คริคริ

เมไม่ได้ชี้ทาง สำหรับคุณยายหรอกค่ะ

การอธิบายเป็นตุเป็นตะเป็นคุ้งเป็นแคว
นั่นเป็นความโดดเด่น ใช้สำหรับประเภทด้อยสัมมาทิฎฐิ
สำหรับคนมีมิจฉาทิฎฐิอย่างหนา

ตรงกันข้ามค่ะ

เมแสดงไม่กี่คำ

แบบไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
เป็นความโดดเด่น ของ กลุ่มมิจฉาทิฎฐิอย่างเบาบาง
เหมาะสำหรับ กลุ่มที่มีสัมมาทิฎฐินำหน้าโลดแล้ว
นะคะๆๆ

"พระพุทธเจ้าสอนให้รู้สึกตัวเดี๋ยวนี้ทันทีว่ามีความไม่รู้ความจริงตรงไหนอะไรบ้างที่ตัวตน"

คริคริ

แค่นี้ก็รู้ว่า คุณยายยังไม่อาจเข้าใจได้ ว่าพระองค์สอนอะไร
เมจะอธิบายให้นะคะ สั้นๆ

ต้องฟัง เพราะอยากรู้สึกตัวเหรอคะ

รู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อไร พิษก็แผ่ซ่าน

เพราะไม่รู้ว่า นามเกิดแล้ว รูปเกิดแล้ว บดบังโดยทันทีแหละค่ะ

ยัยโง่...จิตไม่มีรูปร่าง...ตาบอดเหรอเห็นอะไรบ้าง
มันมีรูปร่างมั๊ยตัวตนยังไม่มีเลยสาระแนยึดตัวตนมาพูดใครเชื่อ
เอาความคิดเห็นตัวเองมายัดเยียดให้ใครโง่มั๊ยเดี๋ยวนี้ตัวตนมันไม่มี...โง่ๆๆๆๆๆๆๆ


ประโยชน์ของการเป็นมนุษย์ผู้มีปัญญาคือได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อรู้ดีละชั่วที่เอาตัวไปทำคือชั่วเลย
แต่ละคนที่ฟังคือฟังเพื่อรู้ประโยชน์ของตนเองไม่ได้ไปทำตามความคิดเห็นผิดๆของคนอื่นฟังสะสมปัญญา
https://youtu.be/br2y2ct3PgU

คริคริ

ยัยโง่.. นั่นมันสังขารประกอบขึ้น มาจากจิตคุณยายเอง
นั่นแหละพิษแผ่ซ่าน

555ยัยขี้โม้เอ๊ยการชวนคนอื่นให้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะเป็นบุญ
ช่วยให้คนๆนั้นเขาคิดเหตุผลด้วยตนเองก่อนทำส่วนคนโง่ๆที่ชอบสอด
ชอบขัดแย้งคนอื่นเพราะคิดขัดแย้งผิดๆว่ามีคนทำไม่เหมือนตัวเอง555
พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกให้ใครไปทำอะไรเหมือนกันหรือทำตามๆกัน
โดยไม่พึ่งการคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าตรงความจริงที่กายใจ
555เฮ๋อๆๆๆส่วนยัยตอแหลแบบเธอชอบสอดรู้สอดเห็นโดยไม่ดูตัวเอง

มันไม่เคยคิดได้ว่ามันส่งจิตออกมานอกกายใจตัวมันเองแล้ว555ไม่เคยคิดจะเริ่มฟังให้เข้าใจ
หลงปรุงว่ามีคนมารองรับความคิดถูกหรือผิดของตัวเองโง่จริงๆหรือแกล้งโง่เจ้าคะ555
รีบๆมาปรุงแต่งจิตเถียงกิเลสตัวเองให้ชนะ555ดักดานอยู่ได้ไม้แก่ที่ประมาทการฟัง

คริคริ

เพราะคุณยายไม่เรียนพระอภิธรรรม

เรยสร้างตัวตนของผู้ให้ และผู้รับ ผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ ออกมาซะแร๊วค่ะ

สร้าง กุศลาธรรมมา สังขารบุญกุศล อันแสนวิจิตรพิศดาร
ไปประดับประดา ความว่างอันไร้รูป ให้เสียรูปไป


กิ้วๆ

ยัยนี่มันคนดีหรือคนบ้าเนี่ย
เออ...บอกว่าอยากทำอะไรก็ไปทำ
ประสาทแดกเหรอเดี๋ยวนี้มืดสนิทเลยตาบอดเหรอ
มันปรุงอะไรอยู่บ้างมันยังคิดไม่ได้เลยมืดบอดสนิทสอดสายตาแลเห็นคนอื่น555ตถาคตเรียกว่าวิปลาส

คริคริ

มองธรรมของสัตว์ที่ติดข้องพันธนาการในสังสารวัฎอยู่ ด้วยการสลัดออก
โดยความไม่ยึดมั่นถือมั่น ไงคะ คุณยาย

"ธรรมมีอุปมาด้วยแพ
เพื่อต้องการสลัดออก ไม่ใช่เพื่อต้องการยึดถือ
ฉันนั้นแล เธอทั้งหลายรู้ถึงธรรมมีอุปมาด้วยแพที่เราแสดงแล้วแก่ท่านทั้งหลาย
พึงละแม้ซึ่งธรรมทั้งหลาย จะป่วยกล่าวไปไยถึงอธรรมเล่า"

อื่อ...แล้วมันรู้ตัวมั๊ยว่าไม่ฟังคำสอน=เพิ่มกิเลส=คิดให้ตายถ้าไม่เริ่มฟังก็โง่ดักดานเหมือนเดิมนะเธอ555
ตัวคนที่มันชอบคิดเอาแล้วสอดแทรกความรู้สึกมาสอดเห็นเขาเรียกคนหน้าด้านบอกไม่ฟังรู้ตัวมั๊ยล่ะ555

ใครอยากเข้าใจก็พิจาณาเอาเองนะคะว่าทำอะไรจะได้ปัญญาเดี๋ยวนี้จิตเกิดใหม่แล้วถึงแสนล้านดวงจิตใหม่
https://youtu.be/Id-j8AMw_O4

คริคริ

พฤติกรรมอันชั่วแล่นของจิต ชนิดที่เกิดดับไปแสนล้านดวงจิต ไม่มีดวงใดเลย
ที่ให้ผลปัญญา อนันตกาลค่ะ
ปฎิบัติการฟังอย่างคว้าน้ำเหลว จึงเกิดกะคุณยาย มาแปดปี

ชั่วแล่นที่มีตัวตนมาคิดเห็นผิดตามตัวอักษรเนี่ยรู้ตัวไหมว่าไม่ได้ฟังคำสอนแล้ว
จะทำอะไรต้องตรงปัจจุบันคิดตามไม่ได้=มีกิเลสอวิชชาแล้ว555ง่าววววววว555

คริคริ

หูมีหน้าที่ฟังได้ยินไม่ขาดสายตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว

การมุ่งหมายปรนเปรอ อยากฟังแต่เสียงแค่บางอย่าง
เพื่อสนองความต้องการของหูอายตนะ อย่างตะกะตะกาม

จึงเต็มไปด้วยความอยาก ละโมภ และแปดปีมาแล้ว จึงไม่รู้จักพอ

ส่วนตัวหนังสือ ไม่ได้กระดุกกระดิกโยกไปโยกมา
แล้วใยต้องเห่าหอน ง่าวๆๆ ตามไปด้วยหล่ะค๊ะ

ที่มาอ่านเนี่ยฟังเสียงความคิดตัวเองไม่ใช่เหรอ
พระพุทธเจ้าให้ฟังเสียงของปรโตโฆสะ
คิดไม่ได้ก็งัดหัวใต้เท้าตายซะ
ปรโตโฆสะคือเสียงคนที่รู้
ไม่ต้องมาเห่าแถวนี้
เห่าเสียงเน่าๆ
ในหัวเม
555

คริคริ

เพราะคุณยาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
เรยไม่รู้ว่า เสียง มีแต่เสียง ไม่มีเสียงของใคร
เรยคิดว่ามีเสียงปรโตโฆสะ


พวกไม่ประสีประสา เรื่องจิต

ก็มักสำคัญมั่นหมาย ละโมบในการเสพ บริโภคการฟัง
อยากไปตามหู
อยากเจริญความคิด อันเป็นสังขารจิต
แปดปี จึงยังไม่เคยรู้ว่าจะพอเพียง

เพราะยังไม่รู้แจ้งเห็นแจ้งจากภายใน จิต ค่ะ