วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 01:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเป็นมาของการบวช เริ่มตั้งแต่ เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าบวชเอง แล้วค่อยๆเปลี่ยนจนลงตัวแล้ว คือ แบบที่ใช้อยู่ปัจจุบัน



อุปสมบท การให้กุลบุตรบวชเป็นภิกษุ หรือให้กุลธิดาบวชเป็นภิกษุณี, การบวชเป็นภิกษุ หรือภิกษุณี

เอหิภิกขุ เป็นคำเรียกภิกษุที่ได้รับอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรงด้วยวิธีบวชที่เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา

ติสรณคมนูปสัมปทา อุปสมบทด้วยไตรสรณคมน์ คือบวชภิกษุด้วยการ (กล่าวคำ) ถึงสรณะ ๓ เป็นวิธีอุปสมบทที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระสาวกบวชกุลบุตรในครั้งต้นพุทธกาล ต่อมา เมื่อทรงอนุญาตการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรมแล้ว ก็ทรงอนุญาตการบวชด้วยไตรสรณคมน์นี้ ให้เป็นวิธีบวชสามเณรสืบมา

อุปสัมปทา การบวช, การบวชเป็นภิกษุหรือภิกษุณี; วิธีอุปสมบททั้งหมด ๘ อย่าง แต่เฉพาะที่ใช้เป็นหลัก มี ๓ อย่าง คือ

๑. เอหิภิกขุอุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยพระวาจาว่า “จงเป็นภิกษุมาเถิด” เป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้เอง

๒. ติสรณคมนูปสัมปทา หรือสรณคมนูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยถึงไตรสรณะ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตให้พระสาวกทำให้ยุคต้นพุทธกาล เมื่อคณะสงฆ์ยังไม่ใหญ่นัก เมื่อทรงอนุญาตวิธีที่ ๓ แล้ว วิธีที่ ๒ นี้ ก็เปลี่ยนใช้สำหรับบรรพชาสามเณร

๓. ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถกรรม เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตให้สงฆ์ทำ ในเมื่อคณะสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่ขึ้นแล้ว และเป็นวิธีที่ใช้สืบมาจนทุกวันนี้;

วิธีอุปสมบทอีก ๕ อย่าง ที่เหลือเป็นวิธีที่ทรงประทานเป็นการพิเศษจำเพาะบุคคลบ้าง ขาดตอนหมดไปแล้วบ้าง ได้แก่ (จัดเรียงลำดับใหม่ เอาข้อ ๓ เป็นข้อ ๘. ท้ายสุด)

๓. โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยการรับโอวาท เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่พระมหากัสสปะ

๔. ปัญหาพยากรณูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยการตอบปัญหาของพระพุทธองค์ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่โสปากสามเณร

๕. ครุธรรมปฏิคคหณูปสัมปทา (หรืออัฏฐครุธรรมปฏิคคหณูปสัมปทา) การอุปสมบทด้วยการรับครุธรรม ๘ ประการ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี

๖. ทูเตนะ อุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยทูต เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่คณิกา (หญิงโสเภณี) ชื่อ อัฑฒกาสี

๗. อัฏฐวาจิกา อุปสัมปทา การอุปสมบทมีวาจา ๘ คือ ทำด้วยญัตติจตุตถกรรม ๒ ครั้ง จากสงฆ์ทั้งสองฝ่าย คือ จากภิกษุณีสงฆ์ครั้งหนึ่ง จากภิกษุสงฆ์ครั้งหนึ่ง ได้แก่ การอุปสมบทของภิกษุณี

๘. ญัตติจตุตถกรรมอุปสัมปทา (ข้อ ๓. เดิม)


อุปสัมปทาเปกขะ บุคคลผู้เพ่งอุปสมบท คือ ผู้มุ่งจะบวชเป็นภิกษุ, ผู้ขอบวชนาค

อุปสัมปทาเปกขา หญิงผู้เพ่งอุปสัมปทา คือ ผู้ขอบวชเป็นภิกษุณี

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.ย. 2018, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังฆกรรม งานของสงฆ์, กรรมที่สงฆ์พึงทำ, กิจที่พึงทำโดยที่ประชุมสงฆ์ มี ๔ คือ

๑. อปโลกนกรรม กรรมที่ทำเพียงด้วยบอกกันในที่ประชุมสงฆ์ ไม่ต้องตั้งญัตติและไม่ต้อง
สวดอนุสาวนา เช่น แจ้งการลงพรหมทัณฑ์แก่ภิกษุ

๒. ญัตติกรรม กรรมที่ทำเพียงตั้งญัตติไม่ต้องสวดอนุสาวนา เช่น อุโบสถ และปวารณา

๓. ญัตติทุติยกรรม กรรมที่ทำด้วยตั้งญัตติแล้วสวดอนุสาวนาหนหนึ่ง เช่น สมมติสีมา ให้ผ้ากฐิน

๔. ญัตติจตุตถกรรม กรรมที่ทำด้วยการตั้งญัตติแล้วสวดอนุสาวนา ๓ หน เช่น อุปสมบท ให้ปริวาส ให้มานัต

สังฆเถระ ภิกษุผู้เป็นพระเถระในสงฆ์ คือ เป็นผู้ใหญ่เป็นประธานในสงฆ์, ภิกษุผู้มีพรรษามากกว่าภิกษุอื่นในชุมนุมนั้นทั้งหมด

สังฆทาน ทานเพื่อสงฆ์, การถวายแก่สงฆ์ คือ ถวายเป็นกลางๆ ไม่จำเพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เช่น จะทำพิธีถวายของที่มีจำนวนจำกัดพึงแจ้งแก่ทางวัดให้จัดพระไปรับตามจำนนที่ต้องการ หัวหน้าสงฆ์จัดภิกษุใดไปพึงทำใจว่า ท่านมารับในนามของสงฆ์ หรือเป็นตัวแทนของสงฆ์ทั้งหมด ไม่พึงเพ่งเล็งว่าเป็นบุคคลใด คิดตั้งใจแต่ว่าจะถวายอุทิศแก่สงฆ์

สังฆนวกะ ภิกษุผู้ใหม่ในสงฆ์ คือบวชภายหลังแก่ภิกษุทั้งหมดในชุมนุมสงฆ์นั้น

สังฆภัต อาหารถวายสงฆ์ หมายถึง อาหารที่เจ้าของนำมา หรือส่งมาถวายสงฆ์ในอารามพอแจกทั่วกัน เทียบอุทเทสกภัต

สังฆเภท ความแตกแห่งสงฆ์, การทำให้สงฆ์แตกจากกัน กำหนดด้วยไม่ทำอุโบสถ ปวารณา และสังฆกรรมด้วยกัน

สังฆราชี ความร้าวรานแห่งสงฆ์ คือ จะแตกแยกกัน แต่ไม่ถึงกับแยกทำอุโบสถ ปวารณาและสังฆกรรมต่างหากกัน

สังฆมณพล หมู่พระ, วงการพระ

สังฆสามัคคี ความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์

สังฆอุโบสถ อุโบสถของสงฆ์ คือ การทำอุโบสถของสงฆ์ที่ครบองค์กำหนด คือ มีภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป สวดปฏิโมกข์ได้ตามปกติ (ถ้ามีภิกษุอยู่ ๒-๓ รูป ต้องทำคณอุโบสถ คือ อุโบสถของคณะ ซึ่งเป็นปาริสุทธิอุโบสถ คือ อุโบสถที่ทำโดยบอกความบริสุทธิ์ของกันและกัน ถ้ามีภิกษุรูปเดียว ต้องทำบุคคลอุโบสถ คือ อุโบสถที่ทำโดยการอธิษฐานกำหนดใจว่าวันนั้นเป็นวันอุโบสถ)

อุโบสถ การสวดปาฏิโมกข์ของสงฆ์ทุกกึ่งเดือน, อุโบถสเป็นสังฆกรรมที่ต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอและมีกำหนดเวลาที่แน่นอน มีชื่อเรียกย่อยออกไปหลายอย่าง การทำอุโบสถจะมีการสวดปฏิโมกข์ได้ ต่อเมื่อมีภิกษุครบองค์สงฆ์จตุวรรค คือ ๔ รูป ขึ้นไป
ถ้าสงฆ์ครบองค์กำหนดเช่นนี้ทำอุโบสถ เรียกว่า สังฆอุโบสถ (มีรายละเอียดวิธีปฏิบัติตามพุทธบัญญัติในอุโบสถขันถกะ, วินย. 4/147/201) ในกรณีที่มีภิกษุอยู่ในวัดเพียง ๒ หรือ ๓ รูป เป็นเพียงคณะ ท่านให้บอกความบริสุทธิ์แก่กันและกันแทนการสวดปฏิโมกข์ เรียกอุโบสถนี้ว่า คณอุโบสถ หรือ ปาริสุทธิอุโบสถ กล่าวคือ ถ้ามี ๓ รูป พึงให้รูปที่สามารถตั้งญัตติ....จากนั้น ทั้ง ๓ รูป พึงบอกความบริสุทธิ์ของตนไปตามลำดับพรรษา ... ถ้ามี ๒ รูป ไม่ต้องตั้งญัตติ เพียงบอกความบริสุทธิ์ของตนแก่กัน อุโบสถที่ทำอย่างนี้ เรียกว่า ปุคคลอุโบสถ หรือ อธิษฐานอุโบสถ


สังฆาวาส “อาวาสของสงฆ์” ส่วนของวัด ซึ่งจัดไว้เป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ ประกอบด้วยกุฏิ หอสวดมนต์ หอฉัน เป็นต้น ต่างกับและเป็นคู่กันกับพุทธาวาส, เป็นคำบัญญัติขึ้นใช้ภายหลัง (มิได้มีมาแต่เดิมในคัมภีร์)


สังฆิกาวาส ที่อยู่ที่เป็นของสงฆ์, เป็นคำทางพระวินัย ตรงข้ามกับ ปุคคลิกาวาส (ที่อยู่ที่เป็นของบุคคล หรือที่อยู่ส่วนตัว) เช่น ในข้อความว่า (วินย. อ. 3/394) “ถ้าภิกษุถือเอาทัพพสัมภาระทั้งหลาย มีกลอน เป็นต้น จากสังฆิกาวาสนั้น นำไปใช้ในสังฆิกาวาสอื่น ก็เป็นอันใช้ไปด้วยดี แต่เมื่อเอาไปใช้ในปุคคลิกาวาส จะต้องจ่ายมูลค่าให้ หรือต้องทำให้กลับคืนดีเป็นปกติอย่างเดิม, ถ้าภิกษุมีไถยจิต ถือเอาเตียงและตั่งเป็นต้น จากวิหารที่ถูกทอดทิ้งแล้ว พึงปรับอาบัติตามมูลค่าแห่งสิ่งของ ในขณะที่ยกขึ้นไปนั่นทีเดียว; สังฆิกวิหาร ก็เรียก พึงสังเกตว่า สังฆิกาวาส ก็ดี ปุคคลิกาวาส ก็ดี เป็นคำที่ใช้ในชั้นอรรถกถา ส่วนในพระไตรปิฎก ใช้เป็นข้อความว่า วิหารที่เป็นสังฆิกะ หรือวิหารของสงฆ์ และเสนาสนะของสงฆ์ เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 05:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


โพสต์ เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 05:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ฟังว่าอุปมาการเกิดดับเร็วเหมือนแกว่งก้านธูปคืออย่างไรนะคะ
https://youtu.be/rccqXX_kdC4
:b12:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ฟังว่าอุปมาการเกิดดับเร็วเหมือนแกว่งก้านธูปคืออย่างไรนะคะ
https://youtu.be/rccqXX_kdC4


มาอีกแระแกว่งก้านธูป แกว่งไปแกว่งมากลายเป็นแกว่งตูดไปโดนเสี่ยน คิกๆๆ

บอกแล้วว่านั่นรู้มาจากหมึกพิมพ์ในกระดาษ :b13: ถ้ารู้แค่นั้นมันฟุ้ง คิดเตลิด เข้าใจไหมบอกหลายรอบแล้ว

จะให้ดีทั้งคุณโรส ทั้งแม่สุจิน ไปนั่งหลับตาสังเกตให้เห็นว่ามันเกิดดับยังไง นับได้ครบ 17 ขณะ อะไรเป็นต้นไหม คิกๆๆ ไปนั่งนับมานะ นั่นแหละจะหายฟุ้งซ่านหยุดการเพ้อเจ้อลงได้ ขั้นต่ำคือกังขาวิตรณวิสุทธิ ตามที่ตั้งกระทู้ไว้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ก.ย. 2018, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

:b12:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ
มีตาและตาไม่บอดจึงปรากฏโลกของเห็นที่กำลังเห็นอยู่นี้แหละได้
จะเพียรฟังคำสอนเพื่อคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามคำสอนถูกตรงตามได้
หรือจะเอาแต่อ่านแล้วจดจำเอาไปเลือกบังคับจิตให้เป็นตามที่อยากเป็นหรือ
พิจารณาไหมคะว่าเห็นไม่ตรงตามคำสอนจริงๆเพราะไม่ได้กำลังเห็นแค่สีเท่านั้น
แต่กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นตามตาตัวเองที่เห็นเป็นสิ่งที่ปราฏเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเห็นผิดแล้วค่ะ
ตรงไหมคะเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้เห็นรูปของสีตรงรูปของสีและไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นชัดไหมคะดูสิคะ
:b16: :b16:


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

:b12:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ
มีตาและตาไม่บอดจึงปรากฏโลกของเห็นที่กำลังเห็นอยู่นี้แหละได้
จะเพียรฟังคำสอนเพื่อคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามคำสอนถูกตรงตามได้
หรือจะเอาแต่อ่านแล้วจดจำเอาไปเลือกบังคับจิตให้เป็นตามที่อยากเป็นหรือ
พิจารณาไหมคะว่าเห็นไม่ตรงตามคำสอนจริงๆเพราะไม่ได้กำลังเห็นแค่สีเท่านั้น
แต่กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นตามตาตัวเองที่เห็นเป็นสิ่งที่ปราฏเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเห็นผิดแล้วค่ะ
ตรงไหมคะเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้เห็นรูปของสีตรงรูปของสีและไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นชัดไหมคะดูสิคะ
:b16: :b16:


คุณโรสพูดอะไรแล้วไม่จำ

เดิมคุณโรสว่าจิต เห็น ไอ้เรืองก็ว่า ตา กับ จิต ฯลฯ มันอาศัยกัน ไม่มีตา จักขุวิญญาณก็ทำงานไม่ได้ แล้วก็เน้นให้อีกว่า ถ้าไม่เชื่อก็เอาไม้แทงตาสะให้บอดดิ ฯลฯ แทนที่จะเข้าใจ

ผ่าทุรังมานี่

อ้างคำพูด:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ


ก็ตามันบอด มันจะเห็นยังไงเล่า เออ คิกๆๆ นั่นแหละ จักขุวิญญาณทำงานไม่ได้แล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย้ำอีกที คุณโรสขอรับ ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ คุณเลิกฟังคลิปแม่สุจินแห่งบ้านธัมมะก่อนตาย แล้วไปเรียนไปศึกษาหลักพุทธธรรมยังสำนักเรียนที่เขามีการสอนการสอบวัดความรู้ความถูกต้องให้เป็นกิจลักษณะเถอะ จะได้พ้นจากมิจฉาทิฏฐิเสียที เชื่อไอ้เรืองนะขอรับ :b13: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

:b12:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ
มีตาและตาไม่บอดจึงปรากฏโลกของเห็นที่กำลังเห็นอยู่นี้แหละได้
จะเพียรฟังคำสอนเพื่อคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามคำสอนถูกตรงตามได้
หรือจะเอาแต่อ่านแล้วจดจำเอาไปเลือกบังคับจิตให้เป็นตามที่อยากเป็นหรือ
พิจารณาไหมคะว่าเห็นไม่ตรงตามคำสอนจริงๆเพราะไม่ได้กำลังเห็นแค่สีเท่านั้น
แต่กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นตามตาตัวเองที่เห็นเป็นสิ่งที่ปราฏเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเห็นผิดแล้วค่ะ
ตรงไหมคะเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้เห็นรูปของสีตรงรูปของสีและไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นชัดไหมคะดูสิคะ
:b16: :b16:


คุณโรสพูดอะไรแล้วไม่จำ

เดิมคุณโรสว่าจิต เห็น ไอ้เรืองก็ว่า ตา กับ จิต ฯลฯ มันอาศัยกัน ไม่มีตา จักขุวิญญาณก็ทำงานไม่ได้ แล้วก็เน้นให้อีกว่า ถ้าไม่เชื่อก็เอาไม้แทงตาสะให้บอดดิ ฯลฯ แทนที่จะเข้าใจ

ผ่าทุรังมานี่

อ้างคำพูด:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ


ก็ตามันบอด มันจะเห็นยังไงเล่า เออ คิกๆๆ นั่นแหละ จักขุวิญญาณทำงานไม่ได้แล้ว

ที่กำลังเห็นคือจิตเห็น
ถ้าใครจะโง่ทิ่งตาให้บอด
ก็โง่ยิ่งกว่าโง่ซะอีกมีตาไว้ดู
แต่ตาไม่รู้ว่าเห็นถ้าไม่มีจิตอิอิ
คนตายมีตาใช่ไหมเหมือนคนเป็นรึ
กว่าจะได้เกิดเป็นคนยังจะคิดพิเรนจิ้มตา
ตถาคตแสดงธรรมเพื่อให้คิดเห็นทางตาว่าไม่มีคนมีกรัชกายไหม
:b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

:b12:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ
มีตาและตาไม่บอดจึงปรากฏโลกของเห็นที่กำลังเห็นอยู่นี้แหละได้
จะเพียรฟังคำสอนเพื่อคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามคำสอนถูกตรงตามได้
หรือจะเอาแต่อ่านแล้วจดจำเอาไปเลือกบังคับจิตให้เป็นตามที่อยากเป็นหรือ
พิจารณาไหมคะว่าเห็นไม่ตรงตามคำสอนจริงๆเพราะไม่ได้กำลังเห็นแค่สีเท่านั้น
แต่กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นตามตาตัวเองที่เห็นเป็นสิ่งที่ปราฏเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเห็นผิดแล้วค่ะ
ตรงไหมคะเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้เห็นรูปของสีตรงรูปของสีและไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นชัดไหมคะดูสิคะ
:b16: :b16:


คุณโรสพูดอะไรแล้วไม่จำ

เดิมคุณโรสว่าจิต เห็น ไอ้เรืองก็ว่า ตา กับ จิต ฯลฯ มันอาศัยกัน ไม่มีตา จักขุวิญญาณก็ทำงานไม่ได้ แล้วก็เน้นให้อีกว่า ถ้าไม่เชื่อก็เอาไม้แทงตาสะให้บอดดิ ฯลฯ แทนที่จะเข้าใจ

ผ่าทุรังมานี่

อ้างคำพูด:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ


ก็ตามันบอด มันจะเห็นยังไงเล่า เออ คิกๆๆ นั่นแหละ จักขุวิญญาณทำงานไม่ได้แล้ว

ที่กำลังเห็นคือจิตเห็น
ถ้าใครจะโง่ทิ่งตาให้บอด
ก็โง่ยิ่งกว่าโง่ซะอีกมีตาไว้ดู
แต่ตาไม่รู้ว่าเห็นถ้าไม่มีจิตอิอิ
คนตายมีตาใช่ไหมเหมือนคนเป็นรึ
กว่าจะได้เกิดเป็นคนยังจะคิดพิเรนจิ้มตา
ตถาคตแสดงธรรมเพื่อให้คิดเห็นทางตาว่าไม่มีคนมีกรัชกายไหม
:b32: :b32:



ก็บอกแล้วว่ามันอาศัยกัน จิตก็ต้องอาศัยตา ตาก็ต้องอาศัยจิต

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระเทวทัตเป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า
ห่มจีวรไหมได้สมาบัติด้วยตกนรกเพราะอะไร
กรรมที่ทำกั้นมรรคผลนิพพานไงคะบวชรับเงินตกนรกไม่เข้าใจหรือตะ
:b32: :b32:
อ่านตรงนี้ใหม่หลายๆรอบคิดแต่ในคำที่กำลังอ่านไม่แต่งต่อเติมความคิดเห็นที่ตนสงสัยต่อ
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)
:b32: :b32:


แล้วที่เขาบวชกันในประเทศไทยและประเทศที่นับถือพุทธก็พระเถือน บวชไม่ถูกต้องสิงั้น :b10:

:b32: :b32:
มีต่อนะอ่านต่ออีกนิด
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin
พระพุทธคือพระพุทธรัตนะคือตถาคตคือศาสดา
พระธรรมคือพระธรรมรัตนะคือพระธรรมและพระวินัยคือคำสอนแทนศาสดา
พระสงฆ์คือพระสังฆรัตนะ คือ เสขะบุคคล และอเสขะบุคคล ทั้ง 4 บริษัท ไม่ใช่สมมุติสงฆ์ปุถุชน

viewtopic.php?f=1&t=56488&p=426323#p426323

นั่นคือความคิดความเห็นของมิจฉาทิฏฐิบุคคล

:b12:
สงฆ์แปลว่าหมู่คณะใช้ได้ทั้งคนและสัตว์เป็นภาษาปกติของชาวมคธ
พระพุทธเจ้าก็ทรงเคารพสงฆ์=หมู่คณะที่มีแต่อริยบุคคล
(ภิกษุคือสังฆรัตนะที่เห็นภัยของกิเลสแล้ว)นางวิสาขา
ท่านอนาถเศรษฐี/อดีตอุปติสสะมีแต่อริยสาวก
บรรลุอรหันต์ที่บวชตรงจริงกันหรือเปล่า
มีแต่กษัตริย์ลูกเศรษฐีทิ้งสมบัติมาบวช

ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ล่วงพระธรรมวินัย
แถมคิดจะเปลี่ยนให้รับเงินไม่ผิด
หนีกรรมไม่พ้นแก้คำสอนก็ตกนรกรับเงินก็ตกนรก
ลาสิกขาน๊าถึงพ้นโทษนรกคริคริคริ
:b32: :b32:


นั่นแหละมิจฉาทิฏฐิ ถึงได้บอกว่า ธรรมะเลียนแบบ

:b32:
คิดให้มันตรงยังไม่เก็ตอีกหรือ
พระพุทธเจ้าบอกเพื่อให้ทุกคนฟัง
คำสอนแทนตถาคตและตรงทางตรงจริง
มีตาไว้ดูเท่านั้น
มีหูไว้ฟังเท่านั้น

ที่อ่านนี่คือจิตคิดนึกไม่ใช่ตาดูไม่ใช่หูฟังไตร่ตรองให้ตรงทางจบ
แต่เป็นการอ่านสัญญาจำเรื่องราวบัญญัติคำแต่สัจจะที่ตัวรู้ตรงไหมไม่ตรงน่ะสะสมกิเลสแล้วค่ะ
:b32: :b32:



ไม่ใช้ตาดูแล้วมันจะเห็นหน้าจอ เห็นตัวหนังสือ เห็นคีย์บอร์ด หรอ คิกๆๆ หลงเกินเยียวยาจริงๆ

:b32:
อ่านให้มันเข้าใจนะคะจิตแต่ละ1ไม่ซ้ำ
รูปมีอายุยืนกว่าจิตถึง17ขณะกว่าจะดับ
แต่จิตเกิดดับทีละ1ขณะทุกสิ่งดับพร้อมจิต
เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปสืบต่ออย่างรวดเร็ว
เหมือนจุดธูป1ก้านแสงมี1จุดแกว่งเร็วแสงเป็นวงกลม
แค่แสงที่ปลายก้านธูปแค่1จุดกลายเป็นแสงเป็นวงกลมต่อกันสนิท
เปรียบเหมือนเดี๋ยวนี้จิตดับไปแล้วแต่รูปยังไม่ดับจึงปรากฏเป็นนิมิตอดีตสีที่ตาเนื้อเห็นค่ะ
เห็นสีดับทันทีเป็นขณิกมรณะคำว่าดับต้องไม่มีอะไรเพราะก่อนเกิดไม่มีพอมีกระทบแล้วดับทันทีเลย
:b12:
:b4: :b4:

อ่านคือจิตคิดนึกจำตัวอักษรแล้วตีความตามนิมิตรู้ความหมายเป็นบัญญัติคำและเรื่องราวมันเลยปัจจุบัน
จำคลาดเคลื่อนจากความจริงของสิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงทางที่กายใจตนกำลังมีตรงปรมัตถ์รู้ตรงที่ตั้งอยู่


ไม่เอาดวงตาใช่ไหม จะเอาแต่จิตใช่ไหม ถ้ายังงั้นก็ เอาอะไรก็ได้แทงตาสะให้บอด ดูสิจิตมันจะรู้อารมณ์ทางตาได้ไหม ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แทงตา แทงหู เป็นต้นให้หมด เหลือไว้แต่จิต ตัดขาสะด้วยดูสิ จิตมันจะเดินไปปากซอยซื้อโอเลี้ยงได้ไหม คิกๆๆ สำนักโรคจิตนิยม :b13: พูดบอกไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่ามันอาศ้ยกันและกัน

:b12:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ
มีตาและตาไม่บอดจึงปรากฏโลกของเห็นที่กำลังเห็นอยู่นี้แหละได้
จะเพียรฟังคำสอนเพื่อคิดเห็นที่กำลังเห็นถูกตามคำสอนถูกตรงตามได้
หรือจะเอาแต่อ่านแล้วจดจำเอาไปเลือกบังคับจิตให้เป็นตามที่อยากเป็นหรือ
พิจารณาไหมคะว่าเห็นไม่ตรงตามคำสอนจริงๆเพราะไม่ได้กำลังเห็นแค่สีเท่านั้น
แต่กำลังคิดเห็นที่กำลังเห็นตามตาตัวเองที่เห็นเป็นสิ่งที่ปราฏเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเห็นผิดแล้วค่ะ
ตรงไหมคะเดี๋ยวนี้เลยไม่ได้เห็นรูปของสีตรงรูปของสีและไม่รู้ความจริงของเห็นที่กำลังเห็นชัดไหมคะดูสิคะ
:b16: :b16:


คุณโรสพูดอะไรแล้วไม่จำ

เดิมคุณโรสว่าจิต เห็น ไอ้เรืองก็ว่า ตา กับ จิต ฯลฯ มันอาศัยกัน ไม่มีตา จักขุวิญญาณก็ทำงานไม่ได้ แล้วก็เน้นให้อีกว่า ถ้าไม่เชื่อก็เอาไม้แทงตาสะให้บอดดิ ฯลฯ แทนที่จะเข้าใจ

ผ่าทุรังมานี่

อ้างคำพูด:
คนตาบอดลืมตามีลูกกะตาไหม...ทำไมคนตาบอดจึงไม่เห็นล่ะคะ


ก็ตามันบอด มันจะเห็นยังไงเล่า เออ คิกๆๆ นั่นแหละ จักขุวิญญาณทำงานไม่ได้แล้ว

ที่กำลังเห็นคือจิตเห็น
ถ้าใครจะโง่ทิ่งตาให้บอด
ก็โง่ยิ่งกว่าโง่ซะอีกมีตาไว้ดู
แต่ตาไม่รู้ว่าเห็นถ้าไม่มีจิตอิอิ
คนตายมีตาใช่ไหมเหมือนคนเป็นรึ
กว่าจะได้เกิดเป็นคนยังจะคิดพิเรนจิ้มตา
ตถาคตแสดงธรรมเพื่อให้คิดเห็นทางตาว่าไม่มีคนมีกรัชกายไหม
:b32: :b32:



ก็บอกแล้วว่ามันอาศัยกัน จิตก็ต้องอาศัยตา ตาก็ต้องอาศัยจิต

:b12:
คนตายก็มีตาทำไมไม่เห็นก็คิดให้มันตรงสิคะกำลังมีจิตเกิดดับสลับกัน6ทาง
เมื่อมีจิตก็มายึดถือไงว่าตาเราหูเราแขนเราขาเรามีแต่ตัวเราของเราคริคริคริ
เอาเราออกจากตาหูจมูกลิ้นกายใจไม่ได้เลยจนตายโน่นถึงจะปล่อยวางได้ไง
การฟังพระพุทธพจน์คือหนทางเดียวที่จะเริ่มทำให้รู้จักพระพุทธเจ้าโดยตรงค่ะ
เพราะตามรู้ความจริงตามคำจริงของตถาคตที่ตนรู้ตรงขณะไม่ใช่คิดเดาโดยไปทำ
เพราะความจริงมีนิมิตกำลังปรากฏให้รู้ได้แต่ตนไม่เคยฟังให้รู้ตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีไงคะ
:b13:
:b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.ย. 2018, 22:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
ก็บอกแล้วว่าถ้ามีตาลปัตรมากางหน้าโลง
ตอนนั้นมันทำสุตมยปัญญาไม่ได้แล้ว
ต้องทำตอนมีจิตและทำฟังทางหู
ไม่ใช่ใช้ตาฟังคิดออกไหม
ตาดูเองมันผิดไงคะ
คิดสิ่งที่กำลังเห็น
ถูกตามได้ต้อง
ตอนกำลังฟังค่ะ
https://youtu.be/7M2RbbDVm5s
:b20:
:b32: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 10 ก.ย. 2018, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
Rosarin

คนตายก็มีตาทำไมไม่เห็น ก็คิดให้มันตรงสิคะกำลังมีจิตเกิดดับสลับกัน6ทาง
เมื่อมีจิตก็มายึดถือไงว่าตาเราหูเราแขนเราขาเรามีแต่ตัวเราของเราคริคริคริ
เอาเราออกจากตาหูจมูกลิ้นกายใจไม่ได้เลยจนตายโน่นถึงจะปล่อยวางได้ไง
การฟังพระพุทธพจน์คือหนทางเดียวที่จะเริ่มทำให้รู้จักพระพุทธเจ้าโดยตรงค่ะ
เพราะตามรู้ความจริงตามคำจริงของตถาคตที่ตนรู้ตรงขณะไม่ใช่คิดเดาโดยไปทำ
เพราะความจริงมีนิมิตกำลังปรากฏให้รู้ได้แต่ตนไม่เคยฟังให้รู้ตรงสัจจะที่กายใจกำลังมีไงคะ


อ้างคำพูด:
คนตายก็มีตาทำไมไม่เห็น


อ่ะนะ คิกๆๆ ก็ตาตายแล้ว เหลือแต่ยาย ยายก็เห็นสิ ยายจะเห็นแทนตาได้งัยล่ะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร