วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 19:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2008, 18:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: มีคำถามอีกแล้วค่ะ :b3: :b3: :b3: :b3:
คือสมมุตินะคะว่า ตอนนี้เราตั้งใจที่จะสวดมนต์ทุกวัน คือบททั่วๆไปนะคะ
เช่น บทสรรเสริญพระรัตนตรัย...บทบูชาพระพุทธคุณ....บทพาหุง......
และต่อด้วยบทอุทิศส่วนกุศล......ฯแผ่เมตตา......นั่งสมาธิ......จบ :b35:
ถ้าเราสวดบทพวกนี้ทุกวัน และต้องตั้งใจที่จะปฎิบัติจริงด้วยใจที่บริสุทธิ์
แล้วในอนาคตต่อๆไป 1...2...3..ปีเราก็ยังสวดเท่านี้
โดยไม่ได้เพิ่มบทอื่นเข้ามาอีกได้หรือเปล่าคะ
หรือว่าต้องมีบทสวดมนต์ที่เพิ่มขึ้น
เพราะการเริ่มต้นที่จะปฎิบัติธรรม
ต้องใช้เวลาทุกอย่าง ไม่ว่าจะจำบทสวด การปรับใจให้เข้าในธรรมะตามไป แม้แต่การนั่งสมาธิ
ถ้าเราปฎิบัติบ่อยๆ ใจเราก็จะพร้อมมากขึ้น แต่เราก็ยังสวดแบบเดิม เท่าเดิม ได้ไม๊คะ
หรือควรที่จะปฏิบัติอย่างไร รบกวนช่วยชี้แนะด้วบค่ะ :b29: :b29: :b29: :b29:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 10:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
แล้วในอนาคตต่อๆไป 1...2...3..ปีเราก็ยังสวดเท่านี้
โดยไม่ได้เพิ่มบทอื่นเข้ามาอีกได้หรือเปล่าคะ


ตอบว่า จะเพิ่มหรือลดบทสวดมนต์ ไม่มีความสำคัญอะไร ท่านต้องการอะไร เปลือก สะเก็ด หรือแก่นของไม้

รูปภาพ

อ้างคำพูด:
หรือควรที่จะปฏิบัติอย่างไร รบกวนช่วยชี้แนะด้วบค่ะ


เปรียบเหมือนคนต้องการแก่นไม้ เที่ยวแสวงหาแก่นไม้ในป่า แต่เนื่องจากไม่รู้จักแก่นไม้ ได้กิ่งและใบสำคัญหมายว่าเป็นแก่น เขาย่อมไม่สำเร็จประโยชน์ในกิจที่จะต้องทำด้วยแก่นไม้

(ในมหาสาโรปมสูตร มัชณิมนิกาย มูลปัณณาสก์ พระสุตตันตปิฎก เล่ม 12 )

แก่นของพระพุทธศาสนาที่ทรงหมายถึงในที่นี้ คือ วิมุติความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง


เราประพติพรหมจรรย์นี้ เพื่อความหลุดพ้นแห่งจิตอันไม่กำเริบ

ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ เป็นแก่นสารที่แท้จริง

เมื่อเราต้องการแก่นไม้ เราก็ต้องผ่าผ่านเปลือกไม้ สะเก็ดไม้เข้าไป ลอกเปลือกทิ้งไป

อย่าไปยึดนำมาเป็นสาระให้รกรุงรัง อย่าเข้าใจผิดยึดว่าเป็นแก่น

เช่นกันเมื่ออาศัยบทสวดมนต์(เปรียบเหมือนเปลือกไม้) นำสมาธิ มีปัญญา

เข้าไปหาความสงบของจิตได้แล้ว ความหลุดพ้นของจิตนั้นคือแก่น

ไม่ใช่ติดแค่บทสวดมนต์ และสำคัญว่าสิ่งนั้นคือแก่นไม้....


:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


จริงครับท่านฌานว่าชอบแล้ว
แก่นคือความรู้ที่ไม่มีอะไรจะเท่าได้รู้เห็นเอง
ด้วยทาน ส๊ล สมาธิ ปัญญา ขั้นโลกุตระครับ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
สมมุตินะคะว่า ตอนนี้เราตั้งใจที่จะสวดมนต์ทุกวัน คือบททั่วๆไปนะคะ
เช่น บทสรรเสริญพระรัตนตรัย...บทบูชาพระพุทธคุณ....บทพาหุง......
และต่อด้วยบทอุทิศส่วนกุศล......ฯแผ่เมตตา......นั่งสมาธิ......จบ

ถ้าเราสวดบทพวกนี้ทุกวัน และต้องตั้งใจที่จะปฎิบัติจริงด้วยใจที่บริสุทธิ์
แล้วในอนาคตต่อๆไป 1...2...3..ปีเราก็ยังสวดเท่านี้
โดยไม่ได้เพิ่มบทอื่นเข้ามาอีกได้หรือเปล่าคะ


ได้ครับ
บททำวัตรเช้า-เย็น ก็มีอยู่แค่นั้น พระท่านก็สวดกันอยู่เท่านั้น
ส่วนตัวใครจะหาอาหารสมองเพิ่มอีกก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล หากเห็นประโยชน์ต่อการฝึกจำ
ข้อมูลใหม่ๆ สมองจะไม่เสื่อมความจำจะดีไม่หลงเลือนก็สามารถทำได้ ก็เหมือนเราอยู่ในสถานที่จำเจ ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่อื่นซึ่งยังไม่เคยไปบ้าง จะรู้สึกดีขึ้น ฉันใด
บททำวัตรเช้า-เย็นก็ดี หรือบทอื่นใดก็ดี เราสวดท่องจนขึ้นใจแล้ว จะเพิ่มบทอื่นอีก เราก็ได้เรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆอีก ได้ฝึกสติฝึกความจำ (สัญญา) ฝึกสมองฉันนั้นแล


หรือเหมือนผู้ปฏิบัติกรรมฐาน เริ่มต้นก็เริ่มใช้เวลาตั้งแต่น้อยไปหามาก เช่น เริ่มที่ 10 นาที
เมื่อนามธรรมรูปธรรมแกร่งขึ้นแล้วปรับสภาพได้ดีขึ้นแล้ว ก็เพิ่มเวลาขึ้นไปอีก เป็น 15 นาที เมื่อ 15 นาที แกร่งแล้ว ก็ขยับขึ้นไปอีก 20 นาที ฯลฯ 60 นาที องค์ธรรมจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นิ่งขึ้นตามลำดับ


สังเกตคุณ O.wan สนใจการทำวัตรเช้า-เย็น และสวดมนต์บทอื่นอีก ดังนั้นกรัชกายขอแรงให้คุณ O.wan ช่วยดูบททำวัตรลิงค์นี้ให้หน่อยครับ มีอะไรบกพร่องบ้าง หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจช่วยบอกด้วยนะครับ


http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=19423

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร