วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 15:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2009, 20:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงแล้ว ข้าพเจ้า ยังไม่อยากจะเขียนถึงเรื่องธรรมะ ตามหลักการของข้าพเจ้า เนื่องจาก เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจ ในหลักธรรมตามความเป็นจริง ซึ่ง ข้าพเจ้าเองก็ไม่อยากที่จะไปคัดค้านอะไรกับ ความคิดเก่าๆ ความหลงเชื่อหรือความเข้าใจเก่าๆที่มีมานาน

ข้าพเจ้าเคยสอนไปหลายครั้งแล้วว่า หลักธรรมทางศาสนานั้น มิได้แบ่งแยกว่า ว่าเป็นทางโลก หรือทางธรรม แต่หลักธรรมทางศาสนา หรือหลักการทางศาสนานั้น มุ่งสอนให้มนุษย์รู้จักขัดเกลา อบอรมจิตใจ ให้สามารถขจัดกิเลสได้
พฤติกรรม ,การกระทำใดใด ที่มนุษย์ พึงกระทำอยู่ ล้วนเป็นหลักธรรมะในทางพุทธศาสนา ดังนั้น จึงเกิดมีหลักปรัขญา ที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "อริยสัจสี่" เกิดขึ้น
หากท่านทั้งหลายได้อ่าน ได้คิดพิจารณาให้ดี ได้ถ่องแท้ ตามหลักความเป็นจริง ตามที่ท่านทั้งหลายได้มีประสบการณ์ ได้สัมผัส พบเห็น หรือได้รู้ ย่อมเกิดความเข้าใจ ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้วว่า

-อะไรคือ ทุกข์
-อะไรเป็นเหตุที่ทำให้เกิด ทุกข์
-อะไรเป็นเหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์
-อะไร เป็นหนทางแห่งความดับทุกข์

ถ้าท่านทั้งหลายมองดูรอบๆตัวท่าน ตั้งแต่ระดับครอบครัว ออกไปถึงระดับกลุ่ม ,ชุมชน,หมู่บ้าน,ตำบล,อำเภอ,จังหวัด,ประเทศ และ หลายๆประเทศ ท่านทั้งหลายย่อมจะเกิดความเข้าใจตามความเป็นจริงได้ว่า

สิ่งที่ทำให้บุคคล กลุ่มบุคคล ฯลฯ เป็นทุกข์ คืออะไร ฯลฯ(ในที่นี้จะไม่กล่าวต่อไปจนจบอริยสัจสี่) อย่างนี้เป็นต้น
หากท่านทั้งหลาย มองเห็นต้นตอแห่งทุกข์ได้แล้ว ก็ย่อม มองเห็น เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ รวมไปถึง เหตุที่ทำให้ถึงความดับทุกข์ ,และหนทางแห่งความดับทุกข์ ได้อย่างง่ายดาย

แต่ ในเมื่อ พฤติกรรม และการกระทำ ใดใด ของมนุษย์ เป็นหลักธรรมะในทางพุทธศาสนาพุทธ ดังนั้น ทุกข์ ก็ย่อมเกิดจากหลักธรรมด้วยเช่นกัน แต่ทุกข์ที่เป็นผลแห่งพฤติกรรม หรือการกระทำนั้น หรือทุกข์ที่เกิดจากธรรมะทั้งหลายเหล่านั้น ก็เพราะ เขาเหล่านั้น ไม่ได้รู้ว่าธรรมะเหล่านั้น ที่มีอยู่ในตัวเขาทั้งหลายเหล่านั้น ต้องมีความพอดี ไม่ตึง ไม่หย่อน หากตึงเกินไป ก็จะเกิดทุกข์ หากหย่อนเกินไป ก็จะเกิดทุกข์ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยเหตุที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป จึงได้เกิด "พุทธพจน์ ที่ว่า" ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" คือหากบุคคลใด เห็นธรรม เข้าใจในธรรม ก็จะสามารถ มองเป็น พระพุทธเจ้า พระองค์นั้นได้ สามารถเห็นได้จริงๆนะขอรับ อันนี้จะไม่อธิบายในรายละเอียด เพราะเวลาเป็นอุปสรรคในการอธิบาย หากท่านทั้งหลายรู้แจ้งเกี่ยวกับเรื่่องปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าก็ไม่จำเป็นที่จะอธิบาย
จบก่อนขอรับ หากผู้ใดสงสัยก็สอบถามได้ จะตอบให้ทุกคำถามที่สามารถตอบได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 01:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อใจของเราไม่คิดปรุงแต่งไปกับปรากฏการณ์ภายนอกที่มากระทบ ทุกข์นั้นก็ไม่มี เช่น ข้าวไม่มีกิน เงินไม่พอใช้ โดนคนโน้นคนนี้ด่า ฯลฯ เราไม่คิดปรุงแต่ง ความทุกข์ในใจก็ไม่มี

เมื่อมองลึกลงไป ทุกข์ทั้งปวงเกิดจากการที่เราไปคิดว่า นี่เป็นตัวกู นี่เป็นของกู ทั้งสิ้น ต้องหัดทำใจว่า อะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด มันเป็นอย่างนั้นเอง แล้วทุกข์ต่างๆจะคลายลง

ผมก็ถูกคนในเว็บศาสนาต่างๆด่าว่า ใส่ร้ายป้ายสี ตำหนิติเตียน มานับครั้งไม่ถ้วน คุณbuddha ก็ตำหนิติเตียนผมเสมอไม่ใช่หรือ แต่ผมไม่ได้นำคำพูดของคุณมาปรุงแต่งในใจผม ดังนั้นผมจึงไม่มีทุกข์ เบิกบานแจ่มใจเสมอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
เมื่อใจของเราไม่คิดปรุงแต่งไปกับปรากฏการณ์ภายนอกที่มากระทบ ทุกข์นั้นก็ไม่มี เช่น ข้าวไม่มีกิน เงินไม่พอใช้ โดนคนโน้นคนนี้ด่า ฯลฯ เราไม่คิดปรุงแต่ง ความทุกข์ในใจก็ไม่มี


ทุกขเวทนาจากความหิว ไม่ได้เกิดจากการคิดปรุงแต่งนะครับท่าน... :b6: :b6:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" และอีกหลายๆชื่อ

คุณเคยพิจารณาตัวเองบ้างไหมว่า คุณถูกด่าเพราะอะไร เพราะคุณมันไม่ได้มีความรู้จริง รู้แจ้งอะไรเลย ดีแต่อวดอุตริฯ อยากดัง อยากเด่น คุณลองมองดูพฤติกรรมของตัวคุณซิว่า คุณทำอะไรไว้บ้าง
ข้าพเจ้าตำหนิ ติเตียน บ้างครั้ง ก็ใช้คำสบประมาทคุณ ก็เพราะคุณมันไม่ได้รู้จักพัฒนาตัวเอง หลงตัวเอง แต่ไม่ได้รู้จริงอะไรสักอย่าง
ถามอะไรไป คุณก็ตอบไม่ได้สักอย่าง เพราะคุณมันเป็นบุคคลประเภท สติเฟื่อง
คุณเขียนเรื่องการปรุงแต่งมา ก็รู้แล้วว่า คุณมันประเภทอยากดี อยากดัง อยากเด่น ไม่ได้รู้เรื่อง รู้จริง รู้แจ้ง อะไรสักอย่าง
ข้่าพเจ้าจึงไม่อยากเสวนา กับคุณผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" เพราะระดับคุณมันก็แค่ เศษลองธุลีใต้ฝ่่าเท้าของข้าพเจ้า รังแต่จะทำให้ข้าพเจ้าระคายเคือง ฝ่่าเท้า เข้่าใจไหมขอรับ ( ต้องขออภัย ที่จำเป็นต้องเขียนแบบตรงไปตรงมา)

อนึ่ง หลายๆท่าน อย่าคิดสงสัยว่า ทำไมข้าพเจ้าไม่มีจิตเมตตาต่อผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ความจริงแล้ว เขาได้อ่านบทความต่างๆ ของข้าพเจ้าไปบ้างพอสมควรแล้ว ถ้าเขาไม่สติเฟื่อง หรือไม่มีจุดมุ่งหมายอื่นใดแอบแฝง เขาต้องเข้าใจไปแล้ว
แต่ท่านทั้งหลายลองอ่านแล้วพิจารณาข้อแสดง ความคิดเห็น หรือ กระทู้ต่างๆที่เขาเขียน แล้วใช้วิจารณญาณดูเถิด
ไม่อย่างนั้น เขาไม่เปลี่ยนชื่อ เพื่อเข้าไปตามเวบธรรมะต่างๆ ไม่ต้องบอกเหตุผลดอกขอรับ คิดเอาเองเถอะ เดี๋ยวจะหาว่ายุยงให้แตกแยกความสามัคคี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


natdanai เขียน:
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
เมื่อใจของเราไม่คิดปรุงแต่งไปกับปรากฏการณ์ภายนอกที่มากระทบ ทุกข์นั้นก็ไม่มี เช่น ข้าวไม่มีกิน เงินไม่พอใช้ โดนคนโน้นคนนี้ด่า ฯลฯ เราไม่คิดปรุงแต่ง ความทุกข์ในใจก็ไม่มี


ทุกขเวทนาจากความหิว ไม่ได้เกิดจากการคิดปรุงแต่งนะครับท่าน... :b6: :b6:



แล้วเปรตที่หิวตลอดเวลา นั่นเขาคิดปรุงแต่งหรือเปล่า?

เวทนาหรือความรู้สึกจากความหิว เป็นแค่มายาเท่านั้น ถ้าเราไม่คิดปรุงแต่งกับมัน คุณก็จะไม่ทุกข์ คุณตายไป ก็คือธาตุดินน้ำลมไฟสลายออกไป เหลือเพียงจิตวิญญาณ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 21:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


Buddha เขียน:
คุณผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" และอีกหลายๆชื่อ

คุณเคยพิจารณาตัวเองบ้างไหมว่า คุณถูกด่าเพราะอะไร เพราะคุณมันไม่ได้มีความรู้จริง รู้แจ้งอะไรเลย ดีแต่อวดอุตริฯ อยากดัง อยากเด่น ......


1. ผมถูกด่า ถูกตำหนิ ฯลฯ เป็นด้วยกรรมที่ผมชอบด่าว่าตำนิติเตียนคนอื่น ผมจึงต้องบรรลุธรรมโดยการถูกด่าว่าตำหนิติเตียน

2. ผมไม่เคยอวดอุตริฯ อยากดัง อยากเด่น ทุกเรื่องที่ผมเขียนมีหลักฐานจากพุทธสูตรทั้งสิ้น ไม่มีใครสามารถค้านหรือแย้งได้เลยแม้แต่คนเดียว

3. คนที่มองผมว่า อวดอุตริฯ อยากดัง อยากเด่น ก็คือใจของเขาอยากอวดอุตริฯ อยากดัง อยากเด่น คือ มีอีโก้สูง เขาจึงคิดว่าคนอื่นมีอีโก้สูงไปด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2009, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:

แล้วเปรตที่หิวตลอดเวลา นั่นเขาคิดปรุงแต่งหรือเปล่า?

เปรตเป็นสัตว์ที่มีขันธ์ครับ ถ้ายังอยู่กับขันธ์ก็ยังต้องมีเวทนาครับ

พระพุทธเจ้าหลังจากฉันอาหารที่บ้านนายจุนทะ ได้รับทุกขเวทนาอย่างหนัก เดินทุลักทุเลด้วยพระบาทเปล่าไม่มีใครหาม (นี่ขนาดพระพุทธเจ้านะครับ...อยู่กับขันธ์ 5 ก็ยังต้องได้รับทุกขเวทนาเลย) จะหลีกออกจากทุกข์เวทนาได้ก็ต้องพัก แล้วจึงหลีกออกได้

พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
เวทนาหรือความรู้สึกจากความหิว เป็นแค่มายาเท่านั้น ถ้าเราไม่คิดปรุงแต่งกับมัน คุณก็จะไม่ทุกข์

แล้วทุกวันนี้ท่านกินข้าว กินน้ำ รึป่าวครับ..... :b10: :b10:
ถ้าเป็นเช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องกินข้าวครับเพราะความหิวมันเป็นมายา ท่านก็ทำจิตให้ว่างๆไม่ต้องปรุงแต่งท่านก็จะไม่ต้องหิว ไม่ต้องกินข้าว (ท่านทำไม่ได้หรอกครับรับรองได้)
พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณตายไป ก็คือธาตุดินน้ำลมไฟสลายออกไป เหลือเพียงจิตวิญญาณ

ที่เป็นธาตุสลายออกไปนั้นเป็นเพียงสังขารโลกครับ แต่สังขารธรรมยังคงเวียนว่ายอยู่ ต่อเมื่อ อวิชาดับ สังขารจึงดับ วิญญาณก็ดับ แต่จิตไม่ดับนะครับ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


โธ่เอ๋ย "เจ้า จัณฑาล" ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" เจ้ายังไม่รู้สึกสำนึกตัวอีกหรือ ยังหลงคิดว่า ตัวเอ็ง บรรลุธรรม
เอ็งบรรลุธรรมอะไรกันละ
เอ็ง สามารถพิสูจน์ได้ไหม ว่าตัวเอ็งบรรลุธรรม เอ็งมันก็ดีแต่โอ้อวด อวดอุตริ ยังมีหน้า โอ้อวดใช้คำศัพท์ทางจิตวิทยามาใช้อีก
เอ็งจงรู้ไว้ ความรู้ในแขนงวิชาต่างๆ บุคลลย่อมเรียนรู้กันได้ แต่ความหลงตัวเอง อย่างเอ็ง นั้นนะหรือ จะรู้จักธรรมอะไร
เอ็งเอาอะไรมาอ้าง
(ขออภัย ขอกล่าวถึงครู อาจารย์ของข้าพเจ้าเป็นตัวอย่าง)
อาจารย์ของข้าพเจ้า จบเปรียญธรรม 7 ประโยค ยังไม่สามารถค้นหา หลักธรรมทางพุทธศาสนาที่แท้จริงได้ทั้งหมด ท่านค้นหาได้เพียง สองสามข้อ ปัจจุบันท่านอาจจะมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ เสียดายที่ข้าพเจ้าจำชื่อ อาจารย์ไม่ได้

แล้วเอ็งเจ้า จัณฑาล ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" ยังมีหน้าอวดอ้างว่า บรรลุธรรม
เอ็งพิสูจน์ ตัวเอง ได้ไหมว่า เอ็งบรรลุธรรมอะไรของเอ็ง ได้จริง พิสูจน์ได้ไหม
เจ้าผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" เจ้ามันก็แค่เศษฝุ่่นละอองใต้ฝ่าเท้าของข้าพเจ้า ไปพบจิตแพทย์ซะนะ

อนึ่ง คำกล่าวที่เอ็งกล่าวมา ในการแสดงความคิดเห็นนั้น เอ็งพิสูจน์ได้ไหมว่ามีจริงเป็นจริง เช่น เปรต มีจริง เป็นจริง หรือไม่ เอ็งสามารถเอามาให้ดูให้เห็นได้ไหมละ เจ้า จัณฑาล เอ๋ย ไม่สำนึกตัวเองซะบ้างเลยนะ

ต้องขออภัยต่อท่านทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าใช้ศัพท์ภาษา ค่อนข้าง ไปในทางเสียดสี เพราะข้าพเจ้าคาดคิดว่า จุดมุ่งหมายของเจ้าจัณฑาล ผู้ใช้ชื่อว่า "พลศักดิ์" นั้น มุ่งไปในทางทำลายพุทธศาสนาให้เสื่อมโทรม โดยการอวดอ้าง อวดอุตริฯ เพ้อเจ้อ ไม่เป็นไปตามหลักความจริง อีกทั้งไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีจริง เป็นจริง โปรดใช้วิจารณญาณในการพิจารณาขอรับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร