ธัมมะมีเงา คิกๆๆ คิดไปได้ถึงขนาดนี้หนอศิษย์แม่สุจิน

:b17:
พิสูจน์ได้ค่ะ
จิต1ขณะมีชวนะ7
รู้ว่ามีตามข้างบนนี้
คือเงาที่ตนไม่รู้ไงคะ
เห็นชวนะ7และสีไหมล่ะ
ตถาคตคนเดียวที่บอกเอาไว้


มาอีกแระ 1 ขณะ :b32: สติ สะ นับหนึ่ง ติ นับสอง นิพพาน นิพ นับหนึ่ง พาน นับสอง เลอะเทอะสิ้นดี :b13: ช่างโปรเอสสร้างสรรค์จริงๆศิษย์แม่สุจินนักอภิธรรมแห่งบ้านธัมมะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 116 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร