มนุษย์ทั่วๆไปมักคิดติดอยู่กับอดีต , อนาคต บ้างคิดถอยหลังไปหลายร้อยชาติ บ้างก็คิดออกหน้าไปเป็นชาติ ๆ ตรงกลางๆ คือ ปัจจุบันชาติเดี๋ยวนี้ข้าม ทั้งๆที่เป็นเรื่องเฉพาะหน้าเป็นเรื่องสำคัญ

เรื่องนี้พระพุทธเจ้าว่ายังไง? ลองพิจารณา คคห.ข้างล่าง

ตัดมาจากกาลามสูตร เพียงเท่านี้ก็เห็นแนวคิดของพระพุทธศาสนาดังว่าแล้ว ถ้าไม่แจ้งใจค่อยว่ากันต่ออีก



ในเรื่องความเชื่อทางจริยธรรม เกี่ยว กับ ชาตินี้ ชาติหน้า ก็มีความในตอนท้ายของสูตร เดียวกันนั้นว่า

“กาลามชนทั้งหลาย อริยสาวกนั้น ผู้มีจิตปราศจากเวรอย่างนี้
มีจิตปราศจากความเบียดเบียนอย่างนี้
มีจิตไม่เศร้าหมองอย่างนี้
มีจิตบริสุทธิ์อย่างนี้ ย่อมได้ประสบความอุ่นใจถึง ๔ ประการ ตั้งแต่ในปัจจุบันนี้แล้ว คือ

“ถ้าปรโลกมีจริง ผลวิบากของกรรมที่ทำไว้ดีทำไว้ชั่วมีจริง การที่ว่า เมื่อเราแตกกายทำลายขันธ์ไปแล้ว จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๑ ที่เขาได้รับ

“ถ้าปรโลกไม่มี ผลวิบากของกรรมที่ทำไว้ดี ทำไว้ชั่วไม่มี เราก็ครองตนอยู่โดยไม่มีทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน เป็นสุขอยู่ แต่ในชาติปัจจุบันนี้แล้ว” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๒ ที่เขาได้รับ

“ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็เป็นอันทำไซร้ เรามิได้คิดการชั่วร้ายต่อใครๆ ทุกข์ที่ไหนจักมาถูกต้องเราผู้มิได้ทำบาปกรรมเล่า” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๓ ที่เขาได้รับ

“ก็ถ้า เมื่อคนทำความชั่ว ก็ไม่ชื่อว่าเป็นอันทำไซร้ ในกรณีนี้ เราก็มองเห็นตนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งสองด้าน” นี้เป็นความอุ่นใจประการที่ ๔ ที่เขาได้รับ

คริคริ
นั่นพระพุทธองค์ทรงแสดง แก่ชนที่ยังไม่เคยรู้เรื่องราวอะไรเลยในพระศาสนา
ว่าสวรรค์มีจริงหรือไม่ นรกมีจริงหรือไม่

ที่เมโลกสวยว่า นรก สวรรค์มีจริงเนี่ย รู้ได้ยังไง เอ้า

ผูกคอเสียชีวิต

https://www.khaosod.co.th/wp-content/up ... 8%A12.jpeg

ผู้ซึ่งยังมีลมหายใจอยู่ ล่วงรู้ไม่ได้เลยว่าผู้สิ้นชีวิตแล้วไปไหนยังไงเกิดอีกไหมหรือไม่เกิด ไปตกนรกขึ้นสวรรค์อะไรยังไงไม่รู้มืดแปดด้านสิบสองด้าน เพราะฉะนั้น ศาสนาจึงมีทางออกให้ให้หายทุกข์หายกังวลดังกล่าวนั้น ตอนหนึ่ง อีกตอนหนึ่ง ก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังทำสิ่งที่เรียกกันว่าทำบุญแล้วก็อุทิศไปให้ ไม่รู้ล่ะแต่ก็เพื่อความสบายใจ เชื่อว่าทำแล้วผู้นั้นผู้นี้จะได้รับสิ่งดีๆนี้

เมโลกสวยว่าไง ไหนเถียงลุงหน่อยสิ

คริคริ

รู้ได้สิค๊ะ
ตัวอย่าง ลุงกรัชกาย ก่อนตายทำอกุศลกรรมไว้มาก ก็เกิดในที่อฐานะ รับบุญกุศลไม่ได้

คำถามสั้นๆ แต่คนคิดกันมาหลายพันปีแล้ว คิดกันจนป่านนี้ก็ยังคิดกันอยู่ ยังข้อสรุปไม่ได้



ครั้งพุทธกาลก็มีครูทั้ง 6
ครู 6 คนก็มี 6 นรก 6 สวรรค์ พูดโน้มน้าวให้นับถือลัทธิของตนจนชาวกาลามชนมึนหัวเชื่อใครดีฟ่ะ ครั้นพวกเขาได้พบกับพระพุทธเจ้าก็ถามทำนองเดียวกัน พระพุทธเจ้าก็ฉีกแนวออกไปเลย

แล้วกาลต่อมา ลูกหลานชาวกาลามะ ก็เปลี่ยนไปนับถือฮินดู พราหมณ์ และอิสลาม

พุทธธรรมตรงไปตรงมาที่ชีวิตนี้ จึงดูเหมือนฝืนความรู้สึกคน

คริคริ

เค้าเรียกว่า ถูกจริต สำหรับบางคนเท่านั้น

เมโลกสวยเถียงลุงสิ บอกไม่เชื่อดื้อจริงๆคนอารัย

ค่าเช่าแค่ไม่กี่เดือน
ญาติพลี [บำรุงญาติ] ไม่ช่วยเรย

เมโลกสวยอีกแระ ยามจนแม้แต่มาตรน้ำก็ถูกตัด ยามอับจนแม้แต่พระเอกละครก็ค้างค่าเช่า สุดท้ายจบชีวิตลาโลก