วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ย. 2025, 00:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2025, 00:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผี เรื่องต่อไปที่เมเจอ
ตอนนั้นเรียนเกรด12  เป็นช่วงไกล้เทศกาลคริสมาต์  ก็นัดแนะกะเพื่อนออกเที่ยวปาร์ตี้กลางคืน หลังเลิกเรียน ไปหาประสบการณ์นอกรั้วโรงเรียนกัน เพราะรุ่นพี่ต่างโรงเรียนเค้าจัดปารตี้ที่บ้านเค้า

พวกเราก็เอาชุดเที่ยวที่เตรียมมาก่อนหน้านี้ จับไส่เป้โรงเรียนไว้ เพื่อจะได้เปลี่ยนชุดไปปาร์ตี้ต่อ และไม่อยากให้คนอื่นๆในโรงเรียนรู้ ว่าเลิกเรียนแล้วจะหนีไปเที่ยวต่อ

พอเลิกเรียน เมกะเพื่อนหญิงสามคน รวมเมเป็นสี่คน  เราก็ย่องออกไปทางหลังโรงเรียน 
เพิ่อออกถนนไปอีกฝั่ง  ก็เดินไปลัดเลาะไปทางสุสานด้านหลัง 

ระหว่างเดินผ่านสุสาน  เปลี่ยวไม่มีผู้คนเลย  แล้วก็มีสุสานนึงใหญ่พอสมควร เมกะเพื่อนๆ ก็ลงความเห็นว่า เราเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไปเที่ยวกันเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวออกนอกสุสาน  ก็ถึงถนนใหญ่แล้ว 

จึงเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า ทั้งชุดชั้นนอกชั้นใน รองเท้า คุยทะลึ่งตึงตังกัน แล้วก็นั่งแต่งหน้าทำผมกันในสุสานนั่นแหละค่ะ

เสร็จแล้วก็ออกเดินไปรอรถบัส กันนอกสุสาน  สักพัก ก็ได้กลิ่นเหม็นๆโชยมา แล้วก็กลิ่นเน่าแรงขึ้นเรื่อยๆ  ก็คิดกันไปว่าคงกลิ่นจากสุสานที่มาฝังใหม่มั้ง

สักพักรถบัสก็มาจอด เม กะเพื่อนๆ ขึ้นรถบัสไป  

นั่งมาแป๊บเดียว ก็เริ่มมีกลิ่นโชยในรถ  กลิ่นเน่าแรงขึ้นๆ  จนคนทั้งรถหันมองกันสอดส่ายว่ากลิ่นมาจากไหน  ต่างก็อุดจมูกกันเป็นแถว แม้คนขับก็หันมามองหาว่ากลิ่นมาจากไหนกัน
ก็หันมามองเมกะเพื่อนกัน เพราะขึ้นมาทีหลังสุด ไม่มีใครขึ้นรถบัสมาอีก 

พอดีก็ถึงป้ายรถ ที่เมกะเพื่อนจะลง ก็เรยรีบลงรถ ออกมาหายใจโล่งอก  
ก็ยังคุยกันสนุกๆ ว่า กลิ่นนั้นคงตามพวกเรามาจากสุสานแน่เรย 
ดีนะที่ลงจากรถเสียก่อน กลิ่นนั่นคงนั่งรถบัสเลยไปแล้ว  ก็ขำกันหัวเราะกันคยกันตลกขำๆ แล้วก็ทะลึ่งกันไป

ก็ไกล้ค่ำแล้ว ระยะทางจากที่ลงจากรถ ถึงงานปาร์ตี้ ก็ไม่ไกลเท่าไร  
ก็ตกลงกันว่า เดี๋ยวเรียกรถเก๋งไปดีกว่า  ก็โทรเรียกรถรับจ้างมา 
ระหว่างยืนคอยรถรับจ้าง  ก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาอีก แล้วกลิ่นก็แรงขึ้นๆๆ 
ตอนนี้ ทุกคนก็เริ่มหันมองหน้ากัน  กลิ่นเหม็นเน่านั้นตามมาอีกแล้ว  
อีกอย่าง ก็เริ่มมืดลง  กลิ่นก็รุนแรงขึ้น จนต้องเอาผ้าอุดจมูกกัน  

ก็เลยบอกกันว่า มีอะไรบางอย่าง ตามเรามาจากสุสานแล้วหละ  น่าจะเพราะพวกเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วคุยเล่นกันสนุกสนาน มีทั้งตลกทะลึ่งด้วย  เมก็เรยบอกเพื่อนๆ เรามาตั้งจิตขอขมาเค้าไปกัน ขอโทษที่ไปล่วงเกินโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ยกโทษให้ด้วย 

สักพักกลิ่นเหม็นเน่านั้นก็ค่อยๆจางลง จนหายใจได้โล่ง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าอีก 

แล้วรถรับจ้างก็มารับพอดี นั่งไปก็ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่านั้นตามมาอีกเลย 

คราวนี้ พวกเราก็ตกลงกันว่า กลับหอโรงเรียนดีกว่า ออกตัวฤกษ์ไม่ดีแระ เรยให้รถไปส่งหน้าโรงเรียนแทน 

แล้วก็เปลี่ยนชุดกันหน้าโรงเรียน  กลับเป็นชุดนักเรียนตามเดิม 
กลับไปเป็นเด็กประจำที่ดี ตั้งใจเรียน ไม่หนีเที่ยวแล้วไม่ออกไปด้านสุสานอีกเรย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2025, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผี เรื่องต่อไป

แล้วเม ก็เจอผีอีกหน ที่ชายทะเลไทยๆนี่แหละ

คราวนี้ไปพักที่คอนโด ริมทะเล 
แต่เนื่องจากเป็นโลซีซัน แล้วก็เป็นหน้าฝน มีพายุจะเข้า ไม่ค่อยมีใครไปเที่ยว ชายทะเลกันค่ะ 

เมก็ไปกับพ่อกะแม่ ไปพัก ที่คอนโดนั้น เพราะเดินทางไปจังหวัดอื่นๆมา แล้วจะกลับบ้าน แต่ผ่านทางนั้น 
เลยแวะเพราะมันมืดค่ำแล้ว อีกอย่างก็ขับรถมาไกลหลายชั่วโมงมากๆ 

ที่คอนโด ที่นั่น ส่วนมากจะมีคนมาซื้อไว้ เก็งกำไร แล้วก็แวะมาพักเที่ยวเป้นครั้งคราวไป หรือไม่ก็ปล่อยให้คนเช่าต่อ 
ในหน้าร้อน ก็จะมีคนมาพัก มาเที่ยวทะเลเยอะพอสมควร 

คอนโดนั้น เป็นตึกหลายสิบชั้น ห้องเม อยู่บนชั้น 6 
มีรปภ และนิติบุคคลคอยดูแลอยู่ชั้นล่าง 

วันที่ไป ไปถึงก็ค่ำมืดพอดี ชั้นล่างที่รปภ อยู่ ก็จะค่อนข้างเปิดไฟสลัวหน่อย เพราะไม่มีคนพัก  
เงยไปข้างบนตึก ก็มืดนิท แต่ละห้องแต่ละชั้น ก็ไม่คนอยู่ ไม่ได้มีการเปิดไฟ
นิติประหยัดไฟมากเกิน

ค่อนข้างมืดมาก จากห้องโถง ตามทางเดินไปลิฟต์ ก็แทบไม่ได้เปิดไฟ  เป็นเพราะเค้าจะประหยัดไฟ
เมก็ถาม รปภ ว่า วันนี้ คนอยู่กันบ้างมั๊ย  เค้าก็บอกว่า วันนี้ ไม่มีใครสักห้องเลยตรับ
ก็เริ่มหวาดเสียวแระ เพราะทั้งตึก มีห้องเมห้องเดียว ที่ไปพัก 

ก็พากันเอาสมบัติกระเป๋าเดินทาง เดินไปเพื่อขึ้นลิฟต์  ทางเดินก็มืด เงียบมาก 
ก็ขึ้นลิฟต์ไป พอลิฟต์เปิดมา ก็มืดตื๋อเรย มองไปซ้าน มองไปขวาก็มืด  มีแต่แสงไปทางออกฉุกเฉิน 
และไฟทางเดินนิดเดียว 

น่ากลัวมากๆ  
แต่เดินทางมาเหนื่อยแระ อีกอย่างก็เป็นห้องของเมเอง เรยไขประตูห้องเข้าไป เปิดไฟสว่างหมดเรย
แล้วก็เปิดหน้าต่างไปดู  ให้หมู่คอนโดนั้น ก็จะมีตึกอีกไกล้ๆกัน แต่มองไป ก็มืดสนิททุกตึกเรยค่ะ 
บรรยากาศวังเวงมาก ละแวกนั้น ทุกตึก มีห้องเมห้องเดียว ที่ไปพัก 
ก็เรยปิดม่านหมด มองไปวังเวงพิกล

แต่ก็ยังดีที่คอนโดห้องเม เป้นสองห้องนอน  แล้วมีพ่อแม่มาเป็นเพื่อน ก็เรยเซย์กูดไนท์กะพ่อแม่ แยกห้องกันไป 
แล้วก็อาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดนอน เตรียมเข้านอน 

ก่อนนอนก็สวดมนต์ ถึงพระเจ้า ถึงพระพุทธเจ้า แล้วก็บอกเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าบ้านเจ้าเรือน 
แล้วก็นอน พอเคลิ้มๆจะหลับไป ได้ยินเสียงเด็กเล็ก วิ่งเล่นกันหน้าห้อง เสียงดังอยู่หน้าห้อง  จนต้องลืมตามา
 
โทรไปถาม รปภ ข้างล่าง ว่าพี่คะ มีคนอื่นมาพักชั้นนี้แล้วเหรอ 
เค้าก็บอกไม่มีครับ มีห้องหนูห้องเดียว ก็เรยหนาวเรย

พอล้มตัวลงนอนอีก ก็มีเสียงเด็กๆ เสียงวิ่งเล่นกันหน้าห้องดังมาอีก 
ก็เดาเอาว่า ไม่ใช่คนแล้วแหละค่ะ  แต่เม ไม่กล้าไปเปิดประตูดูหรอก เดี๋ยวหัวใจวาย 
ก็เรยกลับมา นอน แล้วก็ปล่อยให้วิ่งเล่นกัน ตามสบายข้างหน้าห้อง  
แล้วเม ก็นอนหลับไป จนเช้า  
ตอนเช้า พ่อกะแม่ก็บอกเหมือนกัน ว่าได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นกัน นึกว่า ข้างๆห้องคงมีคนมา 

เมก้อเรยบอกพ่อกะแม่ว่า  กลับบ้านกันเหอะ พ่อกะแม่ก็ไม่ขัดใจลูกสุดที่รัก 
ก็เรยเก็บของ ลงไปถามรปภ อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ 

เค้าก็บอกว่า ไม่มีใครมาเลยทั้งคืน มีห้องเมห้องเดียวเอง

ก็เรยบอก รปภ กลับก่อนนะคะ มีธุระด่วน ให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องให้ด้วยนะคะ 
จากนั้นก็ไม่เคยไปพักที่คอนโดนั้นอีกเลย ต่อมาก็ขายไป ได้กำไรเหนาะๆ


กลับมาบ้านพอเช้า ก็ไส่บาตรพระที่มาหน้าบ้าน  ซื้อขนมไส่บาตรเผื่อให้เด็กๆพวกนั้นไปด้วยค่ะ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2025, 13:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1348


 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes :b16: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2025, 14:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


จากเมื่อได้เริ่มเห็นผี ก็มักเจอสิ่งต่างๆสิ่งเร้นลับต่างๆบ่อยครั้งขึ้น มากมาย
หลับฝันไปบ้าง เห็นตอนตื่นบ้าง ไม่เลือกเวลา 
จนส่วนตัว ตัวเองเชื่อแหละว่าผีมีจริง 

เรื่องผีก็ต้องประสบพบกันเองเนาะคะ 

เรียกว่าเจอทุกรูปแบบ เหมือนที่เค้าเอามาสร้างหนังน่ะแหละ
มีอย่างเดียวที่เม ไม่ได้วิ่งหนีลงโอ่ง แบบในหนังผีไทย 555

มีทั้งน่ากลัว น่าหวาดเสียว สยดสยอง และก็มีทั้งงดงาม น่าหลงไหล ซ่อนความไม่งามไว้ด้านหลัง
ผีควรให้ผู้ปกครองแนะนำ ผีทั่วไป ผีเฉพาะผู้ใหญ่

จากนั้นก็ได้พบปะเจอ ผู้คน ครูบาอาจารย์ ในสำนักต่างๆ ในเวปต่างๆ ที่เป็นที่ชุมนุมคนพวกนี้ หลายคนเป็นคนดัง
พากันไปดูผี ดูต่างดาว ดูพญานาค ดูอะไรต่ออะไรมากมาย 

เจอมั่งไม่เจอมั่ง 
แต่เมมักเจอในขนะที่คนอื่นไม่เจอ สงสัยจะถูกโฉลกกันกะผี

ก็เยอะนะคะ พวกที่เคยเจอผี มีเยอะ เจอจริงบ้าง หลอนตัวเองบ้าง 

เม ก็มักไปถามคนโน้นคนนี้ทีละคน เห็นเหมือนกันบ้าง เห็นต่างกันบ้าง ที่ตรงกัน 
รายละเอียดการเห็นก็ต่างกัน ในรายละเอียด ภาพที่เห็น กลิ่นที่สัมผัส เสียงที่มา รูปทีปรากฎและอื่นๆ 

ก็เลยได้เอาผีมาใช้ประโยชน์ เอามาเตือนตัวเอง ว่า ต่อไปเราก็จะเป็นผี ตุยไปก็เป็นผี 

แล้วมาเกิดใหม่ แล้วเป็นผี แล้วมาเกิด แล้วเป็นผี ไปตามบุญตามกรรมตัวเองวนเวียนๆ

ก็เชื่อแหละว่าผีมีจริงๆ แต่ในพระพุทธศาสนา เค้าเรียกว่า โอปาติกะ มีหลายประเภทอยู่
ก็เลยศึกษาหาทางว่า อย่าไปเกิดเป็นผีจะดีกว่า 

ก็เริ่มตั้งใจว่า จะไม่ไปเกิดเป็นผีอีกแล้วค่ะ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.ย. 2025, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผีบางตน เมเจอ น่ากลัวกว่าผีอื่นๆ มากๆ 

ผีพวกนั้นมาเหมือนคนทั่วๆไป   เจอตามสถานที่ ที่ต่างๆมั่ง บางผีเข้ามาคุยมั่ง  มาตีสนิทมั่ง

บางผี มักมาส่องมาแอบดู ดูเม ในแอปๆนึง

เพราะเม จะถ่ายรูปต่างๆไส่ลงไป ไปกิน ไปเที่ยว ไปเรียน ไปทำกิจกรรม 
ไส่ชุดเรียนบ้าง ชุดเที่ยวบ้าง เที่ยวกลางวัน เที่ยวกลางคืน เที่ยวชายหาดมั่ง 

ผีเหล่านั้นก็ เริ่มปรากฎตัว ส่งเอ็มมามั่ง  มาขอเป็นเพื่อนมั่ง มากดติดตามมั่ง 

แล้วทั้งหมด ก็เริ่ม ถามเมว่า ชื่อไร  เรียนไหน ทำไร อยู่ไหน จะจบยัง มีแฟนยัง สนใจลงทุนมั๊ย หาเงินมั๊ย ชวนทำโน่นทำนี่ อื่นๆอีกมากมาย 

แรกๆเม ก็ต้องให้ผู้ปกครองช่วยแนะนำว่าเจอผีอย่างนี้ ทำไงดี

แล้วผีเหล่านั้น ก็เริ่มหลอกหลอน  เริ่มเปลี่ยนไป เป็นผีหาคู่ ผีสำหรับผู้ใหญ่ ผีมิจฉาชีพ  ผีเสี่ย ผีนักลงทุน 
ผีต่างๆอาชีพ เยอะเรย
ต่างพยายามจะเข้าสิงเม พยายามหลอกลวง

ตอนนั้นเม ยังเด็ก เรียนไม่จบ และก็ยังกลัวผีหลอก เรยต้องสวดมนต์ไล่ผีไป 

นี่ก็ผ่านไปจนจะ 5 ปีแล้ว ที่ช่วงนั้น ผีเหล่านั้นระบาดมาก 
ตอนนี้ ผีเหล่านั้น คงไปผุดไปเกิดแระค่ะ  ไปที่ชอบๆ แล้ว

ที่จริงพวกนั้นก็เคยเป็นผีมา แต่ตอนนี้มาเป็นคนแหละ  ยังติดนิสัยผีมา ชอบมาหลอก 
น่ากลัวกว่าผีเนาะคะ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2025, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องนี้จะว่าผีก็ไม่แน่ใจ 
แต่ก็แปลกๆ 

ช่วงเรียนมหาลัยปี1 ก็เรียนหนักพอสมควร แต่เป้นช่วงมิดเทอม ก้อเรยได้มีโอกาสไปเที่ยว
กลับบ้านได้ดีกหน่อย ก็ประมาณเกือบเที่ยงคืน 

หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็ได้ขับรถกลับบ้าน หลังจากไปทานข้าวเย็นกะเพื่อนๆ 
ระยะทางจากร้านกลับบ้าน ก็ไม่ไกลแค่ประมาณไม่เกินห้ากิโล 

แต่ข้างทางเปลี่ยว และมืดไม่ค่อยมีไฟข้างถนน เพราะเม มักอาศัยเป็นเส้นทางลัด 
เพื่อทะลุออกถนนใหญ่  

วันนั้น เมก็ขับมาปกติ ด้วยความเร็วพอสมควร  จู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรมากระทบกระจกด้านข้าง 
เสียงดังเป๊ะ เสียงนั้นดังมากจนเมตกใจ คิดว่า มีใครขว้างหินไส่รถ 

แล้วรูปพระที่เมตั้งไว้หน้ารถ ก็ตกลงที่พื้น 
ก็เรยชลอรถลง แล้วก็ก้มเก็บพระขึ้นมาตั้งไว้ตามเดิม  ก็ไม่ได้จอดรถสนิท แต่ก็คอยมองสำรวจ ว่ามีกระจกแตกมั๊ย
ก็ไม่เห็น ก็ขับไปเรื่อยๆ  ความคิดก็แล่นมา ทำไมรูปพระตกลงจากหน้ารถ ถนนก็ราบเรียบไม่มีหลุมบ่อ  

ก็คิดไปว่า หรือมีใครปล่อยของมา  เพราะจู่ๆเสียงก็ดังเป๊ะ แล้วพระก็หล่นลงไปที่พื้น

แล้วขณะนั้น  ก็มีรถสปอร์ตคันนึง ขับมาด้านหลังแล้วก็เร่งแซงเมไป เค้าก็ขับเร็วพอสมควร 

เมก็ขับตามหลังเค้าไป จากตรงนั้นก็ไม่ถึงนาที 
ก็มาถึงปากทางเชื่อมกะถนนใหญ่ 

แล้วเรื่องน่าตกใจก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ก็ปรากฎ รถพ่วงสิบแปดล้อ ที่วิ่งบนถนนใหญ่ เสียหลักหักหัวรถเข้ามา ชนกับรถสปอร์ตนั้น
เข้าตรงประตูคนขับเต็มๆ 

เมก็กรี๊ดเรย รีบจอดรถ เปิดไฟฉุกเฉิน นั่งตกใจอยู่ แล้วโทรไปสายฉุกเฉิน แจ้งอุบัติเหตุ 
แล้วรถอัมบูแลนก็มา  มีรถตามมาจอดดูหลายคันมาก  จากนั้นเมก็ค่อยๆขับรถกลับมาจนถึงบ้าน 

ก็ทบทวน มันเป็นจังหวะนิดเดียว ที่เมต้องชลอรถ  เพราะเสียงที่เหมือนใครขว้างกระจก
แล้วก็ก้มลงเก็บรูปพระที่ตั้งหน้ารถ ที่หล่นลงไป 
แล้วรถสปอร์ตคันนั้นก็แซงเมไป แล้วก็ไปเจอกะสิบแปดล้อ 

เหมือนแซงคิวเมไปค่ะ

แล้วพอเช้า ก็สำรวจรถทั้งหมด ก็ไม่มีร่องรอยอะไร กระจกก็ไม่มีร่องรอยอะไรเลย 
หลังจากนั้น ก็ได้ทำบุญไส่บาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ค่ะ 
จนวันนี้ ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ค่ะ สำหรับเหตุที่เกิดคืนนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2025, 01:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผีอีกครั้ง 
ก็เป็นผีที่อยู่ในเรือสำราญ 
ครั้งนั้น ก็ไปเที่ยวเรือสำราญ 
ช่วงนั้นปิดเทอม เมได้ตั๋วฟรีไป กับเพื่อน ผู้หญิงอีกคน  ได้ห้องพิเศษ ห้องละคน 
เรือนั้นเดินทางไปในทะเล 3วัน 2คืน วัน  ไปตามเกาะ ไปตามสถานที่ต่างๆ 

วันแรก ก็ขึ้นเรือไป ได้ห้องส่วนตัว เป็นห้องหรูมาก แต่มีปัญหา คือน้ำรั่ว ห้องน้ำไม่สะอาด 
แอร์ก็ไม่เย็น เรยขอเปลี่ยนห้อง เมก็ได้ห้องใหม่ชั้นบน ไกล้สระว่ายน้ำ 
 มองออกหน้าต่าง ไปได้วิวทะเล หน้าต่างอีกด้านได้วิวสระว่ายน้ำ 
ก็โอเค ดีกว่าห้องเดิม แต่คนละชั้นกะที่เพื่อนๆอยู่ 

วันแรก ก็เรือก็ล่องไป จอดที่เกาะแห่งหนี่ง ให้เล่นน้ำ 
เมกับเพื่อน ก็เปลี่ยนชุด ไปว่ายน้ำเล่น ก็เจอปลาปากเข็มตัวใหญ่ 
มันว่ายมาเฉี่ยวไกล้ๆ น่ากลัว แล้วก็มากันอีกเป็นฝูง เพราะปากมันแหลมมาก น่ากลัว
เรยเลิกเล่น ชวนเพื่อนขึ้นไปเล่นในสระบนเรือแทน 

ก็มีชาวต่างชาติหลายคน นอนอาบแดดมั่ง ว่ายน้ำมั่ง 
เมก็ว่ายน้ำเล่น แล้วก็มานอนเล่นสั่งเครื่องดื่มมาดื่ม มีบริกรพนักงานเรือหนุ่มหน้าตาดีมาเสริฟด้วยค่ะ คิคิ
เค้าก็ดูท่าทางสุภาพดีเนาะ 

นานแล้วไม่ค่อยได้เจอแดดแรงๆ เลยก้ใช้เวลานอนเล่นอยุ่นั่นนานพอสมควร
เพราะมีคนมาล้อว่าตัวซีดเหมือนไก่ในข้าวมันไก่ 

ในเรือลำนั้นส่วนใหญ่ก็จะพวกผู้สูงอายุ  ห้าสิบหกสิบขึ้นไป มากันเที่ยวมาพักผ่อนกันเป็นคู่ๆ 

แล้วเมก็กะเพื่อนก็แยกกันกลับเข้าห้องไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัว รอมาทานอาหารเย็น

ระหว่างเมอาบน้ำสระผม  ก็ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ เหมือนใครเคาะห้อง ก็คิดว่าเสียงตัวเรือมันโคลงมั๊ง เสียงลมมั๊ง
ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนอาบน้ำเสร็จก็มายืนเช็ดหัวเช็ดตัว แล้วก็โดดขี้นเตียง นอนพักรอเวลาไปกินมื้อเย็น 

พอเคลิ้มไปก็รู้สึกเหมือนมีอะไรที่หลัง เหมือนมีคนมาลูบหลัง  ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ก็เรยตกใจ หันมองก็ไม่มีใคร
เมก็เรยเอาผ้าห่ม ห่มแล้วก็นอนต่อ หลับไปได้หน่อยนึง ก็รู้สึกหนาว ตื่นมา อ้าว ผ้าห่มไหลออกร่วงไปข้างเตียง 

เมก็เอาผ้าห่มขึ้นมาใหม่ เหน็บอย่างดี แล้วก็มุดเข้าผ้าห่มอีก 
สักพักก็เริ่มหนาวอีก ตื่นมา ผ้าห่มก็ลงไปกองข้างเตียงอีกครั้ง
ก็เลยลุกขึ้นไส่เสื้อผ้าแต่งตัวเตรียมไปกินอาหารเย็นดีกว่า 

แล้วก็ออกไปเดินเล่นบนเรือ ไปสำรวจทั่วๆไป ไปถ่ายรูปมั่งแล้วก็เจอเพื่อน พากันไปทานข้าวกัน 
เป็นบุฟเเฟ่ต์ อาหารยุโรป มีไวน์แจกไม่อั้น เรยหน้าแดงๆตึงๆนิ๊ดนั่งกันจนประมาณห้าทุ่ม 

แล้วก็ออกไปนั่งรับลมทะเล ก็เจอบริกรพนักงานนั้นอีก เค้าก็มาถามอย่างสุภาพ ว่ามาจากไหน ประเทศไร 
ก็ได้ถามเค้ากลับไปหลายๆอย่างด้วย เค้าเป็นคนเอเซีย เรียนพานิชนาวี ก็กำลังฝึกงานหลายอย่าง 
เค้ายังโสดหล่อด้วยแหละ คิคิ 

จนได้เวลาพักก็แยกย้ายกะเพื่อนกลับห้องใครห้องมันไป 
หลังจากมานั่งรับลมทะเล ก็ตัวเหนียวหนึบ ก็เรยอาบนำ้อีกหน 

แล้วก็ออกมายินเช็ดตัว มองไปนอกกระจก ด้านนอกเรือตรงสระน้ำก็ดับไฟแล้ว ข้างนอกก็มืดพอสมควร 
เมก็ยืนเช็ดตัวไป รู้สึกอะไรแว๊ปๆ ที่กระจก  ก็เลยหันไปมองที่กระจกอีกที อ้าวบริกรพนักงานนั้นยืนหันมามองอยู่ 
ตายละวา ข้างนอกมืด ข้างในห้องไฟสว่าง เรยรีบปิดม่านซะ อายก็อายแหละ แต่ทำไงได้ ประมาทเอง

คืนนั้นก็เข้านอน แล้วก็โดนลูบหลังอีก  หลายตรั้ง แล้วผ้าห่มก็โดนดึงออกหลายครั้ง
คงเพราะเม ลืมไป ไม่ได้สวดมนต์ ไม่ได้บอกแม่ย่านางเรือ เจ้าที่เจ้าทาง ก็เรยลุกมานั่งสวดมนต์ก่อน 
ทำสมถะดูลมพักนึง 
คราวนี้แล้วก็หลับไปได้ จนสว่าง  ก็ไม่โดนดึงผ้าห่ม ไม่โดนลูบหลังแล้ว 

จนเช้าตื่นมา ก็อาบน้ำแล้วก็แต่งตัว ไปทานอาหารเช้า ก็เจอบริกรนั้นอีก วันนี้มายิ้มตาหวานเรย 
แล้วก็แนะนำอาหารต่างๆให้ ว่านี่คืออะไร ๆ 

เมก็ได้แต่ยิ้ม ขอบคุณ ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น 
แล้วเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าโดนดึงผ้าทั้งคืนเลย โดนตั้งแต่กลางวันแล้ว
อีกอย่างลืมปิดม่านห้องนอนด้วย บริกรนั้นเค้าเห็นเมด้วยแหละ 

เพื่อนเมมันก็ว่าเมว่าอ่อยเหยื่อ ก็เรยโมโหจัดเรย แต่ก็ยกโทษให้
เรยบอกเพื่อนว่า ถ้าถึงเกาะเมจะนั่งสปีดโบ๊ทกลับแล้ว ต่อเครื่องกลับบ้านหละ 
จะอยู่ต่อหรือกลับก็แล้วแต่เธอนะ 
เพื่อนก็ขอกลับด้วย ก็เรยกลับบ้านกันค่ะ 

ตอนนั้นก็คิดว่า อ่อ เคยได้ยินเรื่องผีผ้าห่ม ผีผ้าห่มเป็นแบบนี้นี่เอง
แต่ตอนนี้เข้าใจแระว่าที่เค้าพูดกันเรื่องผีผ้าห่ม ไม่ใช่ที่เมเข้าใจ เมเข้าใจผิดเต็มๆ 55


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2025, 00:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผีอีกเรื่อง ก็ไม่ใช่ผีอีก

เรื่องนี้เจอตอนเกรดประถมปลายๆ

เป็นเรื่องพวกคณาจารย์ที่สอนสมถะ สอนกัมฐาน สามสำนัก เป็นผู้มีฤทธิ์ทางใจด้วย
แต่ละสำนัก ได้ไปเจอกันในสถานที่นั้นโดยไม่ได้นัดหมาย 

เมได้ไปเที่ยวสถานที่นึง กะพ่อและแม่ มีพี่เลี้ยงเมด้วยไปพักผ่อน ก็เป็นชายทะเลอีกน่ะแหละ 
เพราะเมชอบทะเล ก็เลยได้พักที่นั้น 

แล้วก็ได้เจอ พระอาจารย์สอนธรรมะ  ที่มาจากสามสำนัก ซึ่งอาจารย์เหล่านั้นก็ได้สอนสมถะ แต่เน้นคนละแนว
ท่านพาบรรดาศิษย์ไปพัฒนาการปฎิบัติธรรม กลุ่มละไม่กี่คนค่ะ

อาจารย์แต่ละสำนัก ก็พอรู้จักกัน แต่แนวปฎิบัติเน้นไปวิธีต่างกันไป ถ้าเอ่ยชื่อไปสมาชิกในนี้ก็คงรู้แหละ

เม  ก็ได้ไปเดินเที่ยวเล่น ผ่านไปทางแต่ละกลุ่มนั้น
คงเพราะลุงๆป้าๆพี่ๆ เหล่านั้นรู้สึกเอ็นดู เพราะเด็กที่สุด ในบริเวณนั้น
แต่ละกลุ่ม ก็ได้ทักทาย ชวนให้ไปปฎิบัติธรรมกะพวกเค้าด้วย 

ช่วงประมาณบ่ายสาม   แม่กะพ่อเข้าไปธุระในเมือง 
ก็เหลือเม กะพี่เลี้ยงสองคน สองคนนี้เค้าดูแลเมมาตั้งแต่เล้กแล้ว 
เม ก็เรยชวนพี่เลี้ยงไปลงเล่นน้ำทะเล 

ช่วงนั้นท้องฟ้าปลอดโปร่ง ลมสงบ คลื่นไม่แรง มีแดดจัดพอสมควร 

ขณะกำลังเล่นน้ำเพลินๆ  ก็มีพี่สำนักนึง วิ่งมาที่ริมหาด มาตะโกนบอกให้ เมกะพี่เลี้ยง ขึ้นมาบนฝั่งด่วน ๆ
ท่าทางพี่เค้าตกใจมาก เค้าบอกว่า อาจารย์ให้มาเรียกขึ้นมาด่วน เพราะในน้ำมีอันตราย 
เมกะพี่เลี้ยงก็ตกใจ ไม่รู้ว่าในน้ำมีอะไร เลยรีบขึ้นมา
ก็ถามพี่เค้าว่าทำไม เค้าก็บอกว่าอาจารย์พี่บอกให้มาเรียกให้ขึ้นจากน้ำด่วน เพราะอันตราย

สักพัก ท้องฟ้าก็มืด เหมือนมีเมฆใหญ่บัง แล้วทะเลก็เปลี่ยนมีคลื่นแรงมาก ซัดขึ้นมาบนฝั่งเลย
ก็ตกใจว่าสึนามิป่าว? 

แล้วพระอาจารย์ของพวกพี่เค้าก็เดินมา มาบอกว่า เมื่อกี้นี้ มียักษ์ตัวโต มันกระโดดมาข้ามเขา แล้วก็กระโดลงทะเลไป 

เมก็ได้ฟังอย่างงง ไม่ค่อยเชื่อหรอก ด้วยเพราะไม่ได้เห็นยักษ์ด้วย  เห็นแต่จู่ๆก็มีคลื่นแรงซัดขึ้นมาบนฝั่งแต่ก็ได้กราบขอบคุณไป

แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ เหมือนไม่มีไร คลื่นก็สงบลง  แดดก็ออกเหมือนเดิม
แต่ก็รู้สึกกลัว เลยเลิกเล่นน้ำ ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็มาเดินเล่น 

เดินไปทางอีกพวกสำนักนึง เจอพระอาจารย์สำนักนั้น ก็กราบ 
ท่านก็บอกว่าหายตกใจแล้วยัง  ก็งงอีก ถามท่านไปตกใจเรื่องไร คะ

ท่านก็บอกว่า ยักษ์  ท่านก็อธิบายความว่า พอดีมีกลุ่มปฎิบัติธรรมมากัน มียักษ์มิจฉาทิฎฐิมาขัดขวาง 
เมื่อสองสำนักก็เห็นเหมือนกัน เพราะบอกเหมือนกัน เมก็เรยเริ่มกลัว 
สองสำนักนั้น มาจากอิสาน แล้วก็จากทางไต้ คนละทิศกันเลย
ท่านก็บอกว่า เย็นนี้ก็จะกลับกันหมดแล้ว แล้วท่านก็ให้เหรียญพระเมไว้

พอเย็นพ่อกะแม่กลับมา ก็เรยเล่าให้ฟังว่า มียักษ์ด้วย พ่อกะแม่ก็บอกคงไม่มีไรหรอก คงไปแล้วมั๊ง

พอตกค่ำ สองสำนักนั่น ก็พากันเก็บของ แล้วก็พากันออกไปหมด 

เมก็บอกพ่อกะแม่ว่า จะอยู่ต่อเหรอ เค้ากลับกันหมดแล้ว เหลืออีกกลุ่มนึง กลุ่มนี้ก็มีไม่กี่คน แล้วพระอาจารย์อีกองค์ 
เป็นพระทางเหนือ 
เมก็เดินไปกะพ่อแม่ ท่านก็เรียก บอกว่าโยมกลับบ้านเถิด ไปเดี๋ยวนี้ก็ดี เพราะเดี่ยวพวกท่านก็จะพากันออกไปจากที่นี่ 
แม่ก็ถามว่า ทำไมเจ้าคะ 
ท่านก็บอกว่า มีพลังแรง ท่านคงช่วยต้านลำบาก 
 แม่ก็ถามเป็นเรื่องอะไรเจ้าคะ 
ท่านก็บอกว่า มียักษ์มาจะขวางผู้ปฎิบัติธรรม

พอพูดแบบนั้นเมก็เริ่มกลัวอีกแหละ เพราะท่านบอกเหมือนกันกับอีกสองสำนักที่ออกไปแล้ว
แต่กลับบอกเรื่องยักษ์เหมือนกัน 

ก็เลยบอกแม่กะพ่อ เรากลับกันเถอะ 
ก็เลยเก็บข้าวของ ออกจากที่นั่นไป 

ทางสำนักนั้นก็เก็บของแล้วก็ออกนำหน้าไป เมกะครอบครัวก็ออกรถตามไป พร้อมๆกัน

พออีกวันนึง ก็ได้ข่าวว่า สถานที่นั้นเละเทะไปหมด พายุเข้า คลื่นซัด แล้วบ้านที่เมพักต้นไม้ใหญ๋ล้มทับเละไปทั้งหลัง
 ถ้าอยู่ก็คงแบนแต๋ ไม่รอด

ตอนหลังก็เรยได้มีโอกาสไปสำนักเหล่านั้น ไปกราบคณาจารย์ แต่ละสำนักนั้น 
ท่านก็จำได้ ได้รับเม เป็นศิษย์ด้วย ได้รับการแนะนำในการปฎิบัติด้วย
ตอนนี้ ท่านเหล่านั้นทั้งสามสำนัก ก็ละสังขารไปหมดแล้วค่ะ 

จากนั้นแหละ เมก็เรยอยากเห็นแบบนั้นบ้าง เรยเริ่มฝึก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2025, 20:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


ผีอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าผีอะไร 

ก็เป็นสาวมหาลัยแระค่ะ ไปเที่ยวกันกะเพื่อน มีผู้หญิงสี่คน ผู้ชายสามคน 
เพื่อนเม พาบอยไปกัน  แต่เมไม่มี ก็ค่อนข้างตาร้อนหน่อยหล่ะค่ะ 

ชวนไปเที่ยวป่ากัน เอารถไปลุยป่า เข้าไปในอุทยานเป็นพาร์คที่นึง ค่อนข้างเปลี่ยว
แต่ก็เอาปืนพกไปกันด้วยคนละกระบอก ที่นี่เค้าไม่ห้าม ห้ามแต่พวกปืนยาว พวกไรฟิล
ไม่ได้ไปยิงอะไรหรอกค่ะ แต่ไว้ป้องกันตัว  หรือไม่ก็ไว้ใช้ส่งเสียงให้เจ้าหน้าที่รู้ 

ช่วงนั้นก็ไปแต่เช้า ไปถึงก็ประมาณ9โมงเช้า
ก็ไปตั้งแคมป์ในป่า ริมธารน้ำ เป็นธารน้ำตก 
ตั้งเต๊นท์ กันเสร็จ แล้วก็ก่อไฟตั้งหม้อซุปไว้ 

ก็อยู่ไกล้ริมธารน้ำตก เลยออกเดินเล่นพาไปกันหมด ไปถึงธารน้ำ น้ำใสปิ๊งน่าเล่นมาก 
แล้วก็เจอรอยเท้าเสือ ตัวโต รอยเท้าเท่าหน้าเมเรยหล่ะค่ะ 
ถ้าโดนตบทีหัวคงหลุดเรยมั๊ง

เห็นน้ำใสมีปลาว่ายอยุ่ ก็น่าเล่น เลยถอดเสื้อผ้าเอาปืนวางไว้ แล้วก็ลงเล่นน้ำกันกะเพื่อน
เดินเล่นไปตามธารน้ำ แล้วไปเจอแอ่งน้ำว่ายเล่นกัน จนเริ่มเหนือย ก็เรยคิดจะเดินกลับไปที่เต๊นท์ เดินไปทางธารน้ำเหมือนเดิม
แต่ก็เดินมาเหมือนเดินกลับมาทางเดิม แต่กลับขึ้นมา ไม่เจอกองเสื้อผ้ากะปืนที่วางไว้ 
หายหมดเรย ก็สงสัยว่าใครมาแกล้ง เพราะเดินตามธารน้ำก็กลับมาทางเดิม 

เรยเดินออกมา ป่าก็รกมาก ยิ่งรกขึ้นๆ เรยรู้สึกว่าคงหลงทางแล้ว

ก็บอกเพื่อนๆ งั้นเดินลงธารน้ำไปใหม่แล้วกัน อาจจะขึ้นมาผิดที่
ก็จะกลับไปที่ธารน้ำอีกเพราะได้ยินเสียงน้ำ ก็ปรากฎว่า ธารน้ำหายไป หาไม่เจอ 

ตอนนั้นก็ใจเริ่มเสียกัน รู้ว่าหลงป่าแล้ว เพราะจะกลับธารน้ำก็ไม่เจอ เริ่มกังวลกัน สีหน้าไม่ดีกันแล้ว
แล้วอีกอย่างไส่แต่ชุดว่ายน้ำกัน รองเท้าก็ไม่มี ไม่มีอะไรเลยปืนก็วางทิ้งไว้กะกองเสื้อผ้า ไม่มีมีด เสบียง หรืออุปกรณช่วยชีวิต

ก็พากันเดินไปทีละทิศ เพื่อหาธารน้ำให้เจอ ก็ไม่เจอ 
เดินวนไปมา จนความรู้สึกกลัวเริ่มเข้ามา มากขึ้นๆ 

แต่ละคนเริ่มเหนื่อย เริมกลัว เพื่อนยิ่งไปพูดถึงรอยเท้าเสืออีก 
ก็ต้องเตือนกัน เข้าป่าดันไปถามหาเสืออีก 
เดียวก็ซวยหรอก 

เดินหลงป่ากัน แต่พวกผุ้ชายแฟนเพือนๆ แทนที่จะมีสติดี กลับออกอาการกลัวมากกว่าพวกผู้หญิง
ที่เมกลัวก็คือ ทั้งตัวไม่มีไรเลย ไฟแชค ไฟฉาย อุปกรณ์ต่างๆ มีด มีแต่มือเปล่า  แล้วติดอยู่ในป่ากัน
ทั้งต้นไม้บาด ทั้งตัวทาก เกาะดูดเลือดเต็มขาแถมทะลึ่งพยายามเข้าในชุดอีก รองเท้าไม่ไส่ต้องระวังหนามตามพื้น
พวกสัตว์เลื้อยคลาน ตัวมีพิษอีก น่ากลัว

พวกผู้ชายก็เริ่มสติแตก เกือบเป็นแต๋วแตกไปแระ
แทนที่จะช่วยปลอบพวกผู้หญิง แต่กลายเป็นพวกผู้หญิงต้องปลอบผู้ชายแทน 

ก็เริ่มตั้งสติหาทางออกกันใหม่ เดินไปแต่ละทิศ หักต้นไม้ไป เพื่อเป็นที่สังเกตุว่าเดินมาแล้วยัง 
แล้วก็ยังเดินวนไปวนมาหาทางออกไม่ได้เลย หาทางกลับไปที่ธารน้ำไม่เจอ


ก็เริ่มท้อใจกันอีก เดินไปนานมาก จนจะไกล้ค่ำ ก็ยิ่งกลัวมากขึ้น ๆ หลอนคิดพูดไปต่างๆนาๆกัน
ค่ำแล้วจะยังไง ไม่มีไฟ  จะหนาวมั๊ย มืดมั๊ย สร้างเพิงยังไง หาไรกินยังไง เริ่มมีคนร้องไห้ คิดไปล่วงหน้ากันใหญ่
พวกผุ้ชายเริมแต๋วแตก ร้องไห้ เพื่อนเม ผู้หญิงก็เริ่มจะร้องไห้ 

เมก็เรยบอกเพื่อนๆ ให้นั่งเงียบๆหน่อย ระลึกบอกขอพรพระเจ้ากันก่อน บอกเจ้าป่าเจ้าเขา กราบขอขมากันก่อน

สักพัก ก็ได้ยินเสียงรถวิ่งแว่วๆมา ก็รู้ว่าไม่ไกลถนนแล้ว 
ต่างก็มีกำลังใจขึ้นมา ว่าถนนคงไม่ไกล ก็เรยถามใครปีนต้นไม้ได้บ้าง 
ก็มีเพื่อนผู้ชายคนนึง บอกปีนได้ เรยให้ปีนช่วยดูทิศทางหน่อย
ก็เลือกเอาต้นไม้สูงที่พอปีนได้ 
พอปีนขึ้นไป เพื่อนก็ตะโกนมา บอกถนนอยู่ห่างประมาณห้าเมตร เอง 
ต่างก็ดีใจ ยังไงก็จะได้ออกถนน ดีกว่าติดอยู่ในป่า 
แล้วเพื่อนก็ลงมาจากต้นไม้ ทุกคนก็เดินฝ่าตรงไปจากต้นไม้ ก็ออกมา ถึงถนนพอดี 

มองซ้ายมองขวา ว่าออกมาอยู่บนถนนช่วงไหน เพราะเดินอยู่ในป่าหลายชั่วโมง ตั้งแต่เก้าโมงกว่าๆ จนเย็นไกล้ค่ำเลย
น่าจะไกลมากพราะเดินกันไปหลายชั่วโมง 

ปรากฎว่า อยู่บนถนน ห่างจากที่พักไม่ถึงร้อยเมตร แต่เป็นคนละด้านกันกับที่ลงไปธารน้ำ 

ก็เลยพากันเดินโทงๆไปเท้าเปล่า เจ็บเท้าไปหมด เดินไปจนถึงที่พัก  ซุบที่ตั้งไฟไว้ไฟดับหมดแล้ว หม้อไหม้หมด 
อดกิน  ก็เดินไปที่ธารน้ำที่ลงไปเมื่อเช้า  เสื้อผ้าที่ถอดกันทิ้งไว้กะปืนที่วางไว้ก็ยังอยู่ที่เดืมค่ะ
แล้วลงอาบน้ำอีกครั้ง เพราะทั้งคันโดนทากเกาะ ทั้งต้นไม้ใบหญ้าบาด โทรมเรยค่ะ 

ต่างคนต่างอาบทำความสะอาดตัวไป  ต่างหมดแรงไม่มีใครสนใจมองกัน  
เสร็จก็แต่งตัวเดินกลับมาที่เต๊นท์  เมก็เข้าไปถอดเสื้อผ้า เอายาแบบเบตาดีน ทาละเลงลงตัว เหลืองไปทั้งตัวเรย ฆ่าเชื้อกันไว้ก่อน 
แล้วก็แต่งตัวใหม่
เม บอกเพื่อนว่า หมดแรงแล้ว ไม่สนุกแล้ว ช่วยกันเก็บของขึ้นรถกลับดีกว่า
ทุกคนก็ตามนั้น 
ออกจากที่นั่น มาหาของกินนิดหน่อยแล้วก็ ส่งแต่ละคนแยกย้ายกลับบ้านไป 

จากครั้งนั้น ปีต่อมา ก็ได้ไปที่นั่นอีกหน ไปยืนดูธารน้ำที่เคยลงเล่น แล้วก็เห็นเป็นหมอก แต่ลอยเป็นวง
แบบหนัง Dr.Strange ค่ะ 


ก็ไม่รู้ว่าผีหรือเปล่า หรือหมอกเวทย์ นั้นเองที่บังตา ทำหลงทางค่ะ 


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2025, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2181

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องผีที่เม เจอมาก็น่ากลัวสำหรับเม ค่ะ  คนอื่นๆก็คงไม่ได้กลัวเท่ากันกะเม 

เป็นเพราะไม่ได้ประสบพบพานกันด้วยตัวเอง

การประสบมีประสบการณ์เรื่องผี เรื่องต่างๆ ก็นับเป็นเรื่องดี  

ก็จะได้เอาเรื่องเฉพาะหน้าที่เกิดขี้นเป็นอารมณ์  แต่ไม่ทรงอารมณ์นั้นไว้ 
มีกำหนดนามมี รูปมี สลับไปสลับมา กลับไปกลับมา
ก็ได้อาศัยใช้สติที่พอมี ในขณะนั้น
 ยกสิ่งต่างๆ ที่พบเจอ ขึ้นพิจารณา เพื่อเพิกถอนบัญญัติต่างๆ กายบัญัติ 

แล้วก็ยกจิตอันจวนเจียน จะหลุดลอย เสียสติ จะได้เอาขึ้นพิจารณาวิเสสะลักษณะ ในสภาวะรูป18 เป็นอารมณ์ไปด้วย

อาการความเป็นไปแห่งปัจจัยธรรม ต่างๆ 
ความพยายาม มองไปถึง อสุภะลักษณะ อนิจจลักษณะ ทุกขลักษณะ และอนัตตลักษณะ ก็ได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ 
ปิ๊งมาเองมั่ง  เป็นอัตโนมัติขึ้นมามั่ง ก็อยู่ที่ความเคยชิน  ความเคยชิน ก็จะเข้าถึงฌาณ
จำแนกสิ่งเหล่านั้นไปตามภูมิ 31 ภูมิก็พอชัดขึ้นได้ ว่าเป็นเรื่องจากไหน

แลัวก็เหตุปัจจัย กรรม เรื่องของกรรม 
ก้อพอเข้าใจมากขึ้นมา  ผีนั้นเป็นไง เป็นใคร มาไง เพราะอะไร ตามตำราคืออะไร เกิดยังไง 

ก็นับว่าเป็นพระคุณ สำหรับเม ได้พบเจอ  ได้ขมากรรม ได้อุทิสส่วนกุศลไปให้ ได้ขอบารมี ขอพร รวมทั้งอื่นๆ  
การได้พบได้เจอ ไม่มีเรื่องใดบังเอิญเลย


การเจอผี นานาแบบ ก็นับได้ว่าไม่น้อยเลย แต่ก็ได้เอาสิ่งที่ประสบเฉพาะหน้ามาทำประโยชน์ให้กะตัวเอง
เอามา เป็นอารมณ์ จนรู้เท่าทันอารมรณ์เหล่านั้นๆ  โดยไม่ต้องสร้างอามรณ์ เพื่อหลอกตัวเอง เพื่อตบแต่ง เพื่อพิจารณา

รู้เข้าไปตรงๆซื่อๆ  ไม่สร้างอารมณ์ ใดๆ แต่เอาที่โผล่ออกมา เฉพาะหน้า 
ทันที แล้วถอยออกมา ทำให้ไม่ติดในอารมณ์เหล่านั้น ไม่ไหลตามไปจนจิตอ่อนไร้กำลัง 

ก็จะหลุดออกมาได้ช้ามั่ง เร็วมั๊ง ชั่วฟ้าแลปมั่ง ไปตามสถานการณ์ ไปตามสถานการณ์ และกำลังข้าศึกที่เผชิญ ในตอนนั้น 
อาจต้องรบกัน หลายกระบวนเพลงยุทธ์  ก็อยู่ที่จ้าศึกนั่นเป็นใคร ถ้าเป็นจอมยุทธ ก็รบกันมากกระบวนท่า

ไม่ได้หลบเลี่ยง ความคิดแรก ไม่ได้ต้องสร้างความคิดอื่นมาลบ มา กลบ เพราะจะทำให้ธรรมะเดิมเสียรุปไป โดนตบแต่งไป 
จนมองสภาพธรรมที่เกิดครั้งแรกไม่ได้ จนหลงไปกับความคิดใหม่ที่สร้างมาลบความคิดเ่ดิม 
ไม่ได้ต้องสะกด ความรู้สึกใดๆ  กลัวก็รู้ว่ากลัว มากน้อย ก็รู้ว่ามากหรือน้อย 
ไม่ได้สะกดอารมณ์ และไม่เฉไฉ ไปหาอารมณ์อื่นมากลบฝังอารมณ์เดิม ไม่ได้หาสุขมาลบความทุกข์ 
ความคิด ความรู้สึก อารมณ์เพียวๆ  นั่นแหละ คือของแท้ แต่ธรรมะที่เอามาใช้ตามสันดานปุถุชน นั่นแหละ คือสัทธธรรมปฎิรูป 
ไม่แท้  แม้ตอนนี้ เมก็ไม่ได้คิดว่า ตนเองเป็นของแท้หรอกค่ะ 

การเรียนรู้ ฝึกฝน ไม่ใช่เพื่อรักษาหน้าตา รักษาฟอร์ม อย่าเป็นผู้ปฎิบัติแบบ  ข้างนอกสงบแต่ภายในพลุกพล่าน 

แต่เป็นแบบเด็กอ่อน ที่ไร้มารยา หิว ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้  เมื่อมองเด็ก เราก็จะรุ้ความรู้สึกได้ชัด 
แต่ถ้ามองนักปฎิบัติ  ที่ย้อม ที่ตบแต่ง  ก็จะมองยาก  ในความซ่อนเร้น
และก็ซ่อนเร้นจน ตัวเองก็ไม่อาจมองตัวเองออกได้ ว่าปลอม 

เมก็ทำตัว เป็นอย่างคนปกตินั่นแหละ ไม่ได้สร้างความปกติ แล้วคิดว่าตัวเองปกติ 
เช่นบางคน อยู่หน้าผู้ใหญ่ ทำเรียบร้อย แต่ลับหลังเป็นลิง แล้วคิดเองว่า ตอนอยู่หน้าผู้ใหญ่นั่น คือความปกติ 

การเห็นผี ก็ไม่ได้ทำให้เม เป็นผู้วิเศษแบบใครอื่น  เป็นคนโดนผีหลอกอย่างปกติค่ะ ไม่ใชเซียนเรื่องผี 

อาศัยผัสสะ สัมผัส ไปตรงๆ ดีก็ยอมรับ ไม่ดีก็ยอมรับ กลัว ก็ยอมรับ  ทนไหว ไม่ไหว กรี๊ด ก็กรี๊ด ก็ไม่เคยฝืนไป ไม่ทำแข็งใจ 
ก็วิสัยคนตรงเนาะคะ  ไม่หลอกตัวเอง 

แต่ปรับปรุง รู้สึกว่าดีขึ้น ก็ย้อนมาตรวจลักษณะ  เราเห็นลักษณะชัดขึ้นมั๊ย อสุภะ ทุกข์ อนิจจะ ....ก็ตรวจสอบตัวเองได้เบื้องต้น 
ความอิสระก็มากขึ้น เผชิญอะไรต่ออะไร ก็เอามาเป็นเครื่องฝึกไป ฝึกตน ปราบตน ปราบใจพยศตน 
ไม่ได้ไปฝึกผี ไม่ได้ไปปราบผี ไม่ได้ไปไล่ผี  อย่าได้เบียดเบียนกันเลย เนาะคะ

ก็วนเวียนอยุ่กับสติปัฎฐานสี่ ไป   ก็ดีนะคะ เรียกว่าได้ผีเป็นครู  ได้มาเป็นครูสอนพิเศษสำหรับเม ไปด้วย 
ได้ผี เป็นติวเตอร์ ให้สติระลึก ให้ความรู้สึกตัว ได้ปรับปรุงไปดีขึ้นๆ 

คนอื่นอาจว่าเป็นแค่ประสบการ์ผีๆ   แต่สำหรับเม เมนับว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามากที่ได้พบเจอ ได้ประสบ

ก็ยังดีที่เม  ได้เหล่าครูบาอาจารย์ คณาจารย์ต่างๆ  ได้รับแนะนำ 
เพราะคงมีวาสนาต่อกันมา ได้เจอได้พบ ได้ธรรมทั้งครูโลกทิพย์ โลกนี้ และที่ละสังขารไป 

เรื่องราวต่างๆที่เจอ แต่ละเรื่องๆ ก็ได้ร้อยลงเป็นมาลัย ดวงใหญ่ขึ้นๆไป ถวายบูชาพระคุณ ทุกท่านไป ได้แสงธรรม 
เป็นแสงสอ่งไปด้านต่างๆกว้างไกลไกลยิ่งขึ้น 

สิ่งที่พบเจอ ก็ต้องย้อนไปในคำในพระธรรม ย้อนไปในตำรา  ในพระไตรปิฎก ในธรรมต่างๆ อรถกถา ฏีกา อภิธรรม 
ความเชื่อใจ ความไว้ใจ  ความวางใจ ความสนิทใจ ความเข้าใจ ความเข้าถึง ความกระจ่าง ก็มากตามไปเรื่อย


การได้เจอผี เจอเรื่องทิพย์ โลกทิพย์ ครุบาอาจารย์ต่างๆ สำนักต่างๆ ลัทธิต่างๆ ศาสนาต่างๆ นิกายต่างๆ 
 ทำให้ หูตาสว่างมากขึ้น  
แต่ไม่ติดว่า เป็นคนเห็นผี คนสัมผัสผี   คนสื่อวิญาน สื่อสารท่านโน้นท่านนี้

เมก็เจอผีมามากหลายแบบหลายอย่าง ค่ะ ผีอำ  ผีลามก ผีดิบ ผี18+ ผีเร่ร่อน ผีไร้บ้าน ผีต่างๆ  แบบในหนังก็มี 
การกระทบ สัมผัส ความรู้สึก อารมณ์ ภาพ แสง สี  สมจริง สมจัง ยิ่งกว่าอยู่ในโรงหนังซะอีก 

ก็เหมือนกับเรื่องฝันบางเรื่องแหละค่ะ   เหมือนจริงมากๆ และมักเป็นจริงด้วย

ฝันที่เป็นจริง 
จริงยิ่งกว่าฝันว่าถูกหวยอีก 

ฝันนั้นก็คือ ฝันว่าเข้าห้องน้ำ  ถ้าหลงตาม ไม่ทันในความฝัน  ที่นอนก็จะเปียกหละค่ะ 

ถ้ารู้ทันงันนั้นได้ มีสติได้ ก็รีบลุกไปฉี่ ไปปัสสวะได้  ก่อนจะไหลตามฝันไป
เมเองก็เคยแหละ ฝันแล้วไม่ตื่น ลุกไม่ทัน คิคิ  

ถ้าจะให้เล่าเรื่องผี ไปทุกเรือง ก็คงต้องใช้เวลานานมากค่ะ  กว่าจะเล่าครบ 
เพราะเจอมาทั้งผีไทย ผีต่างชาติ ผึหลายแบบหลายชนิดหลายวัย หลายเรื่องเยอะมาก

นอกจากเรื่องฝัน ก็ประสบเรื่องสำคัญยิ่งๆในชีวิตทั้งๆที่ไม่ได้หลับ เยอะมากมาย 

 ก็เล่าไปแค่นี้แหละค่ะ พอให้ผู้ได้พบผี  ได้เอามาใช้ประโยชน์ หาทางเจริญในธรรม ในการฝึกได้ 
ไม่ว่าจะฝึกแบบสำนักไหน ลัทธิไหน 
กัมฐาน มหาสติ ความรู้สึกตัว ดูจิต ภาวนา เซน มหายาน วัชรยาน  หรือยังอ่านแค่ตำรา 
ก็ให้ เอาประสบการณ์ตัวเอง มาเป็นเครื่องฝึกตนได้ทั้งนั้นค่ะ 

เพราะสิ่งที่เกิดกับตนเองนั้น  คนอื่นไม่ได้รู้สึกชัดเจน เท่าตัวเองหรอก  ความชัดเจนในเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน  เป็นของตนเอง ค่ะ 
จะชัดเจนกว่าใครเล่าให้ฟัง

ก็ขอให้สุขสวัสดี เจอผีกันถ้วนหน้านะค๊ะ
rolleyes


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร