"ติดยากกว่าเลิก" ยังไงอ่ะ เห็นเขาสูบเขาเสพกันไม่กี่ครั้งก็ติดแล้ว แต่ตอนจะเลิกนี่พลัดวันประกันพรุ่ง ส่วนมากติดจนวันตายเลิกไม่ได้ ขนาดเข้าสถานบำบัดแล้วนะ ออกมาก็เสพก็สูบอีก

หลวงพ่อท่านก็บอกแล้วนิครับว่า อยู่ที่ใจ กว่าจะสูบติดต้องใช้
เวลาหลายปี แต่พอเลิกใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน และอีกอย่างหนึ่ง
คนทั่วประเทศ ติดยาไปกี่ถึง ๑ ใน ๑๐ ส่วนไหมครับ

ก็เพราะคนรู้ว่าไม่ดีเลยไม่ค่อยจะเข้าใกล้แล้วจะเสพหรือเมื่อ
ไม่เสพก็ไม่ติด มีเลิกสนใจเพราะสิ่งนั้นไร้สาระมีแต่โทษก็แค่นั้นเอง

คำนิยาม "สูบติด" ยังไงอ่ะ สูบติด



โจทก์ไม่ได้ถามว่า ติดยากี่ส่วน เขาถามว่า ติดกับเลิกอย่างไหนยากง่ายกว่ากัน

ผมก็ว่า ติดง่าย เลิกยาก เขาจึงเรียกว่ายาเสพติด เสพแล้วมันติด คิกๆๆ

คำนิยาม "สูบติด" ยังไงอ่ะ สูบติด



โจทก์ไม่ได้ถามว่า ติดยากี่ส่วน เขาถามว่า ติดกับเลิกอย่างไหนยากง่ายกว่ากัน

ผมก็ว่า ติดง่าย เลิกยาก เขาจึงเรียกว่ายาเสพติด เสพแล้วมันติด คิกๆๆ ไม่ต้องใช้เวลาเป็นปีหลายปีหรอก ๗ วันก็ติดแกะไม่หลุดแล้ว แค่บุหรี่นี่แหละ ไม่ต้องถึงยาบ้า ยาอี อาไอซ์หรอก

เมื่อก่อนผมก็เคยลองเหมือนกันว่าทำไมเขา
ติดกันจัง สูบดูก็ไม่เห็นจะเข้าท่า ผมก็เลยไม่สนใจ
ที่จะสูบต่อ คนที่ติดนั้นเค้าเสพ หลายครั้ง หลายม้วน
ต่อวันก็ย่อมจะติด แต่ก็ยังไม่ติดแบบถึงขั้นเลิกยากก็ต่อ
เมื่อเขาสูบไปเป็นหลายเดือน หลายปี และที่ว่าอยู่ที่ใจ
คือเขายังไม่รู้แจ้งเห็นจริงว่าสิ่งที่เสพนั้นไม่ดี และใจไม่
ยอมรับตรงนี้สำคัญมาก หากเห็นผิดแล้วก็เลิกยากแน่นอน
ดั่งหลวงพ่อท่านกล่าวไว้

ที่จริงพ่อผมก็สูบมาเป็นหลายสิบปี ในที่สุดท่าน
เข้าใจและมีกำลังพร้อมก็เลิกได้ไม่ยากเท่าไหร่

ไม่เสพก็ไม่ติด ไม่ติดก็ไม่ต้องเลิก เช่นเดียวกับเหล้า
เบียร์ เขาเขียน ว่าเมาไม่ขับ ไม่ดื่มเลยตัดที่ต้นเหตุแล้วจะ
เมาได้ยังไง

คุณพูดแบบกำปั้นทุบดิน ของตายไม่ดื่มแล้วมันจะเมาได้ยังไง

แต่ก็มีที่ไม่ได้ดื่มแล้วเมา เช่น เมารถ เมาคลื่น คิกๆๆไม่ได้กินรถ ไม่ได้ดื่มคลื่น แต่เมาได้ (พูดกันไว้ก่อน)

เหตุเกิดที่ไหนก็ดับที่นั้นนี้ครับ เหตุเกิดเพราะการ
ดื่มเหล้า เบียร์ ก็ดับตรงจุดแล้ว ก็แล้วแต่จะเรียกว่าอะไร
แล้วใครจะเรียกยังไง

ก็ทำนอง ไม่กินก็ไม่ขี้

ก็ตายสิครับท่าน กินแต่พอยังชีพ กินในสิ่งที่มีประโยชน์
ต่อร่างกาย หรือสิ่งที่ร่างกายต้องการ

ให้มองมุมนี้

ไม่ดื่มแล้วจะเมาได้ยังไง

ไม่กินก็ไม่ขี้

ไม่เสพไม่สูบก็ไม่ติด

ไม่เกิดก็ไม่ตาย

สถิติสะพรึง! ป.ป.ส.เผย แค่ 3 เดือนจับยาบ้า 200 ล้านเม็ด

https://www.khaosod.co.th/wp-content/up ... 96x408.jpg

ล้างยาบ้าร่วงถนน รถเหยียบแตกแดงเถือกกว่า 6 หมื่นเม็ด

https://www.khaosod.co.th/wp-content/up ... 96x392.jpg

เรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ หลวงพ่อจะไม่เน้น ท่านจะเน้นในเรื่องของความไม่ประมาทมากกว่า หลวงพ่อจะบอก “ถึงเอาของกูไป มึงประมาทกูก็กระโดดลงแล้ว” เวลาหลวงพ่อเจิมรถหลวงพ่อจะเขียนไว้เลยว่า “อย่าประมาท” แล้วก็จะเขียนยันต์ส่วนตัวของหลวงพ่อ แต่ที่เห็นชัดแน่ๆ คืออย่าประมาทอันนี้หลวงพ่อจะใช้และสอนลูกศิษย์ทุกคนอย่าประมาทในการใช้ชีวิต แม้กระทั่งพระ

การชนะตนเอง

หลวงพ่อให้สัมภาษณ์ภายหลังจากกลับจากรักษาอาการอาพาธ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี

“กูดีใจที่ ... ทุกคนมาต้อนรับและห่วงมาตลอด ทั้งที่ไปเยี่ยมกูที่โรงพยาบาล กูไม่ตายด๊อก ก็ยังอยู่กับพวกมึงได้อยู่ แต่กูขอให้พวกมึงที่ห่วงใยกูจริงๆ แล้วละก็ก็จงหมั่นสร้างความดี รักษาศีล มีเมตตาธรรม สร้างบุญกุศลให้มากๆ กูช่วยพวกมึงไม่ได้ด๊อก อย่างเก่งกูก็ไปส่งพวกมึงยังเมรุได้เท่านั้น ถ้าทำดีก็ได้ไปสู่สุคติ ถ้าไม่ดีก็ไปสู่ทุคติ ถ้าบอกให้ทำดีจะไปสู่สุคติ
เรื่องหมอห้ามไม่ให้สูบบุหรี่นั้น ความจริงก็ไม่ต้องให้หมอมาพูดด๊อก เพราะกูดูดยามาแล้วถึง ๖๒ ปี กูจะละก็ได้ ระยะเวลา ๖๒ ปี กูดูดยาดีๆ มวนโตๆ หมอให้กูละ กูก็จะละ แต่ถ้าใครมาหากู จะดูดกูก็ไม่ว่าอะไร”

(หน้า ๓๗)


คำพูด “กู มึง”

หลวงพ่อให้เหตุผลของการพูดคำนี้ว่า “กูแสดงให้รู่ว่า กูมีความจริงใจกั๊บพวกมึง แสดงความเป็นกันเองรักใคร่ ซานิ้ดสนม ไม่ต่องมีพิธีรีตอง พูดตรงไปตรงมา อย่างกู เรียกว่า ไอ้นาย ก็แปลว่า กูรักกูเอ็นดู เหมือนลูกเหมือนหลาน ไม่เกี่ยวกั๊บยศฐาบรรดาซั๊กอะไร”

(หน้า ๑๘)

นี้ก็เหตุเกิดจากความไม่รู้จักพอ อยากได้มากๆ
มีเงินทองมากๆ ใจเลยขาดความเมตตา ทุกชีวิตล้วน
แต่รักสุขเกียจทุกข์ ควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง