วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 01:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใจเป็นกุศลมากๆจ้ะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ คงไม่เสียเวลาไปก๊อบมาอีกหรอกคะ คนอ่านเค้าอ่านผ่านตามาแล้ว และอีกอย่างไม่อยากเอามาทั้งท่อน อ่านมัน มันทำให้สรุปออกมาเป็นอย่างนี้ พลศักดิ์ น่าจะติตัวเองนะว่าอธิบายยังไง นกแก้ว นกขุนทองถึงดันมาเข้าใจแค่นี้ อีกอย่างคนอ่านกท.ของพลศักดิ์ได้นี่ ก็เยี่ยมยุทธและค่ะ :b2: :b32:

งั้นเดี๋ยวจะไปศึกษาเพิ่มเติมให้มีปัญญายิ่งๆไปกว่านี้ดีกว่า
แต่ถึงยกมาบางท่อน ก็ทำด้วยกุศลจิตค่ะ :b32:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


:b10: :b5: :b21: :b21: :b21: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


บางครั้งอ่านก็ คล้อย ตาม แต่ บางครั้งเหมือน คิด คาด เดา เอา
ครับสิ่งที่ท่านว่าถูก ก็ขอโมทนา แต่ สิ่ง ที่นอกเหนือ พุทธองค ทรง บัญญัต
ถือว่า ผิด ถึงต้องลง นรก นะครับ
ก็ ภาพ รวมท่าน มี ความคิด ดี กว้าง ไกล แต่ แฝง ความหลงผิด
ควร ลงๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ ถือ ศีล5เป็นบาทฐาน ถ้า ประพฤติ ล่วง ข้อใด
ถือว่า บาป :b20:

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


เคยเขียนไว้หลายที่แล้วมั่งว่า ทุกสิ่งอย่างที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจ จะเถียงกันว่าผิดก็ได้
จะเถียงกันว่าถูกก็ได้ ขึ้นอยู่ที่เจตนาว่า จะเอาแบบถูกใจหรือแบบถูกต้อง ก็อีกนั้นแหละว่า
แบบไหนถูกต้อง แบบไหนถูกใจ เปรียบเหมือนเหรียญบาท คนหนึ่งมองเห็นด้านข้างก็ว่าเหรียญแบน
คนหนึ่งมองเห็นด้านตรงก็บอกว่าเหรียญกลม ทั้งสองคนก็จะดันกันเองในสิ่งที่ตนมองเห็น เพราะความมานะ
ของคนทั้งสองคนนั้น คือไม่มีใครยอมใครในสิ่งที่ตนเห็น ในประเด็นนี้ก็คงไม่แตกต่างกันมานัก
จะอย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงคนหนึ่งมองเห็นเหรียญด้านนอนก็แล้วกันนะ
ท่านพลศักดิ์ ไปแสดงธรรมที่เวบเราบ้างก็ได้นะ ที่ WWW.SUPASOK.Com

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


บุญชัย เขียน:
บางครั้งอ่านก็ คล้อย ตาม แต่ บางครั้งเหมือน คิด คาด เดา เอา
ครับสิ่งที่ท่านว่าถูก ก็ขอโมทนา แต่ สิ่ง ที่นอกเหนือ พุทธองค ทรง บัญญัต
ถือว่า ผิด ถึงต้องลง นรก นะครับ
ก็ ภาพ รวมท่าน มี ความคิด ดี กว้าง ไกล แต่ แฝง ความหลงผิด
ควร ลงๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ ถือ ศีล5เป็นบาทฐาน ถ้า ประพฤติ ล่วง ข้อใด
ถือว่า บาป :b20:


1. ผมจะลงนรกหรือไม่ พระยายมราชเป็นผู้ตัดสินครับ ไม่ใช่คุณบุญชัย

2. ความหลงผิด เกิดจากผู้ที่มีมิจฉาทิฏฐิ แต่ผมมั่นใจเกิน 100 ว่าผมมีสัมมาทิฏฐิ

3. ศีล 5 เป็นข้อกำหนดทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ในทุกกรณี เราต้องรู้หลักว่า จิตเจตนาเป็นผู้กำหนดว่า นั่นเป็นบาป หรือเป็นบุญ ถ้าจิตเจตนาเป็นกุศล แม้จะผิดศีล 5 ก็ไม่ใช่บาป

ไม่ใช่ไปท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองว่า ผิดศีล 5 เป็นบาป แล้วจี้กงจะเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ทั้งดื่มเหล้า ทั้งกินเนื้อหมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


tanaphomcinta เขียน:
เคยเขียนไว้หลายที่แล้วมั่งว่า ทุกสิ่งอย่างที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจ จะเถียงกันว่าผิดก็ได้
จะเถียงกันว่าถูกก็ได้ ขึ้นอยู่ที่เจตนาว่า จะเอาแบบถูกใจหรือแบบถูกต้อง ก็อีกนั้นแหละว่า
แบบไหนถูกต้อง แบบไหนถูกใจ เปรียบเหรียญบาท คนหนึ่งมองเห็นด้านข้างก็ว่าเหรียญแบน
คนหนึ่งมองเห็นด้านตรงก็บอกว่าเหรียญกลม ทั้งสองคนก็จะดันกันเองในสิ่งที่ตนเห็น เพราะความมานะ
ของคนทั้งสองคนนั้น คือไม่มีใครยอมใครในสิ่งที่ตนเห็น ในประเด็นนี้ก็คงไม่แตกต่างกันมานัก
จะอย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงคนหนึ่งมองเห็นเหรียญด้านนอนก็แล้วกันนะ


ประเด็นของผมก็คือ ทีมงาบเว็บลบกระทู้ของผมไปได้อย่างไร ที่นี่ใช้ระบอบเผด็จการทางความคิดหรือไง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 16:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ครับโลกนี้คือสมมุต อย่ายึดครับ

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


ฝากไว้ให้คิด



ฝากไว้ให้คิด
ทุกวันนี้ ไปที่ไหนก็จะได้ยินคำว่า ทุกข์ เงินไม่พอใช้ลูกหลานว่ายากสอนยากไม่มีใครฟังเสียงใครเอาตัวรอดตัวใครตัวมัน ไม่เคยได้ยินว่าสบายมากไม่มีอะไรเลย สบายดี มีอยู่ที่เดียวเท่านั้นที่จะได้ยินคำว่า สบายมาก คือที่วัดเท่านั้น แต่ก็เป็นบางวัดและบางพระเท่านั้น เพราะบางวัดก็ปวดหัวในเรื่องหาเงินมาก่อสร้าง บางพระก็ทุกข์ใจในการหาทางรวยโดยหาเงินชื่อหวยเบอร์หรือบางที่ก็จะเห็นบ้างหาเงินส่งลูกเรียนก็มี (ตามที่เคยสำพัดมา) กลับมาคุยเรื่องทุกข์ก่อน เมื่อคนมีทุกข์ทางใจ ก็มักจะหาทางออกไม่เหมือนกัน คือหาทางแก้ทุกข์ไม่เหมือนกัน บ้างก็หาทางออกโดยการไปเข้าวัดไปปรึกษาพระสงฆ์ บ้างก็หาทางออกโดยการเข้าวัดไปกราบไหว้พระพุทธรูปพระประธาน ในอุโบสถบ้างหรือตามเจดีย์บ้าง ตามโรงพระพุทธรูปที่มีอยู่ภายในวัด บ้างก็หาดื่มเหล้านอกบ้านเพื่อจะได้หายทุกข์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ตัวเองหายจากความทุกข์ แต่โดยส่วนมากมักจะกินยาไม่ถูกโรคเสียมากกว่า ทำไมถึงว่ากินยาไม่ถูกโรค ก็เพราะว่าการที่คนเราเมื่อมีทุกข์นั้น โดยมากมักจะไม่ค่อยมีสติปัญญายั้งคิด หรือถ้ามีสติปัญญาก็น้อยเต็มที ในขณะที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธที่เรียกว่าคลังแห่งปัญญา เป็นศาสนาที่สอนคนให้เป็นคนและสอนคนให้พ้นทุกข์ได้อย่างเด็ดขาดโดยที่ไม่กลับมาทุกข์อีก แต่มักจะเห็นทางตรงกันข้าม โดยบางเรื่องที่เรามักเห็นกันจนชินตาและไม่เคยมีใครคิดทักท้วนกันเลยก็คือการที่คนเข้าวัดไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระพุทธรูป แล้วก็อ้อนวอนขอบนบานให้ช่วยโน้นช่วยนี้ โดยไม่มีใครให้คำแนะนำบอกสอนในทางที่ถูกเลย เพราะที่คนเข้าวัดไปกราบขออ้อนวอนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเกิดความเชื่อศรัทธาให้เกิดมีกำลังใจเท่านั้น เมื่อมีศรัทธามีความเชื่อแล้วก็ควรจะมีสติปัญญาตามมาอีกด้วย ในการต่อไปควรที่จะเข้าไปหาพระสงฆ์ที่มีความรู้มีความสามารถ และมีประวัติที่ดีงามมีคนนับถือศรัทธา เพราะการเข้าไปหาพระนั้นอย่างน้อย ท่านก็ยังมีคำพูดออกมาให้เรารู้ว่าอะไรดี อะไรถูกหรือผิด ตรงกันข้ามกับการไปกราบไหว้พระพุทธรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะการที่คนเรากราบไหว้พุทธรูปก็ดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ดี นั้นเป็นแต่เพียงเราหลอกตัวเองเท่านั้น ทำไมจึงว่าหลอกตัวเอง ก็ เพราะว่า เคยมีสักคนบ้างไหมที่สิ่งเหล่าบอกท่านว่า เออ ดีแล้ว ที่เธอมากราบเราขออ้อนวอนเราๆจะให้สิ่งทีเธอต้องการ เคยมีใครได้ยินบ้างไหม แต่ถ้าเข้าไปกราบพระสงฆ์ อย่างน้อยๆ เราจะได้ยินคำว่า เจริญพรนะโยม คุณพระจงคุ้มครองโยมนะ หรือไหว้พระจงเจริญนะโยม หรือไปไหงมาไหงจึงได้มาที่นี้ มีอะไรหรือโยม และพระสงฆ์บางองค์ท่านก็สามารถแนะทางตันของผู้ที่เข้าไปหาได้ แต่บางองค์ท่านก็มองผลแระโยชน์ตัวเองเป็นหลักก็มี แต่ก็มีน้อยโดยมากท่านก็หาทางปรับทุกข์ให้คนที่เข้าไปหาได้รับความสบายใจ ไม่ใช้ว่าการที่กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระพุทธรูปเป็นสิ่งไม่ดี เพียงแต่จะชี้แนะว่าเราได้รับคำแนะนำจากพระสงฆ์ กับที่เราคิดว่า พระพุทธรูปจะให้สิ่งที่เราต้องการ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะให้สิ่งนั้นสิ่งนี้แก่เรา นั้นเป็นเพียงเราคิดเอาเองใช้ไหมแต่การที่เข้าไปหาพระ อย่างน้อยที่สุด เราก็มักจะได้ยินว่า มีธุระอะไรหรือโยม หรือ มีอะไรโยม หรือ ต้องการอะไรคุณโยม ถ้าเรามีทุกข์ ก็บอกไปว่า ผมมีความกลุ้มใจอยากมาหารือปรึกษาท่านครับ ท่านก็จะถามเราว่า *มีเรื่องอะไรหรือโยม หรือคุณโยม* ตามแต่พระท่านแต่ละองค์ที่ท่านถนัด แต่หลวงตาอีกองค์หนึ่งท่านมักพูดกับโยมว่า เป็นอย่างไงโยมร่างกายเราใช้มานานแล้วสบายดีหรือ ท่านจะไม่พูดว่าคุณโยมและไม่ถือตัวนั่งได้ตามสบายไม่มีคะไม่มีจ๊ะไม่มีความอ่อนหวานในคำพูดของท่านก็มีมาก บางคนก็จะบอกว่า โอย* ไม่ไหวแล้วหลวงพ่อ *ทำไมละ *ก็มันเจ็บปวดไปหมด กินไม่ได้นอนก็ไม่หลับแล้ว เอย* ใกล้จะกลับแล้วสินะ *จะกลับไปไหนหลวงพ่อก็พึ่งจะมาหาหลวงนี้จะกลับไวได้อย่างไหง “ไม่ใช้กลับในความหมายนั้น *อ้าวแล้วจะกลับแบบไหนละหลวงพ่อ “ ก็กลับไปบ้านเก่าที่เคยจากมานั้นไง * บ้านเก่าที่ไหนไม่เคยมีบ้านเก่าบ้านไหมเลยมีบ้านหลังเดียวเองแต่เกิดมา “ ไม่ใช้อย่างงั้นไม่ใช้บ้านเก่าบ้านใหม่อย่าง หมายถึงว่าเรานะใกล้วันตายเข้ามาทุกเวลาแล้วหมายถึงว่าใกล้จะตายแล้ว “ ยังหรอกหลวงพ่อขออยู่ไปอีกสักสิบกว่าปีก่อน *โยมเอย* ถ้ามัจจุราชเขาฟังเราขอร้องได้ก็จะดีนะสิ โยมควรเตรียมตัวได้แล้ว เพราะความตายไม่ได้บอกเวลาล่วงหน้าเลย จะตายวันไหนไม่มีใครรู้ได้ ทุกคนเกิดมาในโลกนี้จะต้องตายกันทั้งนั้น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่รอดพ้นจากความตายไปได้ ตายแล้วกลับมาเกิดเป็นคนเหมือนเดิมได้ อย่างนายเล็งกลับมาเกิดเป็นหลวงปู่โชติได้ก็ดี ถ้าหากไม่ได้ทำบุญไว้มีแต่ทำบาปมากกว่าบุญก็ไม่แน่ว่าจะได้เกิดมาเป็นคนอีก *โอ๊ย จะได้มาเกิดอีกหรือหลวงพ่อ *อ้าว ก็รู้ก็เห็นอยู่แล้วว่านายเล็งกับมาเกิดเป็นเด็กชายโชติ และสุดท้ายท่านได้เป็นถึงพระเทพสุทธาจารย์ไม่รู้จักหรือ เป็นเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณ์ อยู่ที่อำเภอปากช่องนครราชสีมาโน้น *ไม่รู้เจ้าค่ะ *ถ้าอย่างนั้นฟังนะ*เจ้าค่ะ*พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านได้ตรัสรู้ธรรมเป็นเครื่องพ้นจากทุกข์ และนำมาสั่งสอนไว้ให้ทุกคนได้รู้ ที่พระองค์ตรัสรู้ธรรมนั้นเป็นของจริงทุกสิ่งอย่าง ไม่มีการดัดแปลงแต่งตกไปจากของจริงเลย ท่านตรัสว่ามีเกิดแก่เจ็บตาย มันก็มีจริง มีสุขมีทุกข์ ก็มีจริงๆ ท่านตรัสสอนว่า คนเราแต่ละคนที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนแล้วเคยเกิดเคยตายมาแล้วไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ แต่ไม่มีใครทราบได้ เพราะทุกคนมีความไม่รู้อยู่ในตัวทุกคน (ความโง่) จึงไม่รู้ว่าตัวเองเกิดแก่เจ็บตายมาแล้วกี่ภพกี่ชาติ *ทำอย่างไรจึงจะรู้เจ้าค่ะ *พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสไว้ว่า ศีล.สมาธิ.ปัญญา. ๓ ประการย่อๆนี้แหละจะเป็นหนทางให้คนเรารู้ได้มากน้อยตามแต่กำลังศรัทธาของแต่ละคน ศรัทธามากปฏิบัติมากก็รู้ได้มาก ศรัทธามากปฏิบัติน้อยก็รู้ได้น้อย ไม่ศรัทธาไม่เชื่อไม่ปฏิบัติเลย* ก็โง่ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้แม้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป โดยมากคนมักจะไม่ค่อยสนใจเรื่องพุทธศาสนาจะสนใจแต่เรื่องอื่นเสียมากกว่า การที่จริงแล้ว พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งปัญญาโดยแท้ เป็นศาสตร์ที่ผู้ใดเข้าไปศึกษาและปฏิบัติตามจะเห็นจริงรู้จริงตามที่ท่านตรัสไว้ สามารถพิสูตได้ เพราะมันเป็นของที่มีอยู่ตามความเป็นอย่างนั้น ใครเรียนหรือใครจะไม่เรียนไม่รู้ ความเป็นจริงมันก็เป็นจริงอยู่โดยที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากพระพุทธเจ้า และสาวกของพระองค์ที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์เท่านั้น ที่พระพุทธเจ้าและสาวกของพระองค์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็คือ เมื่อมีเกิดแก่เจ็บตาย มันจะต้องมีไม่เกิดไม่แก่ไม่เจ็บและไม่ตายได้ *นี้พระองค์และสาวกท่านมาเปลี่ยนแปลงตรงนี้ *เรียกว่าทวนกระแส* แต่เราท่านทั้งหลายนี้สิมีแต่ตามกระแสไม่เคยคิดทวนกระแสเหมือนอย่างท่านเลยจะมีใครสั่งสอนแนะนำอย่างไรก็ไม่สนใจ ขอให้ตามกระแสและตามใจกิเลสไปก่อน กิเลสมันพาโลภก็โลภกับมัน กิเลสมันพาหลงก็หลงกับมัน กิเลสมันพาโกรธก็โกรธกับมัน โดยเฉพาะความหลงนี้ร้ายมาก หลงว่าตัวเองสวยงาม หลงว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ หลงว่าตัวเองจะไม่แก่ หลงว่าตัวเองจะไม่ตายง่าย หลงว่านี้ก็ของเราเมียนี้ก็ของเราลูกนี้ก็ลูกเรา และยังหลงว่าตัวเองยังหนุ่มอยู่ยังไม่ต้องทำบุญเข้าวัดก็ได้ เอาไว้แก่ใกล้ตายก่อนค่อยเข้าวัดทำบุญก็ได้ แต่พอแก่เข้าวัดพระพานั่งสวดมนต์ทำวัตรนั่งทำสมาธิ *โอยไม่ไหวแล้วหลวงพ่อ* บางคนหลงหนักมาก ก่อนจะตาย ละเมอหลงเก็บเงินเก็บทองของมีค่าเอาไว้เหมือนจะเอาไปด้วยได้ ก็ไม่เคยเห็นหรือมีใครเอาอะไรไปได้บ้างเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่เงินอยู่ในปากเขายังเอาออก หรือไม่เคยเห็นเลย แก่ปานนี้แล้วน่าจะมีความสงสัยสังเกตดูบ้าง ที่ว่ามานี้โยมพอจะปล่อยจะวางได้บ้างไหม “ โอยปล่อยวางไม่ได้หรอกหลวงพ่อ ไหนจะห่วงลูกสาวไหนจะห่วงลูกชายที่ไม่เอาถ่าน แต่ละคนมันไม่มีทีท่าว่าจะได้ดังใจเลย “ แล้วโยมคิดถึงตอนที่โยมเป็นลูกของพ่อแม่แต่ก่อนนั้นโยมทำอะไรได้ดังใจพ่อแม่บ้างหรือเปล่า “ ไม่เคยเลยหลวงพ่อวันๆโดนแม่พ่อด่าไม่เว้นแต่ละวันเลย บางทียังคิดว่าพ่อแม่ไม่รักเราด้วยเพราะทำอะไรไม่เคยถูกใจพ่อแม่สัดที “ นั้นไหงหลวงพ่อนึกแล้วไม่ผิด “ ไม่ผิดอย่างไรหลวงพ่อ “ อ้าวก็ไม่ผิดที่โยมเคยทำไว้กับพ่อแม่อย่างไร ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะไม่รักลูก ตอนนี้พอมาเป็นพ่อแม่บ้างก็โดนเหมือนตัวเองที่ทำไว้กับพ่อแม่นะสิ ” อ๋อ มันเป็นกรรมตามทันว่าหงั่นเถอะหลวงพ่อ “ ก็ใช้นะสิ เพราะว่าเราได้ทำอะไรกับผู้มีพระคุณโดยฉะเพราะอย่างยิ่งคุณพ่อคุณแม่แล้วยิ่งเป็นกรรมหนัก เพราะฉะนั้นที่โยมโดนลูกไม่เชื่อฟังไม่ได้ดังใจ ก็กรรมที่เราเคยทำไว้กับคุณพ่อคุณแม่นั้นแหละตามมาให้ผลตอนนี้ เชื่อหรือยังว่าบาปมีบุญมีกรรมเวรมีจริง “เชื่อก็ได้หลวงพ่อ “ ไม่ใช้เชื่อก็ได้ ? ต้องเชื่อเข้าจิตรเข้าใจด้วย และเชื่อโดยไม่มีใครบังคับ
ต้องเชื่อโดยเหตุและผลตามความเป็นจริงด้วย จึงจะเรียกว่าศรัทธาคือความเชื่อ เชื่อในความสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้รู้ดีรู้ชอบประกอบด้วยพระองค์เองแล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม เชื่อในธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าว่าเป็นของจริง และสามารถปฏิบัติตามได้จริง และเชื่อว่าพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัยแล้ว จะเป็นผู้รู้ได้เห็นได้ ตามที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน นี้แหละต่อไปนี้ขอให้โยมจงเตรียมตัวก่อนที่จะตายไปจากโลกนี้ เตรียมหาเสบียงไว้คือบุญจะได้ไม่ลำบากเมื่อไปสู่ปรโลกข้างหน้า เพราะเมื่อตายไปแล้ววิญญาณเราก็จะไปตามเวรกรรมที่เราได้ทำไว้ไม่มีใครจะพ้นจากบาปกรรมที่เราทำไว้ เอาละโยมพอจะรู้และเข้าใจบางอย่างได้บ้างแล้วนะ มาหาหลวงพ่อนานแล้วพอสมควรกลับบ้านได้แล้ว หลวงพ่อไม่ได้ไล่โยมนะ ไม่เข้าใจสงสัยอะไรก็มาหาได้วันไหนก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจนะแม้หลวงพ่อจะจำวัดอยู่ก็เรียกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ “เออสบายใจแล้วหลวงอิฉันกราบลาแหะ “ เออโชคดีมีชัยทำใจให้สบายนะ “ เจ้าคะ “
ที่ให้ข้อคิดสะกิจใจมาบางอย่างนี้ ท่านผู้อ่านจะว่าอย่างไร ถ้าหากข้อคิดที่ให้ไปนี้เป็นข้อคิดที่ผิดไปจากความเป็นจริง ไม่น่าจะเป็นไปได้ ความผิดนั้นขอให้ตกอยู่ที่ผู้เขียนเพราะความรู้น้อยจึงอาจผิดพาดได้บ้าง ขอความกรุณาท่านผู้รู้ทั้งหลายจงได้ให้ความเมตตาแก่ผู้น้อยด้วย กรุณาแนะนำบอกกล่าวได้จะถือว่าท่านเป็นผู้นำมาให้ซึ่งขุมทรัพย์แห่งปัญญาอันมหาศาล แต่ถ้าหากว่าสิ่งที่ท่านได้อ่านได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นข้อคิดที่ดีและมีประโยชน์แก่คนทั้งหลายแล้วก็ ขอยกผลคุณงามความดีทั้งหมดให้แก่บุรพาจารย์ กล่าวคือพ่อแม่คูบาอาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอนมา ขอพ่อแม่คูบาอาจารย์จงได้รับส่วนคุณงามความดีอันนี้ด้วยเทอญ ฯ พระครูอมรศีลวิสุทธิ์
(เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์เลยก๊อบแก๊ปมาจาก http://www.supasok.com เพราะเคยมาก๊อบแก๊ปเอาจากแว๊บนี้เหมือนกัน)

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
เอวัง..ก็มี..ด้วยประการ..ฉะนี้
:b35: :b25: :b25:

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 23:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ก.ค. 2008, 15:51
โพสต์: 334

งานอดิเรก: ชอบเรื่องพลังงาน
สิ่งที่ชื่นชอบ: มิลินทปัญหา
ชื่อเล่น: อมร
อายุ: 63
ที่อยู่: 138 หมู่ที่ 1 ต.โนนคูณ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180

 ข้อมูลส่วนตัว www


3. ศีล 5 เป็นข้อกำหนดทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ในทุกกรณี เราต้องรู้หลักว่า จิตเจตนาเป็นผู้กำหนดว่า นั่นเป็นบาป หรือเป็นบุญ ถ้าจิตเจตนาเป็นกุศล แม้จะผิดศีล 5 ก็ไม่ใช่บาป

ไม่ใช่ไปท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองว่า ผิดศีล 5 เป็นบาป แล้วจี้กงจะเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ทั้งดื่มเหล้า ทั้งกินเนื้อหมา

ว่าจะแล้วผ่านไปนะ แต่พอมาอ่านข้อความอีกที่ก็ทำให้สงสัยขึ้นมาทันทีเลย
ขอให้คุณพูนศักดิ์ ต้องอธิบายอีกแล้วละ ว่าแบบไหนเป็นบาป แบบไหนเป็นบุญ รวมทั้งพระอรหันต์จี้กงด้วย
บวชมา 25 พรรษาแล้วยอมรับว่ายังโง่อยู่เลยช่วยด้วยนะ เอาให้ระเอียดเลยนะ ยกตัวอย่างด้วย
เอวัง

.....................................................
ทำบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาทำบุญอุทิศหา รักษาศีลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาเคาะโลงลุกขึ่นมารักษาศีล เข้าวัดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าตายแล้วให้เขาหามเข้าแล้วเผาเลย ฮิฮิฮิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 23:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2008, 13:47
โพสต์: 288


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ พลศักดิ์

คุณได้รับค่าจ้าง จากการมา post ข้อความใน webboard หรือเปล่า ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2008, 11:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


guest เขียน:
คุณ พลศักดิ์

คุณได้รับค่าจ้าง จากการมา post ข้อความใน webboard หรือเปล่า ครับ



ผมได้รับค่าจ้างจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกเดือนล่ะครับ ไม่งั้นผมจะมา post ข้อความใน webboard 4-5 เว็บให้ชาวบ้านเขารุมต่อว่าอยู่อย่างนี้ทำไม ตอบโต้ก็ไม่ได้ ต้องให้อภัย และอโหสิกรรมให้คนที่ต่อว่าผมด้วย เพราะรู้ว่าผู้ที่ด่าผู้มีจิตบริสุทธิ์นั้นบาปมากกว่าด่าคนธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2008, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


tanaphomcinta เขียน:
3. ศีล 5 เป็นข้อกำหนดทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ในทุกกรณี เราต้องรู้หลักว่า จิตเจตนาเป็นผู้กำหนดว่า นั่นเป็นบาป หรือเป็นบุญ ถ้าจิตเจตนาเป็นกุศล แม้จะผิดศีล 5 ก็ไม่ใช่บาป

ไม่ใช่ไปท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองว่า ผิดศีล 5 เป็นบาป แล้วจี้กงจะเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร ทั้งดื่มเหล้า ทั้งกินเนื้อหมา

ว่าจะแล้วผ่านไปนะ แต่พอมาอ่านข้อความอีกที่ก็ทำให้สงสัยขึ้นมาทันทีเลย
ขอให้คุณพูนศักดิ์ ต้องอธิบายอีกแล้วละ ว่าแบบไหนเป็นบาป แบบไหนเป็นบุญ รวมทั้งพระอรหันต์จี้กงด้วย
บวชมา 25 พรรษาแล้วยอมรับว่ายังโง่อยู่เลยช่วยด้วยนะ เอาให้ระเอียดเลยนะ ยกตัวอย่างด้วย
เอวัง


เดี๋ยวตอนเย็นจะกลับมาตอบครับ ตอนนี้ไปธุระก่อน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2008, 11:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2008, 13:47
โพสต์: 288


 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
guest เขียน:
คุณ พลศักดิ์

คุณได้รับค่าจ้าง จากการมา post ข้อความใน webboard หรือเปล่า ครับ



ผมได้รับค่าจ้างจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกเดือนล่ะครับ ไม่งั้นผมจะมา post ข้อความใน webboard 4-5 เว็บให้ชาวบ้านเขารุมต่อว่าอยู่อย่างนี้ทำไม ตอบโต้ก็ไม่ได้ ต้องให้อภัย และอโหสิกรรมให้คนที่ต่อว่าผมด้วย เพราะรู้ว่าผู้ที่ด่าผู้มีจิตบริสุทธิ์นั้นบาปมากกว่าด่าคนธรรมดา

เดือนละเท่าไหร่ครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร