วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 03:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ค่ะ :b8:

นิตยสารฉบับส่งท้ายปลายปี ๒๕๕๑ นี้
เปิดมาก็ได้ทักทายคุณผู้อ่านตรงกับ "วันคริสต์มาส" พอดีเลยนะคะ
เป็นวันบรรยากาศเริงรื่น ชื่นมื่น ได้อารมณ์จิงเกิลเบลล์ กันอีกคราหนึ่ง
หลังจากที่ผ่านวันวุ่นวายในช่วงสามร้อยกว่าวันที่ผ่านมา

เห็นความแตกแยกทะเลาะเบาะแว้งของผู้คนในประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาแล้ว
กลับมาคิดดูอีกที ที่จริงแล้ว ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์บ้านเมืองมาเป็นปัจจัยก็ตาม
แต่ในชีวิตประจำวันของการอยู่ร่วมกัน การมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันในสังคมเล็กๆ ย่อยๆ
เราต่างคนต่างก็มีเรื่องให้กระทบกระทั่งผิดใจกันได้ไม่ยากในทุกๆ วันอยู่แล้วนะคะ


บ้างคนนี้ก็เข้าใจผิดคนโน้น บ้างคนโน้นก็ไม่พอใจคนนี้
บ้างคนนี้ก็พูดจาไม่เข้าหูคนนั้น บ้างคนนั้นก็ไม่ยอมคนโน้น ฯลฯ
จนบางทีที่เคยเห็นเดินกอดคอกันอยู่ ก็พลอยโกรธขึ้งมึนตึงต่อกันไปได้ง่ายดาย

ทั้งที่บางเรื่องอาจเป็นเพียงน้ำผึ้งหยดเดียวเท่านั้นเอง
แต่สำหรับบางคน เรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่อง ก็กลับเป็นเรื่องที่ยากจะอภัยต่อกัน

พระอาจารย์พรหมวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าโพธิญาณ ประเทศออสเตรเลีย
เคยเล่าเรื่อง "อิฐสองก้อน" ไว้ในหนังสือ "ชวนม่วนชื่น" ไว้อย่างน่าฟังทีเดียวค่ะ
พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็เลยอยากนำมาเล่าให้คุณผู้อ่านที่ยังไม่เคยอ่านได้ฟังกันดูนะคะ

พระอาจารย์พรหม ท่านเล่าว่า ตอนที่ท่านเริ่มสร้างวัดจากที่ดินเปล่าๆ ผืนหนึ่ง
การก่อสร้างนั้นช่างยากเย็น แม้แต่การก่อกำแพงอิฐที่ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ
แค่โปะปูนลงไป แล้ววางก้อนอิฐ แตะด้านนี้ที ด้านนั้นที ให้เข้าที่ ก็น่าจะใช้ได้แล้ว

แต่ความจริง... ตอนเริ่มก่ออิฐใหม่ๆ แตะกดมุมหนึ่ง อีกมุมหนึ่งก็กลับยกขึ้น
พอกดด้านที่ยกให้ลงมา อิฐก็เริ่มแตกแนว พอดันกลับเข้าที่ มุมแรกก็สูงเกินไปอีก
แต่ท่านก็อดทนก่อกำแพงอิฐนี้อย่างไม่สนใจว่าจะต้องใช้เวลายาวนานสักเท่าใด
เพื่อจัดเรียงอิฐทุกก้อน ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และถูกวางไว้โดยสมบูรณ์ที่สุด
จนกระทั่ง กำแพงอิฐแผงแรกสำเร็จลงด้วยดี

ท่านก้าวถอยหลังออกมาเพื่อชื่นชมผลงานนั้น
แต่แล้ว... ก็กลับสังเกตเห็นว่า มีอิฐอยู่สองก้อน ที่ทำมุมเอียงกับแนวอิฐก้อนอื่นๆ
ทำให้กำแพงทั้งแผงมีตำหนิและดูไม่สวยงามเลย


แต่ถึงเวลานั้น ปูนก็แข็งเกินกว่าที่จะดึงอิฐสองก้อนนั้นมาเรียงใหม่ได้แล้ว
พระอาจารย์พรหมท่านรู้สึกอับอายอย่างยิ่งที่กำแพงมีความน่าเกลียด ไม่สวยงาม
จึงขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสทุบทิ้งเพื่อที่จะสร้างใหม่ แต่ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาต

นับตั้งแต่นั้น เมื่อมีแขกมาเยี่ยมชมวัด พระอาจารย์พรหมก็มักจะพาผู้ที่มาเยี่ยมชม
เดินเลี่ยงกำแพงแถบนั้น และดึงความสนใจไปที่ส่วนอื่นๆ เสมอๆ

จนกระทั่ง ๓ เดือนต่อมา มีผู้มาเยี่ยมชมวัดคนหนึ่ง
เห็นกำแพงนั้นเข้า และเอ่ยกับท่านว่า "กำแพงนี้สวยดีนี่"

"คุณลืมแว่นสายตาไว้ในรถหรือเปล่า
คุณไม่เห็นหรือว่ามีอิฐ ๒ ก้อน ที่ก่อผิดพลาด จนกำแพงดูไม่ดี"


"ใช่... ผมเห็นอิฐสองก้อนนั้น" ชายผู้นั้นตอบ

"แต่ผมก็เห็นด้วยว่า มีอิฐอีก ๙๙๘ ก้อน ก่อไว้เป็นระเบียบสวยงามมาก"

พระอาจารย์พรหมถึงกับอึ้ง...

เป็นครั้งแรกในรอบ ๓ เดือน ที่ท่านสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่นๆ บนกำแพง
ที่ผ่านมา นอกเหนือจากอิฐ ๒ ก้อนที่เป็นปัญหา ตาของท่านมืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด
ทั้งที่จริง อิฐทุกก้อน ทุกตำแหน่ง นอกจากอิฐ ๒ ก้อนนั้น ล้วนก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ
ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนอิฐที่ดีก็มีมากกว่าอิฐไม่ดี ๒ ก้อนนั้นด้วย


ท่านอยากทลายกำแพงลง เพราะมองเห็นแต่อิฐ ๒ ก้อนที่ผิดพลาด

ทันทีที่ความรู้สึกเปิดกว้าง มองเห็นอิฐก้อนดีๆ จำนวนมากบนกำแพงนี้
กำแพงเดิมที่อยากทลายลงก็กลับงดงามขึ้นมาทันที

"ใช่... กำแพงนี้สวยดี" พระอาจารย์พรหมหันไปเปรยกับชายผู้มาเยี่ยมชมคนนั้น

นับแต่นั้น เมื่อท่านมีสายตาที่สามารถมองเห็นอิฐดีๆ ได้แล้ว
กำแพงนี้ก็ไม่น่าเกลียดสำหรับท่านอีกต่อไป…


เช่นเดียวกัน เราทุกคนต่างก็มีอิฐ ๒ ก้อนนั้นอยู่ในตัวเองกันทั้งนั้นนะคะ
ไม่มีใครหรอกค่ะ ที่จะดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเลวร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์
อย่าว่าแต่ใครเลยค่ะ ตัวเราเองนี่แหละ คนเดียวกัน วันเดียวกันแท้ๆ
ยังแกว่งขึ้นแกว่งลง เป็นคนดีบ้าง เป็นคนน่าเกลียดบ้าง สลับกันไปได้ทั้งวัน

หลายคน ตัดสัมพันธ์กับคนเคยที่เคยใกล้ชิดและปรารถนาดีต่อกันมา
เพราะเพ่งมองแต่อิฐที่ไม่ดี ๒ ก้อนในคนเหล่านั้น

หากเราหันมามองผู้คนรอบข้างด้วยสายตาที่เมตตาต่อกันมากขึ้น
ไม่ให้เรื่องลบเพียงหนึ่งหรือสอง มาทำลายความสวยงามที่เคยมีต่อกันถึงร้อยถึงพัน
ขัดแย้งกันอย่างไร เปิดใจคุยกันด้วยเหตุด้วยผล
ผิดพลาดอย่างไร น้อมรับไปปรับปรุง และให้อภัยต่อกัน

แม้กำแพงนั้นจะมีตำหนิอย่างไร
มันก็จะยังคงตระหง่านสวยงาม และคุ้มภัยให้กันและกันได้เสมอ


ที่จริง ไม่เท่าไหร่เราก็ตายจากกันอยู่แล้วนะคะ
ที่จะได้อยู่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันนั้น เอาเข้าจริงก็ไม่ได้นานสักเท่าไหร่หรอกค่ะ
อิฐแค่ ๒ ก้อน ไม่ได้มีค่าควรแก่การนำมาเป็นสาระยึดถืออะไรในชีวิตเลย


ทั้งเรา ทั้งคนอื่น ทุกคน ต่างก็ล้วนเป็นผู้ที่ยัง "ต้องขัดเกลา" ด้วยกันทั้งสิ้น
ขอเพียงพร้อมปรับปรุงตน พร้อมให้โอกาส และพร้อมให้อภัย ทั้งต่อผู้อื่น และต่อตัวเอง
เราต่างคนต่างก็จะได้พัฒนาจิตใจของตัวเราเองไปพร้อมๆ กันด้วย


สุดท้ายแล้ว... กำแพงก็อาจจะไม่สวยสักหน่อย และอาจจะไม่มีวันสวยขึ้นเลยก็ได้
แต่เชื่อเลยค่ะว่า ผู้คนรอบรั้วกำแพงน่าจะดูมีความสุขกว่ากันเป็นกอง ว่าไหมคะ


:b8: :b8: :b8:

(ที่มา : จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว โดย คุณกลางชล :
นิตยสารธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ ๕๘ ประจำวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุครับคุณพี่
หลวงพ่อพุทธทาสว่า
เขามีส่วนเลวบ้าง ช่างตัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่


เราก้สมควรจะครองจิตให้อยู่ในกุศลจิต
หลีกเลี่ยงอกุศลจิต

แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี
ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง
เหลือแต่ธรรมะ
เหลือแต่หน้าที่

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2008, 22:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี
ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง
เหลือแต่ธรรมะ
เหลือแต่หน้าที่

:b8: :b8: :b8:


ว่างแล้วยังเหลือหน้าที่อีกหรือครับ.... :b10:

ฟังมาว่า พระอานนท์ตอนบรรลุอรหัตผลท่านพูดว่า
"เราหลุดพ้นแล้ว กิจที่ต้องทำไม่ต้องทำแล้ว ธรรมเป็นที่สิ้นสุดแห่งตัณหา"

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 01:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
คามินธรรม เขียน:
แต่ถ้าให้ดีที่สุด ก้ต้องทำให้แจ้งโดยไม่เห็นว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดดี
ปราศว่างจากความปรุงแต่งดีชั่วทั้งปวง
เหลือแต่ธรรมะ
เหลือแต่หน้าที่

:b8: :b8: :b8:


ว่างแล้วยังเหลือหน้าที่อีกหรือครับ.... :b10:

ฟังมาว่า พระอานนท์ตอนบรรลุอรหัตผลท่านพูดว่า
"เราหลุดพ้นแล้ว กิจที่ต้องทำไม่ต้องทำแล้ว ธรรมเป็นที่สิ้นสุดแห่งตัณหา"


คุณพี่กล่าวถูกแล้วครับ แต่คุณพี่มองขั้นเลิศที่สุดแล้ว คืออรหัตถผล
แต่พวกที่รองๆลงมาจนถึงปุถุชนนี่ก็หน้าคิดนะครับ
:b22:

ผมหมายถึง หน้าที่เดิมแท้ของจิต คือไม่มีหน้าที่ไงครับ
:b13: :b13: :b13:
อีกนัยหนึ่งก้หมายถึงหน้าที่ของสติ สติของอริยชน ที่ทำหน้าที่อยู่ คอยประหัตประหารเชื้อกิเลสที่ผ่านเข้ามาทางทวาร 6 แล้วกำลังจะปรุงขึ้นเป้นอะไรต่อมิอะไร
และเพราะมันทำงานอัติโนมัติ ปราศจากเจตนากำหนด เลยกล่าวว่าทำงานไปตามหน้าที่

จิตพระอรหันต์ น่าจะหมายถึง จิตว่างจากกิเลสตันหา ว่างจนเป็นปกติธรรมดา
จะมองว่ามีหน้าที่ก็ได้ คือมีหน้าที่ว่างจากกิเลส
จะมองว่าไม่มีหน้าที่ก้ได้ เพราะมันว่างจนเป้นปกติธรรมดา


เหมือนน้ำ หรือ ไฟ น่ะครับ
จะมองว่ามันมีหน้าที่ก็ได้ เช่นมีหน้าที่เย้น ร้อน ถ้าผิดหน้าที่ก็ยุ่ง
หรือมองว่ามันไม่มีหน้าที่ก็ได้ เพราะมันมีปกติธรรมดาอย่างนั้น


แก้ตัวน้ำขุ่นๆไปอย่างนี้ พอใช้ได้ไหมคับคุณพี่ณัฐ
:b13: :b13: :b13:
:b13: :b13: :b13:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 01:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


แม้หน้าที่ของ "ความเป็นมนุษย์ที่มีตนเอง" ของพระอรหันต์
ในการทำนิพพานให้แจ้ง
ซึ่งนับเป็นการบรรลุถึงวิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์นั้น
จะ เสร็จกิจ แล้ว

แต่ตราบเท่าที่ยังดำรงธาตุขันธ์
ก็ยังคงต้องทำ "หน้าที่ของมนุษย์ที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร"

เป็นการกระทำหน้าที่ต่อทุกชีวิตโดยเท่าเทียมกัน
โดยปราศจาก อคติทั้ง ๔ (ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ)

ทำเพราะหน้าที่...จึงทำด้วยความว่าง
ว่างจาก อคติทั้ง ๔....จึงว่างจากการปรุงแต่งของกิเลสใดใด

ผิดถูกประการใด...ขอเชิญวิสัชนากันต่อเลยนะคะ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 01:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กุหลาบสีชา เขียน:
นับเป็นการบรรลุถึงวิวัฒนาการอันสูงสุดของมนุษย์


คุณพี่ใช้คำว่าวิวัฒนาการ
โดนใจมากๆครับ
จริงดังนั้นจริงๆ
เป็นวิวัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจ

:b27: :b8:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เอาแดง

ไม่เอาเหลือง

ไม่เอาขาว

มีแต่ตัญหา และ อุปทานทั้งนั้น

เอาสติปัฏฐานดีกว่า

จะได้ไม่ต้องเป็นกบ

เพราะกบต้องเลือกนาย

แต่ผมชอบเลือกกบ

5555555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2008, 10:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 ก.ย. 2007, 17:49
โพสต์: 1720

ที่อยู่: สุโขทัยธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: ปีไหม่ไปเที่ยวไหนคุณโรสสีชา หรือว่าปลีกวิเวก
:b17: ส่วนมด คงกลับบ้านนอกค่ะ และ หากมีโอกาสคงจะปลีกวิเวกสักนิดเช่นกัน


:b8: สวัสดีปีไหม่สมาชิกชาวเวปธรรมจักร ขอให้มีดวงจิต ดวงตา ที่เห็นธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัย..มีสุขภาพที่ดี ..และขอให้
:b44: คิดดี
:b44: ทำดี
:b41: ผลที่ออกมาก็คือ สิ่งที่ดีเจ้าค่ะ...สาธุๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2008, 02:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


ไปปลีกวิเวก "ที่เก่า" น่ะค่ะคุณมด
หากคุณมดได้ไปปลีกวิเวกที่ ตจว.
ก็ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าด้วยนะคะ

:b8: :b4: :b8:

ขอให้ คุณมด และชาวลานธรรมจักรทุกท่าน
เดินทางอย่างมีสติ ปลอดภัย ไม่ประมาท
มีจิตสะอาด แจ่มใส ไร้โรคา มีดวงตาเห็นธรรม...
กันถ้วนหน้าทุกท่าน ในปีใหม่ ๒๕๕๒ นี้นะคะ
:b12:

:b43: :b43: :b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2008, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


mes เขียน:
ไม่เอาแดง

ไม่เอาเหลือง

ไม่เอาขาว

มีแต่ตัญหา และ อุปทานทั้งนั้น

เอาสติปัฏฐานดีกว่า

จะได้ไม่ต้องเป็นกบ

เพราะกบต้องเลือกนาย

แต่ผมชอบเลือกกบ

5555555


กบไม่มีเหลืองครับ....มีแต่ดำ กับแดง :b21: :b2: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2008, 12:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 23:00
โพสต์: 48

ที่อยู่: บางแค

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสำหรับบทความครับ

.....................................................
คำที่ข้าพเจ้าได้กล่าวอ้างมาทั้งหมดนี้ ส่วนมากเป็นของครูบาอาจารย์ ผู้เขียนหนังสือต่างๆ พ่อแม่ ญาติ ผู้มีคุณและเพื่อนๆของข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปนั้น ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขอความกรุณาชี้แนะด้วย และบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้แจกจ่ายธรรมทานนั้นขอให้ผลบุญนั้นส่งถึง บุคคลที่ได้กล่าวมา ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุข ข้าพเจ้าขอถวายเป็นพุทธบูชา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2008, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กบไม่มีเหลืองครับ....มีแต่ดำ กับแดง


คุณnatdanai

ว้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2008, 00:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ครบขาหรือยังครับนี่
:b2: :b2: :b2:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2008, 03:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4147

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


โปรดหลีกเลี่ยง "อบายมุข" เพื่อความผาสุขในชีวิต...ของทุกท่าน :b8: :b12: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2008, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คร้าบ

:b15: :b15: :b15:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร