วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 03:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ถือสันโดษ
กินง่าย กินทุกอย่าง
อยู่ที่ไหนก็ นอนได้ ถ้า ไม่มียุง
ว่ายังไง ก็ทำ ตาม ถ้าเป็นสิ่งดี
ครอง เนกขัม ตลอด
ไม่ หวนกลับมา ภพ3 จบเอย
:b35: :b20: :b8:

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


บุญชัย เขียน:
ถือสันโดษ
กินง่าย กินทุกอย่าง
อยู่ที่ไหนก็ นอนได้ ถ้า ไม่มียุง
ว่ายังไง ก็ทำ ตาม ถ้าเป็นสิ่งดี
ครอง เนกขัม ตลอด
ไม่ หวนกลับมา ภพ3 จบเอย
:b35: :b20: :b8:


สวัสดีค่ะคุณบุญชัย :b8:

ถ้าทำแบบที่คุณบุญชัยว่า ป่านนี้ผู้คนคงสำเร็จกิจกันไปหมดแล้ว :b1:

เขียนตกหรือเปล่าคะ สติปัฏฐาน 4 น่ะค่ะหายไปไหน :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
สวัสดีจ้าคุณวลัยพร :b1:
หรอ ครับ เอาร่มติดตัวไปด้วยนะครับ เดี๋ยวเป็นหวัด

กรัชกายก็งี้ครับ จนกระทั่งมีคนว่าเพี้ยนๆ ต่อไปคงต้องลดๆลงหน่อย :b9:


ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง :b8:

เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วค่ะ วันนี้มีแต่คนเป็นหวัดเข้ามาหา ส่วนตัวเองก็เสื้อผ้าชื้นทั้งวัน เลยรับเชื้อมาเรียบร้อย :b9:

ดีค่ะคุณกรัชกาย ยังดีที่ยังรู้ตัวว่าเพี้ยนไปบ้าง แสดงว่าสติ สัมปชัญญะดี ให้รางวัล 1 เหรียญค่ะ ในฐานะที่รู้ตัว :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


O.wan เขียน:
:b8: ตอนนี้ป่วยนะคะ หลายเรื่องที่ผ่านมาเลยขอพัก วันนี้ค่อยดีขึ้น :b23:คะ
:b41: ขอบคุณทุกๆคำตอบนะคะที่ช่วยแนะนำ ขอบคุณ K.กรัชกราย นะคะสำหรับเหรียญ
:b41: ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ :b8: :b8:


ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

พูดคล้ายๆก้บโฆษณายาลดไข้ บรรเทาอากการปวดนะครับ :b32:

ทุกข์ของมนุษย์มีมากมายเหลือเกิน ทั้งทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ (โทมนัส) ไหนยังทุกข์จรอีก
มองทุกข์ตามที่มันเป็นครับ แล้วแก้ไขไปตามสถานการณ์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณวไลพรงับ โพสถัดขึ้นไปที่แซวคุณกรัชกาย
มีข้อความที่ทำให้ผมขำก๊ากกอย่างแรงอยู่
แต่ไม่อ้างอิงนะคับ มันจะเป้นการจุดธูป เด๊่ยวจะยาว
เอาเป้นว่าโพสต์ถูกใจ ทำให้ขำ
:b8:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
กรัชกาย เขียน:
สวัสดีจ้าคุณวลัยพร :b1:
หรอ ครับ เอาร่มติดตัวไปด้วยนะครับ เดี๋ยวเป็นหวัด
กรัชกายก็งี้ครับ จนกระทั่งมีคนว่าเพี้ยนๆ ต่อไปคงต้องลดๆลงหน่อย :b9:


ขอบคุณค่ะที่เป็นห่วง :b8:
เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้วค่ะ วันนี้มีแต่คนเป็นหวัดเข้ามาหา ส่วนตัวเองก็เสื้อผ้าชื้นทั้งวัน เลยรับเชื้อมาเรียบร้อย :b9:
ดีค่ะคุณกรัชกาย ยังดีที่ยังรู้ตัวว่าเพี้ยนไปบ้าง แสดงว่าสติ สัมปชัญญะดี ให้รางวัล 1 เหรียญค่ะ ในฐานะที่รู้ตัว :b32:


ขอบคุณสำหรับเหรียญครับ เดี๋ยวก็มีไวรัสมากิน :b32:

ดีค่ะคุณกรัชกาย ยังดีที่ยังรู้ตัวว่าเพี้ยนไปบ้าง แสดงว่าสติ สัมปชัญญะดี
อะคับ ก่อนยังหนุ่มอยู่พอเป็นพระเอกลิเกสติสัมปชัญญะง่อนแง่นไปหน่อย ตั้งแต่เล่นลำตัดสติดีขึ้นมาหน่อย :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คามินธรรม เขียน:
คุณวไลพรงับ โพสถัดขึ้นไปที่แซวคุณกรัชกาย
มีข้อความที่ทำให้ผมขำก๊ากกอย่างแรงอยู่
แต่ไม่อ้างอิงนะคับ มันจะเป้นการจุดธูป เด๊่ยวจะยาว
เอาเป้นว่าโพสต์ถูกใจ ทำให้ขำ
:b8:



เข้าใจค่ะว่าคุณคามินอ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ก็คุณยังอินอยู่ตรงนั้นนี่คะ ... :b1:

บางทีไปอ่านย้อนในข้อความเก่าๆ ที่คุณถกกับคุณกรัชกาย ก็หัวเราะออกบ่อยค่ะ .. บางทีอยากจะเขียนอะไรลงไปว่ากำลังขำกลิ้งอยู่หน้าจอ :b2: ก็เกรงใจอีกฝ่ายว่าจะเข้าใจผิด คิดว่าเข้าข้างใดข้างหนึ่ง ก็เลยคิดว่าไม่เขียนไปดีกว่า .. สำนวนคุณนี่เฉพาะตัวจริงๆ ดิฉันว่าคุณสองคนเหมาะกันนะคะ พอๆกัน :b32:

พูดจากใจค่ะ ไม่ได้คิดแซวจริงๆ ใจเขา ใจเราค่ะ แม้แต่ตัวเองก็เคยพลาดบ่อยๆ คนอื่นยังให้อภัยเรา แล้วเราไม่รู้การให้อภัยต่อคนอื่นเลยหรือคะ :b8:

เมื่อเห็นว่าคนอื่นพลาด เราไม่ควรซ้ำเติมเขา เราควรเข้าใจเขา เราเองก็เคยพลาด เราควรให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ่ออ .. ถ้าคุณสองคนจะถกกันต่อก็ไม่ว่ากันค่ะ จะคอยเป็นกำลังเสริมให้ :b32:

กำลังเสริมในที่นี้คือ คอยดูว่าใครมีสติก่อนใคร คนไหนมีสติมากกว่าก็ทนต่อการยั่วยุของอีกฝ่ายได้ ก็จะคอยให้เหรียญค่ะ :b12:

แต่ตัวเองคงไม่ไปร่วมด้วยหรอกค่ะ ลำพังแค่กิเลสในตัวเองก็เล่นเอาหัวทิ่มหัวตำไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งละ คว้าหางสติทันบ้างไม่ทันบ้าง :b15:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 22:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


งวดนี้จะร้องโดเรม่อนสู้เลยล่ะคับ กลัวที่ไหน
:b32: :b32:
:b13:

.....................................................
อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์
....................................

"หากเป็นคนฉลาดก็มีแต่จะทำให้คนอื่นรักตนเท่านั้น-วาทะคุณกุหลาบสีชา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันที่จริงเรื่องที่เราพูดๆกันอยู่เนื่ย รวมๆแล้วมีหลักอันเดียว คือว่า เมื่อปฏิบัติสติปัฏฐานถูกต้องตรงทางแล้ว กิเลสทั้งมวลก็ถูกทำลายไปในตัวแล้ว เป็นเหตุเป็นผลกันสัมพันธ์กัน โดยที่เราไม่ต้องแยกพูดถึงการทำลายกิเลสอีกประเด็นต่างหากเลย เรื่องเดียวกัน ปฏิบัติให้ถูกหลักสติปัฏฐานจริงๆเถิด :b1:

ไม่เชื่อดูพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตรก็ได้ จบสิ้นในตัวเอง คือปฏิบัติถูกทุกข์โทมนัสไม่เหลือซาก

“ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางเอก (ทางเดียว) เพื่อความบริสุทธิ์ของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อข้ามพ้นความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุโลกุตรธรรม เพื่อกระทำให้แจ้ง
ซึ่งนิพพาน นี้คือสติปัฏฐาน ๔”

(ที.ม.10/273/325 ม.มู. 12/131/103 สติปัฏฐาน มาใน อภิ.วิ.35/421-464/257-279 ด้วย)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 22:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำหรับผู้ที่ติดชื่อวิปัสสนา ดูอีกมุมหนึ่งก็ได้ :b1:


เหตุใดสติตามทันขณะปัจจุบันจึงเป็นหลักสำคัญของวิปัสสนา ?

กิจกรรมสามัญที่สุดของทุกๆ คน ซึ่งเป็นไปอยู่ตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน ก็คือ การรับรู้อารมณ์
ต่างๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
เมื่อมีการรับรู้ ก็มีความรู้สึกพร้อมไปด้วย คือ สุขสบายบ้าง ทุกข์ระคายเจ็บปวด ไม่สบายบ้าง
เฉยๆ บ้าง

เมื่อมีความรู้สึกสุขทุกข์ ก็มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นในใจด้วย คือ ถ้าสุขสบายที่สิ่งใด ก็ชอบใจติดใจสิ่ง
นั้น ถ้าไม่สบายได้ทุกข์ที่สิ่งใด ก็ขัดใจไม่ชอบสิ่งนั้น เมื่อชอบก็อยากรับรู้อีก อยากเสพ
ซ้ำ หรืออยากได้ อยากเอา เมื่อไม่ชอบก็เลี่ยงหนี หรืออยากกำจัด อยากทำลาย

กระบวนการนี้ ดำเนินไปตลอดเวลา มีทั้งที่แผ่วเบา ผ่านไปโดยไม่มีได้สังเกต
และที่แรงเข้ม สังเกตได้เด่นชัด มีผลต่อจิตใจอย่างชัดเจนและสืบเนื่องไปนาน

ส่วนใดแรงเข้มหรือสะดุดชัด ก็มักชักให้มีความคิดปรุงแต่งยึดเยื้อเยิ่นเย้อออกไป
ถ้าไม่สิ้นสุดที่ในใจ ก็ผลักดันแสดงออกมาเป็นการพูด การกระทำต่างๆ ทั้งน้อยและใหญ่
ชีวิตของบุคคล บทบาทของเขาในโลก และการกระทำต่อกันระหว่างมนุษย์ ย่อมสืบเนื่องออก
มาจากระบวนธรรมน้อยๆ ที่เป็นไปในชีวิตแต่ละขณะๆ นี้เป็นสำคัญ


ในทางปัญญา การปล่อยให้จิตใจให้เป็นไปตามกระบวนธรรมข้างต้นนั้น คือ เมื่อรับรู้แล้ว รู้สึก
สุขสบายก็ชอบใจ ติดใจ
เมื่อรับรู้แล้ว รู้สึกทุกข์ ไม่สบาย ก็ขัดใจ ไม่ชอบใจ
ข้อนี้เป็นเครื่องกีดกั้นปิดบัง ทำให้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ไม่มองเห็นสิ่งทั้งหลายตามเป็นจริง หรือตามสภาวะที่แท้ของมัน
ทั้งนี้เพราะจิตใจที่เป็นเช่นนี้ จะมีสภาพต่อไปนี้

-ข้องอยู่ที่ความชอบใจ หรือความขัดใจ ตกอยู่ในอำนาจของความติดใจ
หรือขัดใจนั้น ถูกความชอบหรือไม่ชอบนั้นเคลือบคลุม ทำให้มองเห็น
เอนเอียงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ตรงตามที่มันเป็นจริง


-ตกลงไปในอดีตหรืออนาคต กล่าวคือ เมื่อคนรับรู้แล้ว เกิดความชอบใจหรือไม่ชอบใจ
จิตของเขาจะข้องหรือขัดอยู่ ณ ส่วนหรือจุดหรือแง่ ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจของอารมณ์นั้น เก็บ
เอาไปทะนุถนอมคิดปรุงแต่งตลอดจนฝันฟ่ามต่อไป
การข้องอยู่ที่ส่วนใดก็ตามซึ่งชอบใจหรือไม่ชอบใจ และการจับอยู่กับภาพของสิ่งนั้นซึ่งปรากฏ
อยู่ในใจของตน คือ การเลื่อนไหลลงสู่อดีต การคิดปรุงแต่งต่อไปเกี่ยวกับสิ่งนั้น คือ
การเลื่อนลอยไปในอนาคต
ความรู้ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับสิ่งนั้น ก็คือภาพของสิ่งนั้น ณ จุดหรือตอนที่ชอบใจหรือไม่ชอบ
ใจ หรือซึ่งเขาได้คิดปรุงแต่งต่อไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งนั้นตามที่มันเป็นของมันเองในขณะนั้นๆ


-ตกอยู่ในอำนาจของความคิดปรุงแต่ง จึงแปลความหมายของสิ่งที่รับรู้ หรือประสบการณ์นั้นๆ ไปตามแนวทางของภูมิหลัง หรือความเคยชินที่ได้สั่งสมไว้ เช่น ค่านิยม ทัศนคติ หรือทิฐิที่ตนยึดถือนิยม เชิดชู เรียกว่า จิตตก
อยู่ในภาวะถูกปรุงแต่ง ไม่อาจมองอย่างเป็นกลางให้เห็นประสบการณ์ล้วนๆ ตามที่มันเป็น


-นอกจากถูกปรุงแต่งแล้ว ก็จะนำเอาภาพปรุงแต่งของประสบการณ์ใหม่นั้นเข้าไปร่วมในการปรุงแต่งต่อไปอีก เป็นการเสริมซ้ำการสั่งสมนิสัย ความเคยชินของจิตให้แน่นหนายิ่งขึ้น

ความเป็นไปเช่นนี้ มิใช่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องหยาบๆ ตื้นๆ ในการดำเนินชีวิตและทำกิจกรรมทั่วไป
เท่านั้น แต่ท่านมุ่งเน้นกระบวนของจิตในระดับละเอียดลึกซึ้ง ที่ทำให้ปุถุชนมองเห็นสิ่งทั้งหลายเป็นของคงที่
เป็นชิ้นเป็นอัน มีสวยงาม น่าเกลียด ติดในสมมุติต่างๆ ไม่เห็นความเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ดำเนินอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ดี กระบวนธรรมเช่นนี้ เป็นความเคยชินหรือนิสัยของจิตที่คนทั่วไปได้สั่งสมกันมาคนละ
นานๆ เกือบจะว่าตั้งแต่เกิดทีเดียว 20-30 ปีบ้าง 40-50 ปีบ้าง เกินกว่านั้นบ้าง และไม่เคย
หัดตัดวงจรลบกระบวนกันมาเลย การจัดการแก้ไข จึงมิใช่จะทำได้ง่ายนัก ในทันทีที่รับรู้
อารมณ์หรือมีประสบการณ์ ยังไม่ทันตั้งตัว ที่จะยั้งกระบวน จิตก็แล่นไปตามความเคยชินของ
มันเสียก่อน
ดังนั้น การแก้ไขในเรื่องนี้ จึงมิใช่จะเพียงตัดวงจรล้างกระบวนธรรมนั้นลงเท่านั้น แต่จะต้องแก้ไข
ความเคยชิน หรือนิสัยที่ไหลแรงไปข้างเดียวของจิตอีกด้วย

องค์ธรรมสำคัญที่จะใช้เป็นตัวเบิกทาง และเป็นหลักรวมพลทั้งสองกรณี ก็คือสติ
การปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน ก็มีวัตถุประสงค์อย่างนี้ กล่าวคือเมื่อมีสติตามทันขณะปัจจุบัน
และมองดูสิ่งนั้นๆ ตามที่มันเป็นอยู่ในขณะนั้นๆ ตลอดเวลา ย่อมสามารถตัดวงจรทำลายกระบวน
ธรรมฝ่ายอกุศลลงได้ด้วย ค่อยๆ แก้ไขความเคยชินเก่าๆ พร้อมกับสร้างแนวนิสัยใหม่ให้แก่จิต
ได้ด้วย จิตที่มีสติกำกับ ให้ตามทันอยู่กับขณะปัจจุบัน จะมีสภาพตรงข้าม กับจิตที่เป็นตาม
กระบวนธรรมข้างต้น คือ

-ความชอบใจ หรือขัดใจ ไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะการที่จะชอบใจหรือ
ขัดใจ จิตจะต้องข้องขัดอยู่ ณ จุดหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง และชะงักค้างอยู่
คือตกลงในอดีตไม่เลื่อนไหลลงไปในอดีต ไม่เลื่อนลอยไปในอนาคต ความชอบ
ใจ ไม่ชอบใจ กับการตกอดีต เป็นอาการที่เป็นไปด้วยกัน เมื่อไม่ข้อง ไม่ค้างอยู่
ตามดูทันอยู่กับสภาวะที่กำลังเป็นไปอยู่ การตกอดีต ลอยอนาคต ก็ไม่มี

-ไม่ถูกความคิดปรุงแต่งเนื่องด้วยภูมิหลังที่ได้สั่งสมไว้ ชักจูงแปลประสบการณ์หรือสิ่งที่รับรู้
ให้เอนเอียงบิดเบือนหรือย้อมสีไปตามอำนาจของมัน พร้อมที่จะมองไปตามสภาวะของสิ่งนั้นๆ

-ไม่ปรุงแต่งเสริมซ้ำหรือเพิ่มกำลังแก่ความเคยชินผิดๆ ที่จิตได้สั่งสมเรื่อยมา


-เมื่อตามรู้ดูทันทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันทุกขณะ ก็ย่อมได้รู้เห็นสภาพจิตนิสัย เป็นต้น
ของตนที่ไม่พึงปรารถนา หรือที่ตนเองไม่ยอมรับปรากฏออกมาด้วย ทำให้ได้รับรู้สู้หน้า
เผชิญสภาพที่เป็นจริงของตนเองตามที่มันเป็น ไม่เลี่ยงหนี ไม่หลอกตนเอง และทำให้สามารถชำระล้างกิเลสเหล่านั้น แก้ปัญหาในตนเองได้ด้วย

นอกจากนั้น ในด้านคุณภาพจิตก็จะบริสุทธิ์ ผ่องใส โปร่ง เบิกบาน เป็นอิสระ ไม่ถูกบีบจำกัดให้คับแคบ และไม่ถูกเคลือบคลุมให้หมองมัว


สิ่งทั้งหลายตั้งอยู่ตามสภาพของมัน และเป็นไปตามธรรมดาของมัน
พูดเป็นภาพพจน์ว่า ความจริงเปิดเผยตัวมันอยู่ตลอดเวลา แต่มนุษย์ปิดบังตนเองจากมัน หรือไม่ก็มองภาพของ
มันบิดเบือนไป หรือไม่ก็ถึงกับหลอกลวงตัวของมนุษย์เอง
ตัวการที่ปิดบัง บิดเบือน หรือ หลอกลวง ก็คือ การตกลงไปในกระแสของกระบวนธรรมดังกล่าวข้างต้น
เครื่องปิดบัง บิดเบือน หรือ หลอก ก็มีอยู่แล้ว ยิ่งความเคยชิน คอยชักลากให้เสียอีก
โอกาสที่จะรู้ความจริงก็แทบไม่มี ในเมื่อความเคยชินหรือติดนิสัยนี้ มนุษย์ได้สั่งสมต่อเนื่อง
กันมานานนักหนา การปฏิบัติเพื่อแก้ไขและสร้างนิสัยใหม่ ก็ควรจะต้องอาศัยเวลามากเช่น
เดียวกัน

เมื่อใดสติตามทัน ทำงานสม่ำเสมอต่อเนื่องอย่างชำนาญ คนไม่ปิดบังตัวเอง
ไม่บิดเบือนภาพที่มอง และพ้นจากอำนาจความเคยชิน หรือนิสัยเก่าของจิตแล้ว
เมื่อนั้น ก็พร้อมที่จะมองเห็นสิ่งทั้งหลายตามสภาวะของมัน และรู้เข้าใจความจริง
ถึงตอนนี้ ถ้าอินทรีย์อื่นๆ โดยเฉพาะปัญญาแก่กล้าพร้อมดีอยู่แล้ว ก็จะร่วมทำงานกับ
สติ หรืออาศัยสติคอยเปิดทางให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดญาณทัศนะ ความหยั่ง
เห็นตามเป็นจริง ที่เป็นจุดหมายของวิปัสสนา
แต่การที่ปัญญินทรีย์ เป็นต้น จะพร้อมหรือแก่กล้าได้นั้น ย่อมอาศัยการฝึกฝนอบรมมาโดย
ลำดับ รวมทั้งการเล่าเรียนสดับฟังในเบื้องต้นด้วย
การเล่าเรียนสดับฟังและการคิดเหตุผล เป็นต้น จึงมีส่วนเกื้อกูลแก่การรู้แจ้งสัจธรรมได้

ความจริงนั้น สติมิไม่ใช่ตัววิปัสสนา ปัญญาหรือการใช้ปัญญาต่างหากเป็นวิปัสสนา แต่ปัญญาจะได้โอกาสและ
จะทำงานได้อย่างปลอดโปรงเต็มที่ ก็ต่อเมื่อมีสติคอยช่วยกำกับหนุนอยู่ด้วย การฝึกสติจึงมีความสำคัญมาก
ในวิปัสสนา

พูดอีกอย่างหนึ่งว่า การฝึกสติเพื่อจะใช้ปัญญาได้เต็มที่ หรือเป็นการฝึกปัญญาไปด้วยนั่นเอง
ในภาษาการปฏิบัติธรรม เมื่อพูดถึงสติก็เล็งถึงปัญญาที่ควบอยู่ด้วย และสติจะมีกำลังกล้าแข็งหรือชำนาญคล่องแคล้วขึ้นได้ ก็เพราะมีปัญญาร่วมทำงาน

ปัญญาที่ทำงานร่วมอยู่กับสติในกิจทั่วๆไป มักมีลักษณาการที่เรียกว่า สัมปชัญญะ ในขั้นนี้ ปัญญายังดูคล้ายเป็นตัวประกอบ คอยร่วมมือและประสานงานอยู่กับสติ การพูดจากล่าวขานมักเพ่งเล็งไปที่สติ เอาสติเป็นตัวหลักหรือตัวเด่น
แต่ในขั้นที่ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาอย่างจริงจัง ความเด่นจะไปอยู่ที่ปัญญา
สติจะเป็นเหมือนตัวที่คอยรับใช้ปัญญา
ปัญญา ที่ทำงานให้เกิดความเห็นแจ้งรู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตรงตามสภาพที่มันเป็น เพื่อให้จิตหลุดพ้นเป็นอิสระ
นี่แหละ คือ วิปัสสนา
(อภิ.วิ. 35/612/337 ฯลฯ)

viewtopic.php?f=2&t=18859

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 19 มี.ค. 2009, 05:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2009, 22:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



เห็นมะคับ เป็นเรื่องเดียวกัน :b1: แต่พวกเรามองเหตุกับผลไม่สัมพันธ์กัน
ปฏิบัติสติปัฏฐานให้ถูกต้องก่อนแล้วกิเลสน้อยใหญ่จะถูกขจัดด้วยการปฏิบัติที่เป็นสัมมาปฏิปทานั่นแล
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ :b1:

...

ขยันค้นคว้าพึงศึกษาเกี่ยวกับสติปัฏฐานที่

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13497

ต้องการเห็นภาพรวมของพระพุทธศาสนาก็ลิงค์นี้ อาจเข้าใจพระพุทธศาสนากว้างขึ้น เป็นประโยชน์มากขึ้น

viewtopic.php?f=2&t=19015

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2009, 15:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: :b4: :b4:

หายไว ๆ นะคะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร