สวดมนต์ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคืออะไร
ต้องเข้าใจความหมายของคำว่าสวดมนต์ก่อนค่ะ
สวด แปลว่า ท่อง บ่น สาธยาย ด้วยความเข้าใจถูกต้อง
มนต์ แปลว่า ปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
https://youtu.be/Es_26Xp2ojU

นี่นี่ไปเปิดพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตย์ฯ มาเลยนะ

สวด ก. ว่าเป็นทำนองอย่างพระสวดมนต์; (ปาก) นินทาว่าร้าย, ดุด่า, ว่ากล่าว

มนต์, มนตร์ น. คำศักดิ์สิทธิ์, คำสำหรับสวด, คำสำหรับเสกเป่า. (ป. มนฺต. ส. มนฺตฺร)

คิดว่า คุณโรสคงเคยเห็นหนังสือสวดมนต์นะ บทสำหรับสวดทั้งนั้นเรียกว่า มนต์

สรุปทุกคลิปแล้ว เป็นการจับแพะชนแกะ เอารถชนกับเรือ รถชนกับเรือ บางคนคิดว่าเป็นไปได้ไงรถชนกับเรือ รถวิ่งบนบก เรือวิ่งในน้ำ เป็นไปได้ เมื่อปี 54 (ถ้าจำไม่ผิด) น้ำทะลักออกจากเขื่อนท่วมเมืองใหญ่ ถนนหลายๆสายน้ำท่วม รถเล็กวิ่งไม่ได้ วิ่งได้แต่รถใหญ่ล้อสูงๆ ผู้คนจะออกจากบ้านไปทำงาน ก็นั่งเรือไปตามแนวถนน ทีนี้ รถใหญ่กับเรือวิ่งสวนกันไปมา ก็ชนกันได้ เพราะฉะนั้น คุณแม่สุจิน+คุณโรสพูดอะไรก็เหมือนจับแพะชนแกะ จับเรือกับรถชนกัน ดังนี้แล.

ยืนยันว่ามนต์แปลงมาจากมันตราแปลว่าปัญญา
เหมือนคำว่าหัวใจใช้ได้หลายคำเช่นหทัย หฤทัย ฤทัย
จะพูดอะไรใครก็พูดได้แต่ความจริงไม่เป็นตามที่พูด
เพราะความจริงตรงตามสัจจะกำลังเกิดดับนับไม่ถ้วน
โจรพูดว่าฉันเป็นคนดีรักลูกรักเมียสงเคราะห์ญาติพี่น้อง
พระภิกษุที่รับเงินคือเศรษฐีหัวโล้นคิดว่าตัวเองถือศีล227นับข้อ
โจรกะพระภิกษุรับเงินทำด้วยไม่มีหิริและไม่มีโอตัปปะตรงต่อสัจจะมั๊ย
ส่วนศีลตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือธัมมะประเภท1ในเจตสิก50ประเภทค่ะ
ศีลแปลว่าเป็นผู้มีปกติตามปกติตามการสะสมของจิตนะคะ(ดีคือรู้/ชั่วคือไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด)
ฟังแล้วก็ดูความประพฤติของบุคคลต่างๆรวมถึงตนเองให้เข้าใจถูกตามเดี๋ยวนี้ว่ากำลังทำดีหรือชั่วตรงๆเลยค่ะไม่มีอ้อมNOW

นิครนถ์เดินแก้ผ้าโทงๆ เขายังคิดว่านี่แหละขั้นนิพพานเลย

คุณโรสพูด หทัย หฤทัย ฤทัย ทำให้ถึงคลิปนั้นเลย ที่พูดมาเป็นภาษาสันสกฤต เอางี้

หทัย หฤทัย ฤทัย จิต ใจ มน มโน มานัส วิญญาณ (ตอนนี้นึกได้เท่านี้) เหมือนกันโดยอรรถ ต่างกันโดย พยัญชนะ มันก็จิต ก็ใจทั้งเพ ทั้งเกาะเสม็ด

ศาสนาคือคำสอน
ศาสดาคือเจ้าของศาสนา
มีศรัทธาฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม
หรือฟังแต่คำของเกจิ(แปลว่าอื่น)อาจารย์คะ
พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้ายกคำสอนคือพระธรรมขึ้นแทนตัวพระองค์
บวชเพื่อทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่ไม่ฟัง
อยากรับเงินก็เรียกเงินว่าปัจจัยหรือคะ555
โอ๊ยออกจะบอกตร๊งตรงไม่ตาสว่างเลยหรือ
จะหน้ามืดตามัวไปถึงไหนคนที่ฟังคำสอนเข้าใจ
เขาออกมาประกาศให้รู้สึกตัวและละอายแก่ใจงัยล่ะคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้ายิ่งเปิดเผยยิ่งรุ่งเรืองงุบงิบรับเงินมานานจนติดนิสัยไม่ฟังคำสอน555
https://youtu.be/KR9s2VDu5gA

แล้วสมัยนี้ จะให้เขาทำยังไง ตย. ค่าก่อสร้างโบสถ์ วิหาร ลานเจดีย์ ค่าน้ำค่าไฟแต่ละเดือนๆ ค่าหมอ เมื่อเวลาภิกษุเจ็บป่วย มีคนมีองค์กรอื่นช่วยชำระค่าใช้จ่ายให้วัดให้ภิกษุเหล่านั้นไหม ตอบ

เขาให้บวชไปชำระ
ล้างกิเลสออกไม่ใช่เหรอ
แล้วมีแต่หาเงินก่อสร้างกิเลส
ทำแบบนั้นกันทำไมล่ะประเทศชาติ
สูญเสียทรัพยากรไปมากมายเศรษฐกิจเสียหาย
ก่อสร้างแต่สิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนหมู่มาก
บวชคือสละแล้วอาคารบ้านเรือนแล้วสร้างอะไรขึ้นมาเป็นภาระล่ะ
พระพุทธเจ้าให้ลดภาระให้มีบาตร1ใบฉันได้ไม่เกินเที่ยงก็ทิ้งหมดเลย
ผ้าก็มีแค่3ผืนเท่านั้นจะถือกุญแจกุฏิไปทำไมถ้ามีแค่นั้นเห็นกิเลสไหมคิดเป็นไหม
บวชแล้วไม่ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจสอนชาวบ้านก็สอนผิดๆพาทำผิดๆเพิ่มแต่กิเลส
อายฟ้าดินไหมเนี่ยมีแต่ผู้หญิงเข้าใจคำสอนและพยายามถามให้รู้สึกสำนึกคิดไม่เป็นกันเลยหรือไงคะ555
https://youtu.be/S6gX3sbPhA8

การบวชคือการฝึกหัด กาย วาจา ใจ แล้วจะให้เขาอยู่ที่ไหน อยู่ยังไง ไหนหาทางออกประเด็นนี้สิ

กิเลส คือ อะไร แล้วชำระด้วยวิธีใด ไหนลองแนะนำสิ ว่าไป

คุยมาตั้งนานปัญญาไม่เกิดจริงๆเพราะขาดการฟังเพื่อพิจารณาไตร่ตรองความจริงไงคะ

กิเลส เป็น ภาษาอะไรคะ บาลีค่ะ แปลเป็นไทยว่า มีความไม่รู้ที่จิตเป็นปกติเลย
เห็นไม่มีคิดปนแค่มีสีกระทบตาเฉยๆแล้วดับทันทีมีภวังค์คั่น2ต่อก่อนดับหายในจิต
ตอนคิดนึกถึงจะมืการตรึกตรองนึกคิดแต่คุณขาดการพึ่งคิดตามคำสอนจึงมีกิเลส
ก็จิตเห็นทำหน้าที่เห็นอย่างเดียวจิตแต่ละ1ดวงตรง1ขณะไม่ทำงานปนกันนะคะคุณ
จิตเห็นเกิดทางตาได้ยินเกิดทางหูจิตอื่นๆเกิดดับตรงทางตั้งมั่นตรงแต่ละทางดับทีละทาง
จิตคิดนึกเกิดทางมโนทวารวิถีไม่มีปนกับเห็นหรือได้ยินหรือได้กลิ่นหรือรับรสหรือสัมผัส
จิตแต่ละ1ขณะเกิดแล้วดับทันทีไม่ปนกันเลยค่ะทีนี้คิดความจริงที่ตัวเองมีดูสิคะตามคำสอนนะ

ได้คำตอบหนึ่งล่ะ สาธุให้ 1 ครั้งก่อน

ยังงั้นแล้วจะชำระด้วยวิธีใดอย่างไร ตอบอีกจะให้สาธุอีก

ปัญญา
ไม่ใช่เรา
ไม่เคยจำถูก
ว่าไม่มีเรามีแต่ธัมมะ
ปัญญาก็ไม่ใช่เราเกิดได้ตามลำดับ
ถ้าไม่คิดไตร่ตรองตามจะคิดถูกไหมว่าไม่มีเราก็ยังมีเราอยู่
ฟังให้เกิดปัญญาเข้าใจตามคำสอนจนกว่าจะจำได้เพราะสมาธิเกิดกับทุกขณะจิตมีแล้วไม่ได้ทำ
ต้องพึ่งการคิดไตร่ตรองตามคำสอนแต่ไม่ใข่การมีตัวตนไปคิดทำเองต้องฟังให้รู้ตามคำสอนได้
จำเป็นตัวตรเราคิดพูดทำมาตั้งแต่เกิดจนบัดนี้ไม่เคยรู้ไม่เคยจำถูกตามคำสอนเลยจำแต่มีตัวตนไปทำ
ฟังเพื่อให้จิตละคลายความอยากไปทำและจำได้แม่นยำตรงปัจจุบันว่าธัมมะใดที่กำลังมีให้ระลึกถูกตัวตนตามได้
ฟังจากใครก็ได้ที่กล่าวความจริงให้เข้าใจถูกตัวตนตรงสัจจะที่กำลังปรากฏว่ามีเดี๋ยวนี้ตรงตามคำวาจาสัจจะค่ะ

แนะนำฟังเพื่อเข้าใจ
ไม่ใช่ฟังไปคิดขัดขัดแย้งไป
เพราะการฟังต้องคิดตามตรงคำ
ตรงความหมายของเสียงนั้นๆตรงๆ
ขณะที่กำลังคิดตามและกำลังเข้าใจ
ขณะนั้นเองคือสังขารขันธ์ปรุงแต่งจิตถูกตามได้แล้ว
พอหยุดฟังปุ๊บคิดไปตามนิสัยตนเองคือตัวตนเราทันทีเลยค่ะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เชื่อโดยไม่คิดแต่ให้ฟังโดยใช้หลักกาลามสูตร10คิดทบทวนถูกตัวตน
จนกว่าจะคิดถูกตัวตนแล้วเข้าใจสิ่งที่ตัวตนกำลังมีถูกตรงตามสัจจะที่กำลังปรากฏที่ตัวถูกตามได้ค่ะ
https://youtu.be/V6R6ciLFMzc

https://songworldnull.com/2717/?fbclid= ... qlej_5JXhk

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คือ จิตที่ฟุ้งซ่าน เมื่อสวดมนต์ก็ดี ทำกรรมฐานอย่างใดๆก็ดี สวดมนต์แล้วใจก็สงบ ทำกรรมฐานจิตก็สงบ มันก็ดีอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว ไม่ต้องอ้างนั่นอ้างนี่ อ้างวิทย์ฯ อ้างวุธอะไร