วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 356 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 24  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2018, 21:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำถามที่ ๓.๓. มุทิตา ท่านเอกอนมนสิการไปยังไงเมื่อเจอสิ่งที่ชัง

- เวลาที่เราเจอสิ่งที่ชัง มันจะร้อน ใช่มะ เกิดความโกรธ ขัดใจ ข้องใจ คิดร้าย เพ่งโทษใช่มะ

- มุทิตาสำหรับคนที่ฝึกไหม่ หรือเคยเข้าได้ไม่บ่อยไม่เห็นคลองเก่าตน มักจะหมายเอาแต่ว่าเราต้องยินดีไปกับเขา สุขไปกับเขา ไม่ริษยาเขา แล้วก็มุทิตาจิตบ้าง สัพเพสัตตา ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ คิดแต่ว่าขอเขาจงคงประโยชน์สุขสำเร็จทุกอย่างไว้ได้.. แท้จริงแล้วทุกอย่างมีคลองทำไว้ในใจ การปารถนาให้ผู้อื่นผู้ไม่มีทุกข์นั้นเป็นผลสืบต่อ ไม่ใช่การทำไว้ในใจ

- มนสิการมุทิตา คือ ความอิ่มใจ (สั้นๆแค่นี้แหละ) อิ่มเต็มกำลังใจตน แล้วน้อมเอาความอิ่มใจนั้นไปสู่ความสุขสำเร็จของผู้อื่น ให้ทำไว้ในใจดังนี้..



----------------------------------------------------


เข้เกียจพิมพ์แระอะ จะเอาให้ครบทั้ง 4 ข้อ ก็ใช่ว่ายุคสมัยนี้จะมีใครสนใจเจริญ :b14: :b14: :b14: เพราะสมัยนี้ชอบท่องจำอภิธรรม นั่งนึกๆคิดๆเอา เห็นตามสมมติความคิดตน แบบรู้วิถีจิตแต่ไม่รู้วิธีเจริญ ไม่รู้ว่าสิ่งใดเกิดจึงมีอย่างนี้ได้ ไม่รู้ว่าสิ่งใดดับจึงมีสิ่งนี้ได้ แต่ปัญญาเป็นของสูงควรแก่น้อมมาสู่ตนนะ มันก็ดีทีเรียนรู้ แต่เรียนแล้วไม่รู้ประมาณตน แยกแยะไม่ออกระหว่างสมถะ(สัญญาจดจำเพื่อทางกุศล) กับ วิปัสนา(ของแท้ที่เป็นปัญญาญาณ) นี้เรียกว่าหลง :b22: :b22: :b22:

ผมไม่ได้กล่าวหาใครนะครับเพียงแต่เห็นว่ายุคสมัยนี้มักจะเจริญแบบนี้ มากกว่าปฏิบัติแท้จริง สมตามคำพระพุทธทำนายที่ว่า พระอริยะจะลดหลั่นลงเพราะเข้าถึงธรรมไม่ได้ตามกาลในแต่ละยุค ละเลยการปฏิบัติแท้จริง ทำแนวทางปฏิบัติผิดเพี้ยน เพราะท่องจำมากกว่าปฏิบัติจริง ยุคสุดท้ายก็จะมีแต่พระโสดาบันแบบสุขวิปัสสโก สมมติสาวกทำลายพระพุทธศาสนาเพราะจำแล้วคิดเอาเองเออเองวิวาทกันแล้วก็จะไม่มีคนถึงธรรมใดอีกเลย จนพระมหาธรรมราชา หรือพระมหาจักรพรรดิ์ จะกำเนิดขึ้นมาสังคายนาพระไตรอีกครั้ง เผยแพร่แนวทางปฏิบัติอีกครั้ง ยุคสมัยนั้นจึงจะมีพระอรหันต์อีกแต่น้อยมากหรือแทบไม่มีอีกเลย แต่มีพระอนาคามีเป็นอันมาก พระอนาคามีก็มีวิโมกข์ ๘ แบบกรัะทู้ที่เราสนทนากันนี้แหละครับ :b32: :b32: :b32:

กำลังมองดูตนว่านี่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ไหมที่พิมพ์อยู่นี้ 5555 :b9: :b9: :b9: ที่จริงเอาแค่หัวข้อแค่นี้ก็คงได้แระมั้ง


มนสิการเมตตา คือ มีใจกว้าง
มนสิการกรุณา คือ มีน้ำใจ
มนสิการมุทิตา คือ อิ่มใจ
มนสิการอุเบกขา คือ ไม่ติดใจข้องแวะ


ไม่ต้องอะไรมาก ผู้ปฏิบัติจะรู้ได้ด้วยตัวเอง อิอิ


----------------------------------------------------

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 12 ธ.ค. 2018, 15:47, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 01:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
คำถามที่ ๓.๓. มุทิตา ท่านเอกอนมนสิการไปยังไงเมื่อเจอสิ่งที่ชัง

- เวลาที่เราเจอสิ่งที่ชัง มันจะร้อน ใช่มะ เกิดความโกรธ ขัดใจ ข้องใจ คิดร้าย เพ่งโทษใช่มะ

- มุทิตาสำหรับคนที่ฝึกไหม่ หรือเคยเข้าได้ไม่บ่อยไม่เห็นคลองเก่าตน มักจะหมายเอาแต่ว่าเราต้องยินดีไปกับเขา สุขไปกับเขา ไม่ริษยาเขา แล้วก็มุทิตาจิตบ้าง สัพเพสัตตา ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ คิดแต่ว่าขอเขาจงคงประโยชน์สุขสำเร็จทุกอย่างไว้ได้.. แท้จริงแล้วทุกอย่างมีคลองทำไว้ในใจ การปารถนาให้ผู้อื่นผู้ไม่มีทุกข์นั้นเป็นผลสืบต่อ ไม่ใช่การทำไว้ในใจ

- มนสิการมุทิตา คือ ความอิ่มใจ (สั้นๆแค่นี้แหละ) อิ่มเต็มกำลังใจตน พอแล้วไม่ต้องการอีก ด้วยเพราะเมื่อเราอิ่มแล้ว ความอิจฉา ริษยาก็ไม่มี เมื่อเห็นผู้อื่นเขามี เขาได้ เขาสำเร็จประโยชน์สุขบ้างเราก็ไม่ยี่หระเป็นไร ไม่มีอรติในใจตน เห็นว่าสิ่งนี้ควรแก่เขา เขาควรมีควรได้ ทำให้อิ่มใจในสุขของเขาโดยปราศจากความริษยา(ไม่ยินดีที่เขามีเขาได้, ขัดใจ, ชิงชัง) สุขไปกับเขาอย่างนี้ๆแค่นั้นเอง จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะยากก็ไม่ยาก แค่ทำไว้ในใจเป็น เช่นว่า.. เมื่อเราเจอสิ่งที่ชัง แรกสุดเลยเราจะคิดร้าย ไม่พอใจ คิดข้องขัดใจ เมื่อตั้งมั่นฝึกทำมุทิตา ให้ทำไว้ในใจดังนี้..



----------------------------------------------------


เข้เกียจพิมพ์แระอะ จะเอาให้ครบทั้ง 4 ข้อ ก็ใช่ว่ายุคสมัยนี้จะมีใครสนใจเจริญ :b14: :b14: :b14: เพราะสมัยนี้ชอบท่องจำอภิธรรม นั่งนึกๆคิดๆเอา เห็นตามสมมติความคิดตน แบบรู้วิถีจิตแต่ไม่รู้วิธีเจริญ ไม่รู้ว่าสิ่งใดเกิดจึงมีอย่างนี้ได้ ไม่รู้ว่าสิ่งใดดับจึงมีสิ่งนี้ได้ แต่ปัญญาเป็นของสูงควรแก่น้อมมาสู่ตนนะ มันก็ดีทีเรียนรู้ แต่เรียนแล้วไม่รู้ประมาณตน แยกแยะไม่ออกระหว่างสมถะ(สัญญาจดจำเพื่อทางกุศล) กับ วิปัสนา(ของแท้ที่เป็นปัญญาญาณ) นี้เรียกว่าหลง :b22: :b22: :b22:

ผมไม่ได้กล่าวหาใครนะครับเพียงแต่เห็นว่ายุคสมัยนี้มักจะเจริญแบบนี้ มากกว่าปฏิบัติแท้จริง สมตามคำพระพุทธทำนายที่ว่า พระอริยะจะลดหลั่นลงเพราะเข้าถึงธรรมไม่ได้ตามกาลในแต่ละยุค ละเลยการปฏิบัติแท้จริง ทำแนวทางปฏิบัติผิดเพี้ยน เพราะท่องจำมากกว่าปฏิบัติจริง ยุคสุดท้ายก็จะมีแต่พระโสดาบันแบบสุขวิปัสสโก สมมติสาวกทำลายพระพุทธศาสนาเพราะจำแล้วคิดเอาเองเออเองวิวาทกันแล้วก็จะไม่มีคนถึงธรรมใดอีกเลย จนพระมหาธรรมราชา หรือพระมหาจักรพรรดิ์ จะกำเนิดขึ้นมาสังคายนาพระไตรอีกครั้ง เผยแพร่แนวทางปฏิบัติอีกครั้ง ยุคสมัยนั้นจึงจะมีพระอรหันต์อีกแต่น้อยมากหรือแทบไม่มีอีกเลย แต่มีพระอนาคามีเป็นอันมาก พระอนาคามีก็มีวิโมกข์ ๘ แบบกรัะทู้ที่เราสนทนากันนี้แหละครับ :b32: :b32: :b32:

กำลังมองดูตนว่านี่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ไหมที่พิมพ์อยู่นี้ 5555 :b9: :b9: :b9: ที่จริงเอาแค่หัวข้อแค่นี้ก็คงได้แระมั้ง


มนสิการเมตตา คือ มีใจกว้าง
มนสิการกรุณา คือ มีน้ำใจ
มนสิการมุทิตา คือ อิ่มใจ
มนสิการอุเบกขา คือ ไม่ติดใจข้องแวะ


ไม่ต้องอะไรมาก ผู้ปฏิบัติจะรู้ได้ด้วยตัวเอง อิอิ


----------------------------------------------------

คริคริ

ยิ่งนาน ยิ่งเห็นความเขลาเบาปัญญา ของคุณแค่อากาสหละค่ะ
ที่ปฎิบัติไม่เป็น ปรมัตถ์ ก็ไม่เรียน

เรยไม่รู้ว่า
การปฎิบัติวิปัสสนา ต้องอาศัยโสภณเจตสิก 19 ดวง และปัญญาเจตสิก 1 ดวง

ที่มี นามปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ ที่กำลังปรากฎเฉพาะหน้า เป็นอารมณ์ เท่านั้น

ไม่ใช่คิดฟุ้งซ่าน ออกมาเรื่อยเปื่อย
อย่างที่ คุณแค่อากาสพร่ำเพ้อ ธรรมะล้นใจ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

นี่เป็นการปฎิบัติผิดๆ เป็นมหาสติปัฎฐาน อย่างผิดๆๆ รู้มาผิดๆๆ

ไม่ตรงคำสอนพระศาสดา
แต่ ไปหลงตัวเองว่า ตรง
เป็นมิจฉามรรค มิจฉาปฎิบัติ

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ

555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 01:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
eragon_joe เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
เคยมีนิมิตเห็นพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงมาสอนเจโตวิมุตติผม สอนกรรมฐานเข้าสมาบัติ ผมถึงบอกว่าข้อนี้ๆผมไม่เคยเรียนรู้จากใครที่ไหน และไม่เคยท่องจำ มันพรั่งพรูขึ้นมาในหัวในใจเอง และผมเชื่อว่ามีผมคนเดียวด้วยซ้ำในยุคสมัยนี้ที่เอาพรหมวิหาร ๔ เข้าสติปัฏฐาน ๔ เป็นเจโตวิมุตติ จนมาเจอท่านเอกอนกับท่านอ๊บนี้แหละ ที่เหมือนกัน ผมดีใจมาก 555


:b32: น่าจะมีหลายคนอยู่น๊า ที่น่าจะมีประสบการณ์
ปฏิบัติไปและเคยเห็นพระพุทธองค์มาสอน
เพราะน่าจะเป็นความปราถนาของผู้ปฏิบัติทุกคน ที่เวลาไม่รู้จะไปยังไง
ก็มักจะละรึกถึงพระพุทธองค์ อยากให้พระพุทธองค์มาปรากฏ แล้วสอนธรรม
เอกอนก็เคย ครั้งเดียว

อ้างคำพูด:
เคยถามครูว่าไม่ว่าเราฝันหรือเข้าสมาธิเกิดนิมิตก็ตาม นิมิตเหล่านี้มันจริงแท้เพียงไรหนอ
ครูบาอาจารย์ท่านก็กรุณาสอนว่ามันมีทั้งจริงไม่จริง ให้กำหนดรู้ไปเรื่อย แต่ไม่หลงมัน เอามันมาใช้เพื่อเจริญเป็นแนวทางละอกุศลถึงกุศลลงทางสุจริตอะได้ แต่เราต้องรู้ว่าข้อนี้นิมิตไม่ใช่ของที่เป็นจริง แค่เราเอามาเพื่อพิจารณาลงธรรมให้เข้าถึงความสุจริต คือ สัมมาเท่านั้นเอง


ท่าทางคงจะได้เห็นอะไรมาเยอะ :b1:



ผมโม้เรียกร้องความสนใจเฉยๆครับ ไม่มีอะไร :b32: :b32: :b32:



คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 01:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน




อยากคุยกับพี่หราเม :b32: :b32: พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา :b32: :b32:

เมน้อยหอยขม หอยใต้น้ำไม่เคยสัมผัสบนบก จึงเพ้อฝันจินตาการบนบกเหมือนที่ตนท่องจำมา สายอ่อน :b32: :b32:

ปรกติคนโง่ที่เอาแต่ท่องจำตำรานี้อะเวลาจำสูตรคุณ ก็เอาแต่ท่องสูตรคุณ แต่ไม่เคยรู้ว่าทำไมจึงเกิดมีสูตรคุณได้ สูตรคุณแท้แล้วคืออะไร :b32: :b32: :b32:

เมจะจีบพี่หราจ๊ะ :b32: :b32: อยากคุยด้วยเลยแกล้งวีนโวยวาย :b15: :b15: :b15:


:b9: :b9: :b9:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 10 ธ.ค. 2018, 03:57, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 01:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


การไปจำภาพแบบนั้น ไม่ใช่ปรมัตถ์สภาวะเรยหละค่ะ

ที่ถูกต้องคือ ให้พิกถอนบัญัติออกไป
ยกจิตขึ้นพิจารณา วิเสสลักษณะ ของสภาวะรูป 18 ขึ้นเป็นอารมรณ์
จากการเป็นปัจจัยธรรม รวมถึง

อสุภะลักณระ
อนิจจลักษณะ
ทุกข์ลักษณะ
อนัตตลักษณะ

จะเห็นได้ว่า ครูที่สอน และครูนั่น คุณแค่อากาส ไม่ได้เข้าใจ
ถึงการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ของพระพุทธเจ้าเรย
จึงเป็นการสอนปฎิบัติวิปัสสนา ผิดๆๆ
มีการสร้างชุดคำสอนขึ้นมาใหม่

ไม่ตรงตามพระธรรมและพระไตรปิฎกเรย
มิจฉามรรค เดินไปแล้วถอนยากแท้ ถอยยากแท้ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 01:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:

คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน




อยากคุยกับพี่หราเม :b32: :b32: พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา :b32: :b32:

เมน้อยหอยขม หอยใต้น้ำไม่เคยสัมผัสบนบก จึงเพ้อฝันจินตาการบนบกเหมือนที่ตนท่องจำมา สายอ่อน :b32: :b32:

ปรกติคนโง่ที่เอาแต่ท่องจำตำรานี้อะเวลาจำศูตรคุณก็เอาแต่ท่องสูตรคุณ แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดมีศุตรคุณได้ สูตรคุณแท้แล้วคืออะไร :b32: :b32: :b32:

เมจะจีบพี่หราจ๊ะ :b32: :b32: อยากคุยด้วยเลยแกล้งวีนโวยวาย :b15: :b15: :b15:


คริคริ

พระพุทธองค์ มาโปรดสัตว์โง่เขลาเบาปัญญา เพราะมาจีบ หรือเปล่าหละคะ ?
เมก็มาโปรดให้ แบบนั้นแหละ ค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:

คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน




อยากคุยกับพี่หราเม :b32: :b32: พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา :b32: :b32:

เมน้อยหอยขม หอยใต้น้ำไม่เคยสัมผัสบนบก จึงเพ้อฝันจินตาการบนบกเหมือนที่ตนท่องจำมา สายอ่อน :b32: :b32:

ปรกติคนโง่ที่เอาแต่ท่องจำตำรานี้อะเวลาจำศูตรคุณก็เอาแต่ท่องสูตรคุณ แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดมีศุตรคุณได้ สูตรคุณแท้แล้วคืออะไร :b32: :b32: :b32:

เมจะจีบพี่หราจ๊ะ :b32: :b32: อยากคุยด้วยเลยแกล้งวีนโวยวาย :b15: :b15: :b15:


คริคริ

พระพุทธองค์ มาโปรดสัตว์โง่เขลาเบาปัญญา เพราะมาจีบ หรือเปล่าหละคะ ?
เมก็มาโปรดให้ แบบนั้นแหละ ค่ะ


หลงรักเค้ามากใช่มะเมที่รัก

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พี่จะเก็บเมไว้พิจารณานะที่รัก แต่จะรับรักดีมั้ยนะ คนที่หลงยกตนเทียบพระพุทธเจ้าแบบเม จะหน้าตาแบบไหนนะ ดำ อ้วน เตี้ย :b26: :b26:

ศีล 5 จะมีไหมนะ :b32: :b32: :b32:

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าจะเอาเบอร์โทรให้เมก็กลัวเมโทรจีบ แบบไม่ชอบแนวตื๊อหลงเป็นตัวตนแบบเมอะ

เมนี้เก่งนะ เขาคุยกันเรื่องหนึ่งแต่เมโยงเข้าอีกเรื่องหนึ่งได้ :b32: :b32: :b32:

อยากคุยกับพี่มากขนาดนี้เลย

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แก้ไขล่าสุดโดย แค่อากาศ เมื่อ 10 ธ.ค. 2018, 02:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:

คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน




อยากคุยกับพี่หราเม :b32: :b32: พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา :b32: :b32:

เมน้อยหอยขม หอยใต้น้ำไม่เคยสัมผัสบนบก จึงเพ้อฝันจินตาการบนบกเหมือนที่ตนท่องจำมา สายอ่อน :b32: :b32:

ปรกติคนโง่ที่เอาแต่ท่องจำตำรานี้อะเวลาจำศูตรคุณก็เอาแต่ท่องสูตรคุณ แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดมีศุตรคุณได้ สูตรคุณแท้แล้วคืออะไร :b32: :b32: :b32:

เมจะจีบพี่หราจ๊ะ :b32: :b32: อยากคุยด้วยเลยแกล้งวีนโวยวาย :b15: :b15: :b15:


คริคริ

พระพุทธองค์ มาโปรดสัตว์โง่เขลาเบาปัญญา เพราะมาจีบ หรือเปล่าหละคะ ?
เมก็มาโปรดให้ แบบนั้นแหละ ค่ะ


หลงรักเค้ามากใช่มะเมที่รัก


คริคริ

รักตัว รักมิตร รักศิษย์ รักสถาบัน นั้นพวกสัตว์โลกโง่เชลา เค้าคำนึงกัน
คุณแค่อากาส เพ้อเจ้อไปเองหละค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:

คริคริ

โม้ได้เป็นวรรคเป็นเวน

ครูอะไรสอนมาอย่างนั้นคะ
ไม่รู้ว่า ที่ถูกต้อง
นั่นมันเป็นโลกียะปัญญา ไม่ใช่วิปัสสนา
เพราะไม่ได้เรียนพระปริยัติ ไม่ได้เรียน พระอภิธรรม เรยปฎิบัติผิดๆๆ
รู้มาผิดๆๆ แถมมาสอนผิดๆ

ไม่ได้ผ่านการศึกษา นวังคสัตถุศาสตร์ ตามคำสอนของพระบรมศาสดา
อันประกอบด้วยองค์ 9

ก็เรยพากันปฎิบัติมั่ว สอนมั่ว กัน




อยากคุยกับพี่หราเม :b32: :b32: พยายามหาเรื่องพูดคุยด้วยตลอดเวลา :b32: :b32:

เมน้อยหอยขม หอยใต้น้ำไม่เคยสัมผัสบนบก จึงเพ้อฝันจินตาการบนบกเหมือนที่ตนท่องจำมา สายอ่อน :b32: :b32:

ปรกติคนโง่ที่เอาแต่ท่องจำตำรานี้อะเวลาจำศูตรคุณก็เอาแต่ท่องสูตรคุณ แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดมีศุตรคุณได้ สูตรคุณแท้แล้วคืออะไร :b32: :b32: :b32:

เมจะจีบพี่หราจ๊ะ :b32: :b32: อยากคุยด้วยเลยแกล้งวีนโวยวาย :b15: :b15: :b15:


คริคริ

พระพุทธองค์ มาโปรดสัตว์โง่เขลาเบาปัญญา เพราะมาจีบ หรือเปล่าหละคะ ?
เมก็มาโปรดให้ แบบนั้นแหละ ค่ะ


หลงรักเค้ามากใช่มะเมที่รัก


คริคริ

รักตัว รักมิตร รักศิษย์ รักสถาบัน นั้นพวกสัตว์โลกโง่เชลา เค้าคำนึงกัน
คุณแค่อากาส เพ้อเจ้อไปเองหละค่ะ



ว่าจะเอาเบอร์โทรให้เมก็กลัวเมโทรจีบ แบบไม่ชอบแนวตื๊อหลงเป็นตัวตนแบบเมอะ

เมนี้เก่งนะ เขาคุยกันเรื่องหนึ่งแต่เมโยงเข้าอีกเรื่องหนึ่งได้ :b32: :b32: :b32:

อยากคุยกับพี่มากขนาดนี้เลย

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
คำถามที่ ๓.๓. มุทิตา ท่านเอกอนมนสิการไปยังไงเมื่อเจอสิ่งที่ชัง

- เวลาที่เราเจอสิ่งที่ชัง มันจะร้อน ใช่มะ เกิดความโกรธ ขัดใจ ข้องใจ คิดร้าย เพ่งโทษใช่มะ

- มุทิตาสำหรับคนที่ฝึกไหม่ หรือเคยเข้าได้ไม่บ่อยไม่เห็นคลองเก่าตน มักจะหมายเอาแต่ว่าเราต้องยินดีไปกับเขา สุขไปกับเขา ไม่ริษยาเขา แล้วก็มุทิตาจิตบ้าง สัพเพสัตตา ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ คิดแต่ว่าขอเขาจงคงประโยชน์สุขสำเร็จทุกอย่างไว้ได้.. แท้จริงแล้วทุกอย่างมีคลองทำไว้ในใจ การปารถนาให้ผู้อื่นผู้ไม่มีทุกข์นั้นเป็นผลสืบต่อ ไม่ใช่การทำไว้ในใจ

- มนสิการมุทิตา คือ ความอิ่มใจ (สั้นๆแค่นี้แหละ) อิ่มเต็มกำลังใจตน พอแล้วไม่ต้องการอีก ด้วยเพราะเมื่อเราอิ่มแล้ว ความอิจฉา ริษยาก็ไม่มี เมื่อเห็นผู้อื่นเขามี เขาได้ เขาสำเร็จประโยชน์สุขบ้างเราก็ไม่ยี่หระเป็นไร ไม่มีอรติในใจตน เห็นว่าสิ่งนี้ควรแก่เขา เขาควรมีควรได้ ทำให้อิ่มใจในสุขของเขาโดยปราศจากความริษยา(ไม่ยินดีที่เขามีเขาได้, ขัดใจ, ชิงชัง) สุขไปกับเขาอย่างนี้ๆแค่นั้นเอง จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะยากก็ไม่ยาก แค่ทำไว้ในใจเป็น เช่นว่า.. เมื่อเราเจอสิ่งที่ชัง แรกสุดเลยเราจะคิดร้าย ไม่พอใจ คิดข้องขัดใจ เมื่อตั้งมั่นฝึกทำมุทิตา ให้ทำไว้ในใจดังนี้..



----------------------------------------------------


เข้เกียจพิมพ์แระอะ จะเอาให้ครบทั้ง 4 ข้อ ก็ใช่ว่ายุคสมัยนี้จะมีใครสนใจเจริญ :b14: :b14: :b14: เพราะสมัยนี้ชอบท่องจำอภิธรรม นั่งนึกๆคิดๆเอา เห็นตามสมมติความคิดตน แบบรู้วิถีจิตแต่ไม่รู้วิธีเจริญ ไม่รู้ว่าสิ่งใดเกิดจึงมีอย่างนี้ได้ ไม่รู้ว่าสิ่งใดดับจึงมีสิ่งนี้ได้ แต่ปัญญาเป็นของสูงควรแก่น้อมมาสู่ตนนะ มันก็ดีทีเรียนรู้ แต่เรียนแล้วไม่รู้ประมาณตน แยกแยะไม่ออกระหว่างสมถะ(สัญญาจดจำเพื่อทางกุศล) กับ วิปัสนา(ของแท้ที่เป็นปัญญาญาณ) นี้เรียกว่าหลง :b22: :b22: :b22:

ผมไม่ได้กล่าวหาใครนะครับเพียงแต่เห็นว่ายุคสมัยนี้มักจะเจริญแบบนี้ มากกว่าปฏิบัติแท้จริง สมตามคำพระพุทธทำนายที่ว่า พระอริยะจะลดหลั่นลงเพราะเข้าถึงธรรมไม่ได้ตามกาลในแต่ละยุค ละเลยการปฏิบัติแท้จริง ทำแนวทางปฏิบัติผิดเพี้ยน เพราะท่องจำมากกว่าปฏิบัติจริง ยุคสุดท้ายก็จะมีแต่พระโสดาบันแบบสุขวิปัสสโก สมมติสาวกทำลายพระพุทธศาสนาเพราะจำแล้วคิดเอาเองเออเองวิวาทกันแล้วก็จะไม่มีคนถึงธรรมใดอีกเลย จนพระมหาธรรมราชา หรือพระมหาจักรพรรดิ์ จะกำเนิดขึ้นมาสังคายนาพระไตรอีกครั้ง เผยแพร่แนวทางปฏิบัติอีกครั้ง ยุคสมัยนั้นจึงจะมีพระอรหันต์อีกแต่น้อยมากหรือแทบไม่มีอีกเลย แต่มีพระอนาคามีเป็นอันมาก พระอนาคามีก็มีวิโมกข์ ๘ แบบกรัะทู้ที่เราสนทนากันนี้แหละครับ :b32: :b32: :b32:

กำลังมองดูตนว่านี่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ไหมที่พิมพ์อยู่นี้ 5555 :b9: :b9: :b9: ที่จริงเอาแค่หัวข้อแค่นี้ก็คงได้แระมั้ง


มนสิการเมตตา คือ มีใจกว้าง
มนสิการกรุณา คือ มีน้ำใจ
มนสิการมุทิตา คือ อิ่มใจ
มนสิการอุเบกขา คือ ไม่ติดใจข้องแวะ


ไม่ต้องอะไรมาก ผู้ปฏิบัติจะรู้ได้ด้วยตัวเอง อิอิ


----------------------------------------------------

คริคริ

ยิ่งนาน ยิ่งเห็นความเขลาเบาปัญญา ของคุณแค่อากาสหละค่ะ
ที่ปฎิบัติไม่เป็น ปรมัตถ์ ก็ไม่เรียน

เรยไม่รู้ว่า
การปฎิบัติวิปัสสนา ต้องอาศัยโสภณเจตสิก 19 ดวง และปัญญาเจตสิก 1 ดวง

ที่มี นามปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ ที่กำลังปรากฎเฉพาะหน้า เป็นอารมณ์ เท่านั้น

ไม่ใช่คิดฟุ้งซ่าน ออกมาเรื่อยเปื่อย
อย่างที่ คุณแค่อากาสพร่ำเพ้อ ธรรมะล้นใจ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

นี่เป็นการปฎิบัติผิดๆ เป็นมหาสติปัฎฐาน อย่างผิดๆๆ รู้มาผิดๆๆ

ไม่ตรงคำสอนพระศาสดา
แต่ ไปหลงตัวเองว่า ตรง
เป็นมิจฉามรรค มิจฉาปฎิบัติ

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ

555




ได้แค่ท่องแค่นี้หราเม :b32: :b32: :b32: ท่องจำเก่งนะแต่เข้าไม่ถึงที่ตนท่องจำ

เมคงไปนั่งท่องจำเข้า ชวนจิต 7 ดวง สัมประยุตกุศลเจตสิก สหคดี กับโสภณจิต เกิดเป็นมุทิตาจิต :b32: :b32:

แต่เวลาทำไว้ในใจให้เข้าถึงกลับไม่เคบได้เลยสักครั้ง :b32: :b32: :b32 นี่ก็เป็นกรรมของสายท่องจำปรามาศครูบาอาจารย์ปฏิบัติไม่ถึง กำไฟเพราะเข้าใจว่าเย็น

แต่เมกลับไม่เคยถึงโสภณเจตสิก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะไม่เคยถึงเลย รู้แต่ชื่อแต่ไม่รู้ของจริง ไม่รู้ความเกิดขึ้น เหตุ ปัจจัยให้เกิดขึ้น สืบต่อ :b32: :b32: :b32:

มาคุยกับพี่แค่เพราะอยากจีบหาเรื่องคุยด้วยเท่านั้น เพราะรักบอกตรงๆไม่ได้เลยแกล้งเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุย
การเอาธรรมบังหน้าเพื่อลงราคะตนไม่ดีนะเมที่รัก

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


แค่อากาศ เขียน:
โลกสวย เขียน:
แค่อากาศ เขียน:
คำถามที่ ๓.๓. มุทิตา ท่านเอกอนมนสิการไปยังไงเมื่อเจอสิ่งที่ชัง

- เวลาที่เราเจอสิ่งที่ชัง มันจะร้อน ใช่มะ เกิดความโกรธ ขัดใจ ข้องใจ คิดร้าย เพ่งโทษใช่มะ

- มุทิตาสำหรับคนที่ฝึกไหม่ หรือเคยเข้าได้ไม่บ่อยไม่เห็นคลองเก่าตน มักจะหมายเอาแต่ว่าเราต้องยินดีไปกับเขา สุขไปกับเขา ไม่ริษยาเขา แล้วก็มุทิตาจิตบ้าง สัพเพสัตตา ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ คิดแต่ว่าขอเขาจงคงประโยชน์สุขสำเร็จทุกอย่างไว้ได้.. แท้จริงแล้วทุกอย่างมีคลองทำไว้ในใจ การปารถนาให้ผู้อื่นผู้ไม่มีทุกข์นั้นเป็นผลสืบต่อ ไม่ใช่การทำไว้ในใจ

- มนสิการมุทิตา คือ ความอิ่มใจ (สั้นๆแค่นี้แหละ) อิ่มเต็มกำลังใจตน พอแล้วไม่ต้องการอีก ด้วยเพราะเมื่อเราอิ่มแล้ว ความอิจฉา ริษยาก็ไม่มี เมื่อเห็นผู้อื่นเขามี เขาได้ เขาสำเร็จประโยชน์สุขบ้างเราก็ไม่ยี่หระเป็นไร ไม่มีอรติในใจตน เห็นว่าสิ่งนี้ควรแก่เขา เขาควรมีควรได้ ทำให้อิ่มใจในสุขของเขาโดยปราศจากความริษยา(ไม่ยินดีที่เขามีเขาได้, ขัดใจ, ชิงชัง) สุขไปกับเขาอย่างนี้ๆแค่นั้นเอง จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะยากก็ไม่ยาก แค่ทำไว้ในใจเป็น เช่นว่า.. เมื่อเราเจอสิ่งที่ชัง แรกสุดเลยเราจะคิดร้าย ไม่พอใจ คิดข้องขัดใจ เมื่อตั้งมั่นฝึกทำมุทิตา ให้ทำไว้ในใจดังนี้..



----------------------------------------------------


เข้เกียจพิมพ์แระอะ จะเอาให้ครบทั้ง 4 ข้อ ก็ใช่ว่ายุคสมัยนี้จะมีใครสนใจเจริญ :b14: :b14: :b14: เพราะสมัยนี้ชอบท่องจำอภิธรรม นั่งนึกๆคิดๆเอา เห็นตามสมมติความคิดตน แบบรู้วิถีจิตแต่ไม่รู้วิธีเจริญ ไม่รู้ว่าสิ่งใดเกิดจึงมีอย่างนี้ได้ ไม่รู้ว่าสิ่งใดดับจึงมีสิ่งนี้ได้ แต่ปัญญาเป็นของสูงควรแก่น้อมมาสู่ตนนะ มันก็ดีทีเรียนรู้ แต่เรียนแล้วไม่รู้ประมาณตน แยกแยะไม่ออกระหว่างสมถะ(สัญญาจดจำเพื่อทางกุศล) กับ วิปัสนา(ของแท้ที่เป็นปัญญาญาณ) นี้เรียกว่าหลง :b22: :b22: :b22:

ผมไม่ได้กล่าวหาใครนะครับเพียงแต่เห็นว่ายุคสมัยนี้มักจะเจริญแบบนี้ มากกว่าปฏิบัติแท้จริง สมตามคำพระพุทธทำนายที่ว่า พระอริยะจะลดหลั่นลงเพราะเข้าถึงธรรมไม่ได้ตามกาลในแต่ละยุค ละเลยการปฏิบัติแท้จริง ทำแนวทางปฏิบัติผิดเพี้ยน เพราะท่องจำมากกว่าปฏิบัติจริง ยุคสุดท้ายก็จะมีแต่พระโสดาบันแบบสุขวิปัสสโก สมมติสาวกทำลายพระพุทธศาสนาเพราะจำแล้วคิดเอาเองเออเองวิวาทกันแล้วก็จะไม่มีคนถึงธรรมใดอีกเลย จนพระมหาธรรมราชา หรือพระมหาจักรพรรดิ์ จะกำเนิดขึ้นมาสังคายนาพระไตรอีกครั้ง เผยแพร่แนวทางปฏิบัติอีกครั้ง ยุคสมัยนั้นจึงจะมีพระอรหันต์อีกแต่น้อยมากหรือแทบไม่มีอีกเลย แต่มีพระอนาคามีเป็นอันมาก พระอนาคามีก็มีวิโมกข์ ๘ แบบกรัะทู้ที่เราสนทนากันนี้แหละครับ :b32: :b32: :b32:

กำลังมองดูตนว่านี่กำลังฟุ้งซ่านอยู่ไหมที่พิมพ์อยู่นี้ 5555 :b9: :b9: :b9: ที่จริงเอาแค่หัวข้อแค่นี้ก็คงได้แระมั้ง


มนสิการเมตตา คือ มีใจกว้าง
มนสิการกรุณา คือ มีน้ำใจ
มนสิการมุทิตา คือ อิ่มใจ
มนสิการอุเบกขา คือ ไม่ติดใจข้องแวะ


ไม่ต้องอะไรมาก ผู้ปฏิบัติจะรู้ได้ด้วยตัวเอง อิอิ


----------------------------------------------------

คริคริ

ยิ่งนาน ยิ่งเห็นความเขลาเบาปัญญา ของคุณแค่อากาสหละค่ะ
ที่ปฎิบัติไม่เป็น ปรมัตถ์ ก็ไม่เรียน

เรยไม่รู้ว่า
การปฎิบัติวิปัสสนา ต้องอาศัยโสภณเจตสิก 19 ดวง และปัญญาเจตสิก 1 ดวง

ที่มี นามปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ ที่กำลังปรากฎเฉพาะหน้า เป็นอารมณ์ เท่านั้น

ไม่ใช่คิดฟุ้งซ่าน ออกมาเรื่อยเปื่อย
อย่างที่ คุณแค่อากาสพร่ำเพ้อ ธรรมะล้นใจ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

นี่เป็นการปฎิบัติผิดๆ เป็นมหาสติปัฎฐาน อย่างผิดๆๆ รู้มาผิดๆๆ

ไม่ตรงคำสอนพระศาสดา
แต่ ไปหลงตัวเองว่า ตรง
เป็นมิจฉามรรค มิจฉาปฎิบัติ

เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ

555




ได้แค่ท่องแค่นี้หราเม :b32: :b32: :b32: ท่องจำเก่งนะแต่เข้าไม่ถึงที่ตนท่องจำ

เมคงไปนั่งท่องจำเข้า ชวนจิต 7 ดวง สัมประยุตกุศลเจตสิก สหคดี กับโสภณจิต เกิดเป็นมุทิตาจิต :b32: :b32:

แต่เวลาทำไว้ในใจให้เข้าถึงกลับไม่เคบได้เลยสักครั้ง :b32: :b32: :b32 นี่ก็เป็นกรรมของสายท่องจำปรามาศครูบาอาจารย์ปฏิบัติไม่ถึง กำไฟเพราะเข้าใจว่าเย็น



คริคริ

นี่แหละคุณแค่อากาส แสดงสันดาน ผู้โง่เขลาเบาปัญญา
ว่า คนที่เข้ามาชี้ธรรมให้ ว่าไม่ตรงกะที่พระพุทธองค์ สอนให้ จะมาจีบ
และชี้ทางสว่างให้ ว่าไม่ตรงกะพระพุทธเจ้าสอนยังไง มาปรามาส

นี่คือความเขลาเบาปัญญาซ้ำซากของคุณแค่อากาสอีกแร๊วหล่ะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 02:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:

คริคริ

รักตัว รักมิตร รักศิษย์ รักสถาบัน นั้นพวกสัตว์โลกโง่เชลา เค้าคำนึงกัน
คุณแค่อากาส เพ้อเจ้อไปเองหละค่ะ


เมไม่กล้าบอกรักพี่ตรงๆก็โม้ธรรมอ้างไปเรื่อย 555

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ธ.ค. 2018, 03:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2018, 00:52
โพสต์: 512

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงเมที่รัก ช่วยสอนพี่หน่อยสิ

จะเข้าเมตตาจิตทำยังไง ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าเมตตาได้เลยหรอเม
จะเข้ากรุณาจิตทำยังไง ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าเมตตาได้เลยหรอเม
จะเข้ามุทิตาจิตทำยังไง ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าเมตตาได้เลยหรอเม
จะเข้าอุเบกขาจิตทำยังไง ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าเมตตาได้เลยหรอเม

จะยกเมตตาเข้ามหาสติปัฏฐานยังไง สืบต่อไปวิปัสสนายังไงครับ ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าเมตตาถึงมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้เลยหรอเม
จะยกกรุณาเข้ามหาสติปัฏฐานยังไง สืบต่อไปวิปัสสนายังไงครับ ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้ากรุณาถึงมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้เลยหรอเม
จะยกมุทิตาเข้ามหาสติปัฏฐานยังไง สืบต่อไปวิปัสสนายังไงครับ ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้ามุทิตาถึงมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้เลยหรอเม
จะยกอุเบกขาเข้ามหาสติปัฏฐานยังไง สืบต่อไปวิปัสสนายังไงครับ ท่องจำวิถีจิตแล้วเข้าอุเบกขาถึงมหาสติปัฏฐาน ๔ ได้เลยหรอเม

ขอบะเอียดๆแบบที่เมถึงนะไม่ใช่ท่องจำ

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 356 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 24  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร