วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ย. 2025, 06:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2019, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
[๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬาวัน (ป่าเป็นที่นางยักษ์ชื่อเภสกฬา
อยู่อาศัย) อันเป็นสถานที่ให้อภัยแก่หมู่มฤค ใกล้เมืองสุงสุมารคิระในภัคคชนบท ฯลฯ

ครั้งนั้นแล คฤหบดีชื่อนกุลบิดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์เป็นผู้แก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลผ่านวัยแล้วโดยลำดับ มีกายกระสับกระส่าย เจ็บป่วยเนืองๆ พระพุทธเจ้าข้า ก็ข้าพระองค์มิได้เห็นพระผู้มีพระภาคและภิกษุทั้งหลาย ผู้ให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดสั่งสอนข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดพร่ำสอนข้าพระองค์ ด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระองค์ตลอดกาลนานเถิด.

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

นั่นถูกแล้วๆ คฤหบดี อันที่จริง กายนี้กระสับกระส่าย เป็นดังว่าฟองไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

ดูกร คฤหบดี ก็บุคคลผู้บริหารกายนี้อยู่ พึงรับรองความเป็นผู้ไม่มีโรคได้แม้เพียงครู่เดียว จะมีอะไรเล่า นอกจากความเป็นคนเขลา



ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๑ - ๒๓. หน้าที่ ๑.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_pa ... agebreak=1



จะเหมือนกระทู้นอนไม่สวยไหมเนี่ย

ไหนหยิบประเด็นมาถกกันหน่อยสิ


ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

s006 เอ่?



นั่นแหละฮ่ะ ปัญหาของคนอ่านพระสูตร (ซึ่งเขาแปลมาให้อ่าน) เขาเรียกว่าหลงสำนวนภาษา :b32: แล้วก็พากันตีความไปต่างๆ


s006 เอ่?

ให้เมเปิดประเด็น เปิดแล้ว

ลุงกรัชกายตอบไม่ตรงคำถาม

เอ่? s006


อ๋อ เปิดแล้วหรอ "ไข่อาราย ไม่มีเปลือก" ก็ไข่ต้มที่เขาปลอกเปลือกให้แล้วไง ไม่เคยเห็นหรอ แม่ค้าปอกใส่ถุงให้เรียบร้อย :b1:


นี่เป้นตัวอย่างน๊ะคะ
แถมไปตัดต่อ คำถามอีก ที่ถามว่า

ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

ลุงกรัชกาย ส่ายจิต เดินไปหาไข่ที่ตลาดมาส่งคำตอบ
แต่ก็ตอบผิด เพราะ ไข่นั้น เปลือกหุ้ม ไม่ได้หนังหุ้ม

ตอบผิด แถมตัดต่อคำถามอีก

นั่นแหละ จิตส่าย ไปหาไข่ หนึ่งคืนเต็มๆ น๊ะค๊ะ

tongue


นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่เอา ถ้ายังงั้น ไข่อะไรเอ้า


นี่ไงค๊ะ เมยกคุณลุงกรัชกายมาให้
เพื่อเป็นตัวอย่าง

ว่า ลุงกรัชกาย เจอไปแค่คำถามเดียว
จิตส่าย ไปหาแม่ค้า ไปหาไข่ต้ม ส่ายไหนต่อไหนๆ
คิดวนๆๆ อยู่ไปแต่เรื่องไข่


เพื่อนๆ พี่ๆ ลุงป้าน้าอา สมาชิกที่กำลังฝึกปฎิบัติ หรือผู้ปฎิบัติมาแล้ว
จะได้เห็นกันชัดเจนขึ้น ๆ

ว่าแค่คำถามเดียว ทำให้ส่ายไปถึงทรวงใน ยังไง ลักษณะไหน
tongue



มันต้องคิด จิต ต้องคิด คิดหาเหตุผล ไม่ใช่จมดิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2019, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2175

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
[๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬาวัน (ป่าเป็นที่นางยักษ์ชื่อเภสกฬา
อยู่อาศัย) อันเป็นสถานที่ให้อภัยแก่หมู่มฤค ใกล้เมืองสุงสุมารคิระในภัคคชนบท ฯลฯ

ครั้งนั้นแล คฤหบดีชื่อนกุลบิดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์เป็นผู้แก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลผ่านวัยแล้วโดยลำดับ มีกายกระสับกระส่าย เจ็บป่วยเนืองๆ พระพุทธเจ้าข้า ก็ข้าพระองค์มิได้เห็นพระผู้มีพระภาคและภิกษุทั้งหลาย ผู้ให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดสั่งสอนข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดพร่ำสอนข้าพระองค์ ด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระองค์ตลอดกาลนานเถิด.

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

นั่นถูกแล้วๆ คฤหบดี อันที่จริง กายนี้กระสับกระส่าย เป็นดังว่าฟองไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

ดูกร คฤหบดี ก็บุคคลผู้บริหารกายนี้อยู่ พึงรับรองความเป็นผู้ไม่มีโรคได้แม้เพียงครู่เดียว จะมีอะไรเล่า นอกจากความเป็นคนเขลา



ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๑ - ๒๓. หน้าที่ ๑.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_pa ... agebreak=1



จะเหมือนกระทู้นอนไม่สวยไหมเนี่ย

ไหนหยิบประเด็นมาถกกันหน่อยสิ


ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

s006 เอ่?



นั่นแหละฮ่ะ ปัญหาของคนอ่านพระสูตร (ซึ่งเขาแปลมาให้อ่าน) เขาเรียกว่าหลงสำนวนภาษา :b32: แล้วก็พากันตีความไปต่างๆ


s006 เอ่?

ให้เมเปิดประเด็น เปิดแล้ว

ลุงกรัชกายตอบไม่ตรงคำถาม

เอ่? s006


อ๋อ เปิดแล้วหรอ "ไข่อาราย ไม่มีเปลือก" ก็ไข่ต้มที่เขาปลอกเปลือกให้แล้วไง ไม่เคยเห็นหรอ แม่ค้าปอกใส่ถุงให้เรียบร้อย :b1:


นี่เป้นตัวอย่างน๊ะคะ
แถมไปตัดต่อ คำถามอีก ที่ถามว่า

ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

ลุงกรัชกาย ส่ายจิต เดินไปหาไข่ที่ตลาดมาส่งคำตอบ
แต่ก็ตอบผิด เพราะ ไข่นั้น เปลือกหุ้ม ไม่ได้หนังหุ้ม

ตอบผิด แถมตัดต่อคำถามอีก

นั่นแหละ จิตส่าย ไปหาไข่ หนึ่งคืนเต็มๆ น๊ะค๊ะ

tongue


นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่เอา ถ้ายังงั้น ไข่อะไรเอ้า


นี่ไงค๊ะ เมยกคุณลุงกรัชกายมาให้
เพื่อเป็นตัวอย่าง

ว่า ลุงกรัชกาย เจอไปแค่คำถามเดียว
จิตส่าย ไปหาแม่ค้า ไปหาไข่ต้ม ส่ายไหนต่อไหนๆ
คิดวนๆๆ อยู่ไปแต่เรื่องไข่


เพื่อนๆ พี่ๆ ลุงป้าน้าอา สมาชิกที่กำลังฝึกปฎิบัติ หรือผู้ปฎิบัติมาแล้ว
จะได้เห็นกันชัดเจนขึ้น ๆ

ว่าแค่คำถามเดียว ทำให้ส่ายไปถึงทรวงใน ยังไง ลักษณะไหน
tongue



มันต้องคิด จิต ต้องคิด คิดหาเหตุผล ไม่ใช่จมดิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว :b12:


ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2019, 21:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
[๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เภสกฬาวัน (ป่าเป็นที่นางยักษ์ชื่อเภสกฬา
อยู่อาศัย) อันเป็นสถานที่ให้อภัยแก่หมู่มฤค ใกล้เมืองสุงสุมารคิระในภัคคชนบท ฯลฯ

ครั้งนั้นแล คฤหบดีชื่อนกุลบิดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์เป็นผู้แก่เฒ่าเป็นผู้ใหญ่ ล่วงกาลผ่านวัยแล้วโดยลำดับ มีกายกระสับกระส่าย เจ็บป่วยเนืองๆ พระพุทธเจ้าข้า ก็ข้าพระองค์มิได้เห็นพระผู้มีพระภาคและภิกษุทั้งหลาย ผู้ให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดสั่งสอนข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดพร่ำสอนข้าพระองค์ ด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพระองค์ตลอดกาลนานเถิด.

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

นั่นถูกแล้วๆ คฤหบดี อันที่จริง กายนี้กระสับกระส่าย เป็นดังว่าฟองไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

ดูกร คฤหบดี ก็บุคคลผู้บริหารกายนี้อยู่ พึงรับรองความเป็นผู้ไม่มีโรคได้แม้เพียงครู่เดียว จะมีอะไรเล่า นอกจากความเป็นคนเขลา



ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ บรรทัดที่ ๑ - ๒๓. หน้าที่ ๑.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_pa ... agebreak=1



จะเหมือนกระทู้นอนไม่สวยไหมเนี่ย

ไหนหยิบประเด็นมาถกกันหน่อยสิ


ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

s006 เอ่?



นั่นแหละฮ่ะ ปัญหาของคนอ่านพระสูตร (ซึ่งเขาแปลมาให้อ่าน) เขาเรียกว่าหลงสำนวนภาษา :b32: แล้วก็พากันตีความไปต่างๆ


s006 เอ่?

ให้เมเปิดประเด็น เปิดแล้ว

ลุงกรัชกายตอบไม่ตรงคำถาม

เอ่? s006


อ๋อ เปิดแล้วหรอ "ไข่อาราย ไม่มีเปลือก" ก็ไข่ต้มที่เขาปลอกเปลือกให้แล้วไง ไม่เคยเห็นหรอ แม่ค้าปอกใส่ถุงให้เรียบร้อย :b1:


นี่เป้นตัวอย่างน๊ะคะ
แถมไปตัดต่อ คำถามอีก ที่ถามว่า

ไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้

อันนี้ไข่อารายค๊ะ ?
ไม่มีเปลือก

ลุงกรัชกาย ส่ายจิต เดินไปหาไข่ที่ตลาดมาส่งคำตอบ
แต่ก็ตอบผิด เพราะ ไข่นั้น เปลือกหุ้ม ไม่ได้หนังหุ้ม

ตอบผิด แถมตัดต่อคำถามอีก

นั่นแหละ จิตส่าย ไปหาไข่ หนึ่งคืนเต็มๆ น๊ะค๊ะ

tongue


นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่เอา ถ้ายังงั้น ไข่อะไรเอ้า


นี่ไงค๊ะ เมยกคุณลุงกรัชกายมาให้
เพื่อเป็นตัวอย่าง

ว่า ลุงกรัชกาย เจอไปแค่คำถามเดียว
จิตส่าย ไปหาแม่ค้า ไปหาไข่ต้ม ส่ายไหนต่อไหนๆ
คิดวนๆๆ อยู่ไปแต่เรื่องไข่


เพื่อนๆ พี่ๆ ลุงป้าน้าอา สมาชิกที่กำลังฝึกปฎิบัติ หรือผู้ปฎิบัติมาแล้ว
จะได้เห็นกันชัดเจนขึ้น ๆ

ว่าแค่คำถามเดียว ทำให้ส่ายไปถึงทรวงใน ยังไง ลักษณะไหน
tongue



มันต้องคิด จิต ต้องคิด คิดหาเหตุผล ไม่ใช่จมดิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว :b12:


ดูกรคฤหบดี เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า

เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

ดูกรคฤหบดี ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล.

tongue


แล้วไงต่อ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2019, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 มี.ค. 2019, 21:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2175

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)


s006 เอ่?

ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้

อันนี้ไข่อัลไรคะ
มีเปลือกหุ้ม

s006 เอ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2019, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)


s006 เอ่?

ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้

อันนี้ไข่อัลไรคะ
มีเปลือกหุ้ม

s006 เอ่


อ้างคำพูด:
อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่


อ่านหนังสือไม่เป็น เป็นคำเปรียบเทียบ เห็นดุจไหม คิกๆๆ จับความตั้งแต่ต้นบรรทัดมาดิ

ร่างกายคนเราเนี่ยมันอ่อนแอเปราะบางดุจไข่ ประดุจไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นโรคก็รุมเร้าเป็นนั่นเป็นนี่สาระพัด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 มี.ค. 2019, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2175

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)


s006 เอ่?

ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้

อันนี้ไข่อัลไรคะ
มีเปลือกหุ้ม

s006 เอ่


อ้างคำพูด:
อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่


อ่านหนังสือไม่เป็น เป็นคำเปรียบเทียบ เห็นดุจไหม คิกๆๆ จับความตั้งแต่ต้นบรรทัดมาดิ

ร่างกายคนเราเนี่ยมันอ่อนแอเปราะบางดุจไข่ ประดุจไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นโรคก็รุมเร้าเป็นนั่นเป็นนี่สาระพัด

ลุงไข่ส่าย เริ่มอ่านเป็นแล้ว เย่ๆๆ

นี่แหละ เมแนะนำมาไม่รู้กี่กระทู้แระ
ว่าให้ไปหัดอ่านหัดเรียน หัดศึกษา
ยิ่งบาลีแปลออกมาเป็นนัยะ มีเป็นพันๆนัย

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2019, 11:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)


s006 เอ่?

ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้

อันนี้ไข่อัลไรคะ
มีเปลือกหุ้ม

s006 เอ่


อ้างคำพูด:
อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่


อ่านหนังสือไม่เป็น เป็นคำเปรียบเทียบ เห็นดุจไหม คิกๆๆ จับความตั้งแต่ต้นบรรทัดมาดิ

ร่างกายคนเราเนี่ยมันอ่อนแอเปราะบางดุจไข่ ประดุจไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นโรคก็รุมเร้าเป็นนั่นเป็นนี่สาระพัด

ลุงไข่ส่าย เริ่มอ่านเป็นแล้ว เย่ๆๆ

นี่แหละ เมแนะนำมาไม่รู้กี่กระทู้แระ
ว่าให้ไปหัดอ่านหัดเรียน หัดศึกษา
ยิ่งบาลีแปลออกมาเป็นนัยะ มีเป็นพันๆนัย

tongue



เพิ่งนึกได้ กายรวมสะโพกด้วยไหม คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2019, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2175

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โรคมี ๒ อย่าง คือ โรคทางกาย กับ โรคทางใจ

"ภิกษุทั้งหลาย โรคมีอยู่ ๒ ชนิด ดังนี้ คือ โรคทางกาย ๑ โรคทางใจ ๑ สัตว์ทั้งหลาย ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลาทั้งปี ก็มีปรากฏอยู่ ผู้ที่ยืนยันได้ว่า ตน ไม่มีโรคทางกายเลยตลอดเวลา ๒ ปี...๓ ปี...๔ ปี...๕ ปี...๑๐ ปี...๒๐ ปี...๓๐ ปี...๔๐ ปี...๕๐ ปี...๑๐๐ ปี ก็มีปรากฏอยู่ แต่สัตว์ ที่ยืนยันได้ว่า ตนไม่มีโรคทางจิตใจเลย แม้ชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่งนั้น หาได้ยากในโลก ยกเว้นแต่พระขีณาสพทั้งหลาย" (องฺ.จตุกฺก.21/157/191)

พระสารีบุตร: แน่ะท่านคฤหบดี อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านก็บริสุทธิ์เปล่งปลั่ง วันนี้ ท่านได้ฟังธรรมีกถา ในที่เฉพาะหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือ ?

คฤหบดีกุลบิดา : พระคุณเจ้าผู้เจริญ ไฉนจะไม่เป็นเช่นนี้เล่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดข้าพเจ้าแล้ว ด้วยธรรมีกถา

พระสารีบุตร: พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงหลั่งน้ำอมฤตรดท่าน ด้วยธรรมีกถาอย่างไร?

คฤหบดี: พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาทนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ชราแล้ว เป็นคนแก่เฒ่า ล่วงกาลผ่านวัยมานาน ร่างกายก็มีโรครุมเร้า เจ็บป่วยอยู่เนืองๆ อนึ่งเล่า ข้าพระองค์มิได้ มีโอกาส เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระภิกษุทั้งหลาย ผู้ช่วยให้เจริญใจอยู่เป็นนิตย์ ขอพระผู้มีพระภาคได้โปรดประทานโอวาทสั่งสอนข้าพระองค์ ในข้อธรรมที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพระองค์ชั่วกาลนาน

พระพุทธเจ้า: ถูกแล้ว ท่านคฤหบดี เป็นเช่นนั้น อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้ ก็ผู้ใด ที่บริหารร่างกายนี้อยู่ จะยืนยัน ว่า ตนไม่มีโรคเลย แม้ชั่วครู่หนึ่ง จะมีอะไรเล่า นอกจากความเขลา เพราะเหตุฉะนั้นแล ท่านคฤหบดี ท่านพึงสำเหนียก ว่า ถึงแม้กายของเราจะมีโรครุมเร้า
แต่ใจของเราจักไม่มีโรครุมเร้าเลย”

พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงหลั่งอมฤตรดข้าพเจ้า ด้วยธรรมีกถา ดังนี้แล (สํ.ข.17/2/2)


s006 เอ่?

ดุจดังว่าฟองไข่ ซึ่งผิวเปลือกห่อหุ้มไว้

อันนี้ไข่อัลไรคะ
มีเปลือกหุ้ม

s006 เอ่


อ้างคำพูด:
อันร่างกายนี้ ย่อมมีโรครุมเร้า ดุจดังว่าฟองไข่


อ่านหนังสือไม่เป็น เป็นคำเปรียบเทียบ เห็นดุจไหม คิกๆๆ จับความตั้งแต่ต้นบรรทัดมาดิ

ร่างกายคนเราเนี่ยมันอ่อนแอเปราะบางดุจไข่ ประดุจไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นโรคก็รุมเร้าเป็นนั่นเป็นนี่สาระพัด

ลุงไข่ส่าย เริ่มอ่านเป็นแล้ว เย่ๆๆ

นี่แหละ เมแนะนำมาไม่รู้กี่กระทู้แระ
ว่าให้ไปหัดอ่านหัดเรียน หัดศึกษา
ยิ่งบาลีแปลออกมาเป็นนัยะ มีเป็นพันๆนัย

tongue



เพิ่งนึกได้ กายรวมสะโพกด้วยไหม คิกๆๆ


อ่ะ คุณลุงกรัชกาย เนี่ย ความเข้าใจไม่ปะติดปะต่อกันเร๊ย
ออกมาเป็นพีเรียต

กายน่ะ รวม สะโพกด้วย หน้า หลัง ข้างๆ สะโพก รวมหมด
ผม ขน หนัง .....
เรียกว่ากาย
เข้าใจยังค๊ะ

tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2019, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
เพิ่งนึกได้ กายรวมสะโพกด้วยไหม คิกๆๆ



อ้างคำพูด:
โลกสวย
อ่ะ คุณลุงกรัชกาย เนี่ย ความเข้าใจไม่ปะติดปะต่อกันเร๊ย
ออกมาเป็นพีเรียต

กายน่ะ รวม สะโพกด้วย หน้า หลัง ข้างๆ สะโพก รวมหมด
ผม ขน หนัง .....
เรียกว่ากาย
เข้าใจยังค๊ะ


ถ้ายังงั้น ก็เชื่อแล้วว่ามันส่ายได้ กายส่าย สะโพกส่าย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2019, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2175

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
เพิ่งนึกได้ กายรวมสะโพกด้วยไหม คิกๆๆ



อ้างคำพูด:
โลกสวย
อ่ะ คุณลุงกรัชกาย เนี่ย ความเข้าใจไม่ปะติดปะต่อกันเร๊ย
ออกมาเป็นพีเรียต

กายน่ะ รวม สะโพกด้วย หน้า หลัง ข้างๆ สะโพก รวมหมด
ผม ขน หนัง .....
เรียกว่ากาย
เข้าใจยังค๊ะ


ถ้ายังงั้น ก็เชื่อแล้วว่ามันส่ายได้ กายส่าย สะโพกส่าย :b32:


คุณลุงกรัชกาย ก็ลอง แหวก แยกอวัยวะ ทีละชิ้น ๆๆ ดูสิคร๊า


อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้อย่างนี้
อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา
อะโธ เกสะมัตถกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป
ตะจะ ปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ
ปูโร นานัปปะการัสสะ อสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด
มีประการต่างๆ อย่างนี้แลฯ

คริคริ s005

อ่อ เม กาโย บันทัดบน ไม่ใช่อวัยวะเม น๊ะ
ไปแยกของลุงเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร